ถามค่ะ

มีแม่สามีสุดทนเหมือนกัน เราเลือกที่จะวางเฉย ไม่ยุ่ง ไม่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกัน แต่มันสุดทนจริงๆนะ ไม่เคยพบไม่เคยเจอ ลูกชายกับสะไภ้รักกันมันไม่ดีเหรอ หรือต้องให้ทะเลาะกันทุกวัน จึงจะพอใจ

เคยเจอมั๊ย แม่สามีแบบปากปราศรัยน้ำใจเชือดคออ่าค่ะ พ่อของแฟนเก่าเราแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่เราสมควรเรียกว่าพี่มากกว่าแม่ค่ะ อายุมากกว่าเรา 14 ปีเอง เราคิดว่าsheคงอยากเก็บแฟนเราไว้กินเองมากกว่าเพราะพ่อก็จะตายไม่ตายแหล่อยู่แล้ว คิดดูละกันว่า ญ อายุ 39 กับคนแก่อายุ 63 เขาจะมาแต่งงานกันเพื่ออะไร she คนนี้ต่อหน้ามาทำดีกับเรามากๆ มากจนทุกคนพูดเลยว่าsheรักเรามากที่สุด แต่ลับหลังก็คอยยุแยงตะแคงรั่ว she ขายประกันอ่าค่ะเลยเก่งทางการพูดโน้มน้าวจิตใจ ทำทุกวิถีทางให้แฟนเราต้องไปเรียนต่อโทต่างจังหวัด เราจะตามไปหางานทำที่นั่นก็อ้างสารพัด พูดกับแฟนเราในทำนองที่ว่าเราจะไปเป็นตัวขวางทางเจริญ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตควรต้องสนใจเรื่องงานมากกว่า และขอให้เราเลิกกันไปก่อน ถ้าเป็นคู่กันยังงัยก็ต้องได้กลับมาคบกัน ที่เรารู้ท่าแท้ของแม่คนนี้ก็วันสุดท้ายที่เราเลิกกันนั่นแหละ แฟนเราบอกทุกอย่างทั้งน้ำตาว่าคบเราต่อไม่ได้ แม่เขาขอร้อง เขารักเรามากแต่รักกันอย่างเดียวมันยังไม่พอ ทั้งเขาและเราเจ็บปวดมากค่ะ เขาก็ไม่มีใครนะ เลิกมาจาปีแล้วก็ยังไม่มี ส่วนแม่สามีคนนั้น ต่อหน้าก็บอกว่าไม่เป็นรัยนะคะ คบกันเป็นเพื่อนกันไปก่อน มีอะไรโทรมาหาแม่ได้นะ เราก็ลองแอดเอ็มไป sheรับนะคะ แต่ไม่เคยได้เห็นsheออนเลย เวลาโทรไปก็ไม่รับและก็ไม่คิดโทรกลับ เป็นอย่างนี้จะให้คิดว่าเขารักเราอย่างที่เฟคอยู่มั๊ย ทั้งๆที่เรากับแฟนรักกันมาก เราอยู่ด้วยกันแล้ววางแผนเก็บเงินร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตแล้ว เพราะแม่เลี้ยงสามีคนนี้คนเดียว เจ็บค่ะแต่ก็แอบหวังว่าสักวันคนชั่วจะได้รับผลกรรม ขอโทดที่เข้ามาระบายซะยิดยาวเลยนะคะ

ปัญหาโลกแตกจริงๆค่ะ น่าเบื่อเช่นกัน อดทน แฟนเราดีกับเราที่สุดก็พอค่ะ ส่วนตัวเองนั้นก็ยังเป็นแบบเดิม
แค่ไม่คุยกันในบ้านเดียวกัน มันก็เครียดดดเต็มทนแล้วค่ะ คุณmakigo เองยังแค่ไปเที่ยวหา ก็ปรี๊ดดแล้ว
แล้วดิฉันหละคะ 24 hour ฮ่าา เซโรงังจริงๆๆ

ของเรานะคะ  เราทำดี เอาใจแม่เขา ทำด้วยความจริงใจมาหลายปีเลย แต่แม่สามีไม่เคยเห็นความดี คอยพูดกระทบให้ลูกชายหาเมียใหม่ ให้เอาเมียที่เป็นคนบ้านเดียวกัน  พูดตลอดเลย  

เราไปบ้านแม่สามีทุกเทศกกาลเช่นปีใหม่ สงกรานต์   เราลืมสังเกตว่า เอ๊ะ ทุกครั้ง  แม่เขาไม่เคยสนใจเลยว่าเราจะนอนที่ไหน มีที่นอนไหม   สามีเราพอถึงบ้านก็ไปกินเหล้ากับญาติๆกับเพื่อน  จะกลับมานอนบ้านตัวเองก็วันสุดท้ายก่อนกลับ    ส่วนเราต้องนอนตากยุง นอนพื้นกระดาน   ส่วนแม่เขาก็นอนในมุ้งนอนฟูกเปิดพัดลม      เราก็ยังพาซื่ออีกคิดว่าแม่เขาไม่มีเครื่องนอน   เราก็เลยซื้อไปชุดนึง  พอกลับไปอีกปรากฏว่า หายไปแล้ว       ,,,,ก็อืมมนะ   คือแกจงใจที่จะให้เรานอนพื้นกระดานจริงๆ  เราก็ยังไม่สะกิดใจอีก ยังไปอีก  

และครั้งล่าสุดที่ทำให้ตัดสินใจเลิกไปเหยียบบ้านแม่สามีก็คือ  ดิฉันทะเลาะกับสามีนิดหน่อยคือ ดิฉันต่อว่า เรื่องเขาไปกินเหล้า  แล้วไม่กลับบ้าน  สามีก็กำลังเมา เขาก็พูดเสียงดัง   แต่ทว่า แม่สามี กลับ เสียบเข้ามา ตะโกนขึ้นเสียงใส่หน้าดิฉัน  ว่า   แกเป็นใคร อย่ามาทะเลาะกันที่นี่นะ  แกออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้   ดิฉันงงมากๆเลย  เพราะเรื่องมันเล็กๆ   แต่แกทำไมพูดแบบนี้     มานึกได้ก็ อ๋อ  แกหาโอกาสที่จะพูดจะไล่นั่นเอง
จนวันนึงเราเลยเล่าให้พี่สาวฟังว่า เจออย่างนี้    พี่สาวก็โมโหเลย  บอกว่า ถ้าเป็นเขาเขาจะไม่ไปแล้วทำกันแบบนี้       ดิฉันก็เลยมาคิดทบทวนดู  ก็เลยเลิกไปบ้านแม่สามีแล้ว  เป็นไงก็เป็นกัน   

ลืมบอกค่ะว่าแม่สามีเป็นคนอีสาน   แต่คนอีสาน99.99%จะเป็นคนใจดี  ยิ้มง่าย 
ยกเว้นแม่สามีที่ใจดำมาก   งานแต่งของดิ ฉัน แกก็ไม่ได้ช่วยอะไรซักบาท   ตอนผูกข้อมือ แกเอาตังค์ใส่ในขันให้ดิฉัน 20  บาท  พูดเรื่องนี้ทีไร ปรี๊ดทุกทีเลยค่ะ                                                                                             แม่สามีเป็นคนพูดมาก พูดเสียงแปร๋นๆ  ชอบพูดเสียดสีเรื่องนั้นเรื่องนี้   ประมาณว่าคนเราแกแต่อายุ
แต่พฤติกรรมแย่มาก
แต่สามีดิฉันนั้นซื่อมากๆ  มองอะไรไม่ออกเลย       ดิฉันไม่ไปเหยียบบ้านแก  แกก็ไม่มาเหยียบบ้านดิฉัน  
แต่มาพักหลังแกคงคิดใหม่มั๊งคะ   ถ้าสามีดิฉันไม่กลับบ้าน เช่น ช่วงปีใหม่   บางครั้งก็ติดธุระ       แม่สามี ก็จะมาที่บ้านดิฉันค่ะ  มาอยู่นานเลย   และ ที่รับไม่ได้จริงๆก็คือ  แกใช้มือเปิบข้าวค่ะ  แม้ว่าเราจะใส่ช้อนกลางแกก็ไม่ใช้  แกจะใช้มือจุ่มลงไปในถ้วย แกง ถ้วยต้มเลย  แล้วก็หยิบ เอาพวกเนื้อหมู ไก่ มาสลัดๆน้ำแกงออก  แล้วก้เอาเข้าปาก  อืมม  ทำให้ดิฉันกินข้าวไม่ลงเลย     ดิฉันก็เลยไม่กินกับข้าวพวกที่เป็นน้ำ  เลี่ยงไปกินของแห้งแทน 

นอกจากนั้นยังมีเรื่อง  เอ่อ    ใส่เสื้อผ้าซ้ำ   คือใส่ประมาณ ห้าหกครั้งมั๊ง   เวลาออกไปข้างนอก  กลับมาก็จะถอดเสื้อ พาดไว้  แล้วพอจะออกไปอีก  ก็จะใส่ตัวเดิม ซึ่งมันเหม็นมากๆ   ไม่ใช่แกไม่มีเสื้อนะคะ  แต่ทว่าเป็นความเคยชินของแกค่ะ   ผ้าถุงก็ใส่ซ้ำ  เหม็นมากๆ  คุณคิดดูสิคะ นั่งในห้องรับแขก   แคบๆ กลิ่นมันขนาดไหน     ดิแนจะเลี่ยงเข้าห้องนอนก็ไม่ได้ เพราะจะดูไม่ดี   ก็ต้องทน แทบสลบ  
พอแกขึ้นรถมาด้วย  กลิ่นแกคับรถเลย  โอยๆๆ     ที่ระบายมาเนี่ย ไม่ได้รังเกียจหรือดูถูกอะไรนะคะ 

เพราะญาติทางสามีพี่สาวดิฉันก็เป็นคนอีสาน แต่พวกเขาไม่เป็นแบบนี้ค่ะ     
ที่ทำให้ตัดใจได้สุดๆก็คือ  แกพยายามจะดันให้สามี ไปเอากับผู้หญิงคนบ้านเดียวกัน 
ทุกครั้งที่ดิฉันไปบ้านแม่สามี ก็จะเจอผู้หญิงคนนี้ตลอด   พอวันที่เราจะกลับ ผู้หญิงคนนี้จะขอติดรถมาลงในตัวเมืองทุกครั้งเลย     แม่สามีก็จะพูดชื่นชม อยู่บ่อยๆ โดยที่แกไม่นึกถึงดิฉันเลย  ทั้งๆที่ทำดีกับแกมาตลอด

เมื่อตัดสินใจได้  ก็เลยไม่ไปเหยียบอีก  ให้สามีไปคนเดียว ใครจะอะไรยังไง  หรือจะเกิดอะไรก็ช่าง
เพราะดิฉันเตรียมใจไว้แล้ว  และเตรียมพร้อมแล้ว มีทรัพย์สิน เก็บไว้ส่วนหนึ่งแล้ว
รอแต่ว่า ถ้ามีสัญญาณจากสามีเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะค่ะ   แต่ ว่านี่ก็ผานมาหลายปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไร
ดิฉันกับสามีจะสนิทกันมาก  รักกันมากและสนิทใจกันจนเหมือนเพื่อน ดิ
ฉันไม่ไปบ้านเขา เขาก็ไม่ว่าอะไรค่ะ 

ยังไงก็แล้วแต่ ก็ไม่ได้วางใจอะไรหรอกค่ะ  เพียงแต่ตอนนี้ทำใจพร้อมรับได้หมดแค่นั้นเองค่ะ

ต้องขอโทษนะคะ ที่เขียนยาวเลย

 ปัญหาโลกแตกจริงด้วย เราเข้าใจค่ะ
เรา แค่เจอวันหยุด เสาร์ อา. ก็ไม่อยากอยู่ด้วยแล้วหล่า


มันมีเรื่องจุกจิกแบบ ที่ตอนแรกไม่น่าเป็นปห.ได้
ก็คุยกันกับแฟนว่า คงแยกมาอยู่ค่ะ อยู่รวมกันนานไม่ได้แน่ๆ ตอนนี้เราก็ไม่เข้าไปที่บ้านเค้ามาหลายเดือนละ
สู้ๆนะคะ