บางส่วนของอาวุธ(ลับ)ของข้าพเจ้า

เอ่อ ขอโทษท่านทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้ คือรูปอาจจะใหญ่ไปหน่อยนะค่ะ ยังทำไม่ค่อยจะเป็นค่ะ
เอาหละเซตนี้ ซื้อจากญี่ปุ่นนะค่ะ ยี่ห้ออะไรก็จำไม่ได้จริงๆเค้าผลิตขายในเมือง Hiroshima เลือกมาหลายยี่ห้อ แต่มาติดใจที่ด้ามเป็นสีแดงค่ะ เซตนี้มีหกด้าม ถ้าอยากได้ต้องสั่งจองค่ะ รอประมาณหนึ่งอาทิตย์เซตนี้คนขายใจดี สลักชื่อและนามสกุลของเราเป็นภาษาญี่ปุ่นอักษร คาตาคานะ ลงไปด้วย (スラサラン　ピンワヂィー) สนนราคาก็ประมาณ 18000 yen นะค่ะ แพงเอาเรื่อง แต่ว่าใช้มานานหลายปีแล้วค่ะ

ข้อดีของแปรงชุดนี้คือจับถนัดมือ แล้วเราชอบแปรงด้ามที่สามและห้า ไล่ลำดับจากล่างไปหาบนนะค่ะ ตัวที่สามไว้ทาอายแชโดว์ ตัวนี้ทำให้เกลี่ยเนื้อแป้งในวงกว้างได้ อาศัยการบังคับมือนิดหน่อยก็ออกมาเป็นที่พอใจทีเดียว

และเจ้าด้ามที่ห้านั้น สังเกตว่ามันจะตัดเฉียงเป็นพุ่มๆ น่ารักพอดีใต้เบ้าตาเลย เอาไว้ปัดแป้งวิ่งๆๆๆๆๆ ทำไฮไลด์ตามจุดต่างๆค่ะ หรือบางทีอยากปัดแก้มกลมๆ ก็เอาด้ามนี้จิ้มๆ ลงไปในบลัชออนแล้วก็กดๆหมุนเป็นวงกลมได้ถนัดมือทีเดียว

ส่วนที่ไม่ชอบเอาซะเลยคือ แปรงหมายเลขหก นั่นก็คือแปรงปัดแก้มปลายบานๆๆๆแฉ่ง มันบานไปค่ะ ทำให้ควบคุมเนื้อที่ในการปัดได้อยาก นี่กะว่าจะไปถอยตัวใหม่เป็น RMK ตามป้าจี เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม หุหุ (เมื่อทำใจได้ว่าเจ้าแปรงบานจะถูกทิ้งไว้เฉยๆ)

ตัวอื่นๆคิดว่าไม่น่าต่างจากของยี่ห้ออื่นๆเท่าไหร่ แปรงปัดคิ้วกับเขียนคิ้วอย่างด้ามหนึ่งและสองเป็นต้น แต่ขอเสริมว่าด้ามแรกนี่คอของด้ามมันเล็กเรียวมากๆ มันเด้งๆนิดหน่อย ใช้แล้วเหมือนเป็นโปร แต่ฝีมือเราเองแหละที่ไม่โปร

อาวุธอีกกลุ่มนึงที่อยากจะฝากไว้ให้ดูกันนะค่ะ สำคัญมากๆ สาวๆที่แต่งหน้าทุกคนควรจะมีไว้ แต่นแตนแต้นนนนนน

หุหุ บอกแล้วว่าสาวๆทุกคนควรจะมี บนสุดค่ะ มาสคาร่า ข้าพเจ้าใช้ของ เมบิลีน เด้งและยาวและหนา กลับไปดูภาพได้ที่กระทู้แรกที่ลงไว้นะค่ะ แต่ว่าพอสายๆ จะแปรอะๆที่ใต้ตาหน่อยเพราะเป็นคนที่เปลือกตามันมากๆๆๆ ต้องคอยซับมันออกค่ะ ถัดลงมาเป็น
เจลกากเพชร ซื้อที่ตลาดหน้าบิ๊กซีค่ะใช้ทำเป็น Eye Liner หรือแตะๆนิ้วกดเบาๆไปทั่วเปลือกตาก็เซ็กซี่ดี

ส่วนEye Liner คู่ชีพของแท้ของข้าพเจ้านั้นคือ Bobbi Brown สีดำสนิทพร้อมแปรงเจ้าค่ะ ติดทนตั้งแต่เช้ายันเย็นไม่หลุดไม่ลอกออกมาให้รำคาญใจเลยซักนิด ถ้าคาเวีย ของป้าจีนเขียนยากก็ลองตัวนี้เป็น Back Up ตัวถัดไปดูนะค่ะ

ส่วนแหนบ เฮ้อๆๆๆๆ ใช้จัดการกับขนตาที่ไม่พึงประสงค์ค่ะ ดึงๆถอนๆมันออกไป พกติดตัวไว้ตลอดนะค่ะ บางทีใช้ถอนขนจมูกด้วย คิคิ อ๊ะอ๊ะ อย่าคิดว่าซกมก ถึงเวลาออกเดทแล้วจะต้องขอบใจมันค่ะ

ส่วนที่ดัดขนตา ข้าพเจ้าเทใจให้ Shiseido เต็มร้อย แต่เชื่อไม๊ เมืองไทยนั้นยางรีฟิวของมันกลับหายากหาเย็นซะจริงๆๆ เจอขายมีอยู่ที่ อิเซตัน เท่านั้นค่ะ งง มาก เราเลยซื้อตุนมาสามคู่(หกอัน)จากญี่ปุ่นตอนไปเที่ยว ถูกมากๆคู่ละ 100 yen เอง ประมาณ 15 บาทต่ออัน ขยันเปลี่ยนกันบ้างนะเจ้าค่ะ ไม่งั้นขนตาร่วงได้เพราะเจ้ายางที่เสื่อมนี่หละ

เอ้าถัดมาเป็นกรรไกรเล็มขนคิ้วค่ะ ของShiseido อีกแล้วอันนี้ใช้มา 4 ปีก็ยังคมกริบ หัวมันจะแหลมและงอขึ้นด้านบนเล็กน้อย เพื่อว่าจะได้เล็มตามแนวคิ้วได้ถนัดมือ คิดว่าถ้าพังหรือหาย ก็ยังจะใช้ยี่ห้อนี้อีกเพราะดูแล้วคุ้มจริงๆหละ

สุดท้ายท้ายสุด กบเหลาดินสอสี เอ๊ยไม่ใช่ กบเหลา Lip Liner แบบดินสอค่ะ ข้าพเจ้ามีอยู่สองอัน จาก Mac และ Chanel มิอยากจะบอกมัน Made in German ทั้งคู่ และยังคมกริบทั้งๆที่ใช้มาหลายปี สนิมไม่ขึ้น ทำได้ไงเนี่ย แต่ต้องหมั่นเช็ดกันหน่อยนะค่ะสาวๆๆ เดี๋ยวปากจะบวมเพราะลิปติกบูดคา กบ

ฝากไว้เท่านี้ก่อนวันหลังจะพยายามทำรีวิวแบบมีการทดลองใช้ไห้ชมกันนะเจ้าค่ะ

บ๊ายบาย จุ๊ป จุ๊ป