ขอคำแนะนำ...พรุ่งนี้ไปสอบสัมภาษณ์ชิงทุนพระราชทาน

คือว่าพรุ่งนี้ต้องไปสัมภาษณ์ชิงทุนพระราชทานของในหลวงค่ะ
แต่ทว่า.....
เราไม่เคยสัมภาษณ์มาก่อนเลยในชีวิต

เลยอยากจะรู้ว่าเราควรแนะนำตัวเองอะไรบ้าง??
นอกเสียจากชื่อ-สกุล มหาวิทยาลัย-สาขาที่เรียน

ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ T-T

Discussion (10)

ขอบคุณมาก ๆเลยนะคะ พรุ่งนี้ต้องสอบสัมภาษณ์แล้ว ตื่นเต้นพอสมควรเลยแต่ได้รับคำแนะนำดีๆ ก็รู้สึกว่าไม่น่าเกินความสามารถ

@ lolitace ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ได้ข้อมูลมาเตรียมตัวเยอะแยะเลย

lolitace

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ได้ข้อมูลมาเตรียมตัวเยอะมากเลยคะ
เราเคยสัมภาษณ์รางวัลนักเรียนพระราชทานของในหลวงนี่เป็นคำถามและสถานการณ์ที่เราเคยเจอ ลองๆคิดคำตอบไว้ คล้ายๆเก็งข้อสอบนะ ^^
เหตุการณ์วันนั้นจำได้คร่าวๆว่า เริ่มจากนั่งรอด้วยความตื่นเต้น สักพักมีคนมาตามเพราะเราสัมภาษณ์เป็นคนที่สาม เคาะประตูก๊อกๆพอได้รับคำอนุญาติก็เดินเข้าไป มีผู้สัมภาษณ์อยู่หลายท่านจ้องมองมาที่เราเป็นตาเดียว ตื่นเต้นสุดยอด แต่!!! ต่อให้คุณตื่นเต้นแค่ไหนอย่าแสดงท่าทางขาดความมั่นใจเป็นอันขาด อย่างแรกที่แนะนำคือ "รอยยิ้ม กับสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่" ห้ามลืมเด็ดขาดนะคะ ยกมือไหว้ตามประเพณีไทย แล้วยิ้มให้บางๆ (ถ้ายิ้มกว้างเกินท่านกรรมการที่เคารพอาจคิดว่ายัยเด็กนี่เมากัญชาได้) กรรมการจะเชิญให้เรานั่ง แต่ถ้าเขาไม่เชิญก็อย่าลืมขออนุญาติก่อนที่จะนั่ง
มาถึงคำถามยอดนิยมที่เจอๆกันมา
-แนะนำตัวมาคร่าวๆ?
-บอกบุคคลที่คุณใช้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตมาสิ? คุณประทับใจอะไรในบุคคลท่านนี้?
- คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน?
-บอกข้อเสียของตัวเองมาซิ? แล้วคุณคิดจะแก้ไขมันหรือเปล่่า
-คุณคิดว่าคุณสมบัติอะไรในตัวคุณ ที่ทำให้คุณควรได้รับทุนการศึกษานี้?(อันนี้สำคัญมาก รู้ๆกันอยู่เน๊อะ)
-อื่นๆ คำถามพื้นๆทั่วๆไปหรือวิชาการเฉพาะด้านที่เราเรียน สิ่งที่ท่านกรรมการทั้งหลายจะดูคือเราเป็นคนแบบไหน โลกทัศน์กว้างไหมในสายวิชาหรือความรู้รอบตัว เราเคยเจอแบบคุณทราบไหมว่ารัฐมนตรีกระทรวงการศึกษาคนปัจจุบันคือใคร (ไม่เกี่ยวอะไรกับสายวิชาเลย) หรือคุณทราบหรือเปล่าว่าปีนี้พระองค์ท่านทรงครองราชครบกี่ปีแล้ว อันนี้เจอไม่เหมือนกันนะ

คำแนะนำคือ: 1.จงเป็นตัวของตัวเอง ตอบทุกอย่างจากความรู้สึกในใจ ถ้าคุณบอกว่าบุคคลที่เอาเป็นแบบอย่างคือซุปเปอร์แมน หรือเซเลอร์มูน ก็ขอให้คุณรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เพราะถ้าคุณเสแสร้ง มันจะแสดงออกมาจากท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ ทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติที่สุด
                     2. คิดว่าการไปเจอคนสอบสัมภาษณ์ก็เหมือนไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ที่ต้องให้ความเคารพ(เพราะวัยวุฒิมากกว่า) ท่านๆทั้งหลายมีหน้าที่คัดเลือกคุณสมบัติของผู้รับทุน ดังนั้นจะคัดได้ก็ต้องรู้จักว่านักเรียนแต่ละคนเป็นแบบไหน เขาจะพยายามทำความรู้จักเรามากที่สุดในการพูดคุย ดังนั้นต่อให้กรรมการหน้าโหดขนาดไหนก็ต้องคิดไว้เสมอว่าเป็นเพื่อนที่อยากจะรู้จัก (ตรรกะแปลๆนะ แต่เราก็ใช้ตรรกะนี้ล่ะคว้าทุนมาเหอๆ)
                    3.ว่าด้วยเรื่องการสบตากรรมการ เป็นการยืนยันความจริงใจ และตอกย้ำความมั่นใจซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมาก ต่อให้ขาสั่นพั่บๆหรือมือเย็นเป็นน้ำแข็งขั้วโลก ก็ต้องทำท่าว่าข้ามั่นใจไว้ก่อน (ชักใส่อารมณ์) ในการสบตากรุณาเก็บรังสีอัมหิตให้มิดชิด ขอย้ำว่าสบตาไม่ใช่จ้องตานะคะ เหอๆ
                     4. ช่วงเวลาก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ หาอะไรทำคลายความตื่นเต้นหรือให้เรามีความรู้สึกเชิงบวกจะช่วยได้มาก ตอนเราน่ะเราเอาเพลงเบาๆมาฟัง ส่วนเพื่อนเรามันเอาหนังสือนิยายมาอ่านอ่ะนะ
                    5. อันนี้เป็นคำเตือน เนื่องจากเราไม่รู้จักหน้าคนสอบสัมภาษณ์ แต่ท่านๆอาจจะนึกสนุกอยากรู้จักเรา โปรดระวังไว้แม้เวลาอยู่หน้าห้องสัมภาษณ์ บางทีกรรมการสอบก็ขี้เล่นไม่น้อย ตอนเราน่ะมีคุณป้าแก่ๆทำเป็นเดินมานั่งข้างๆ ถามโน่นนี่ ป้าแกแต่งตัวไม่ได้สมเป็นคนสอบเลยสักนิด แต่มารู้ตอนหลังว่าอ้าวนี่ก๊วนเดียวกับพวกข้างในห้องสอบนี่หว่า ทำเอาเหวอเลย

สุดท้าย นึกไม่ออกแล้วขอให้โชคดีนะคะ ทำทุกอย่างให้เต็มที่จะเป็นกำลังใจให้


@HappybeE  ขอบคุณที่มาให้กำลังใจค่ะ
@tulisia  ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจค่ะ