อยากระบายเรื่องของคนใจแคบ
llbrll15เนื่องด้วยเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ได้ย้ายมาอยู่คอนโดกับเพื่อน
ทั้งๆ ที่บ้านก็อยู่ กทม. แต่ขี้เกียจตื่นเช้าฝ่ารถติดมาเรียน
ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจเลือกคอนโดแถวพระราม 6
เป็นห้องชุดค่ะ ไม่ได้หรูหราอะไร แต่ก็พอใช้ได้เลย
ตอนไปดูห้อง เจ้าของเค้าก็ดูใจดี ไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้...............เราเลยตกลงที่จะอยู่ที่นี้
จากนั้นพอตอนเซ็นต์สัญญา เพื่อนก็เป็นคนเซ็นต์ ในสัญญาให้อยู่ 1 ปี ก็งงๆ อยู่ ตอนที่คุยไม่ได้ระบุอะไร อย่างที่บอกว่าอะไรก็ได้
เพื่อนก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ เพราะคงอยู่จนเรียนจบ เสร็จสรรพก็จ่ายค่ามัดจำไป 14,000 บาท
อยู่มาได้ 2 เดือน เพื่อนก็ป่วย เนื่องจากเป็นโรค SLV เข้า รพ. ตั้งแต่ปลายธันวาปีที่ผ่านมา
เราก็ไปบอกกับเจ้าของห้องว่าอาจจะย้ายออกน่ะ เพราะเพื่อนป่วยหนักมาก
เค้าก็แบบแทนที่จะแสดงน้ำใจห่วงใยซักนิดก็ไม่มี กลับถามว่าจะให้หาคนใหม่มาเลยรึป่าว.............เราก็อึ้งน่ะ แต่ไม่ได้อะไร
เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนเราเสียแล้ว ก็เลยบอกเค้าว่าจะย้ายออก เค้าก็อ้ำอึ้ง ไม่ยอมคุยกับเรา อ้างว่าจะคุยกับแม่ของเพื่อนเราที่เสียไปแล้วอย่างเดียว เราก็งงน่ะ คือ ไม่ใช่เด็กๆ แล้วไง คุยได้
อีกอย่างที่เราไม่เคยคิดเลย คือ ค่ามัดจำ เราคิดอยู่ตลอดว่าเค้าจะคืน คือ แบบเพื่อนตายอ่ะ ไม่ได้ผิดสัญญาน่ะ มันเป็นเหตุที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ
พอเราไปงานศพ เราก็ถามแม่ว่าเค้าได้โทมารึยัง แม่ก็บอกว่าไม่เห็นโทร แม่ก็เลยโทรให้ สรุปว่าอีเจ๊มันไม่คืนค่ะ แม่ก็อ้อนวอนว่าคืนแต่ของเราก็ได้ ส่วนของลูกเค้า ถือ ว่าทำบุญ อีเจ๊มันก็อ้างโน่นอ้างนี้ อ้างควายๆ มากๆ บอกว่าต้องซื้อเฟอร์ใหม่ อันเก่าเอาไปบริจาค เหตุผลนี้ยิ่งงง คือ เพื่อนตายที่โรงพยาบาล เกี่ยวไร มันเลยเปลี่ยนใหม่บอกว่าเป็นค่าที่ใช้เฟอร์มันไป 3 เดือนกับค่าน้ำไฟเดือนสุดท้าย คือ 14000 หักหมด นี้ถ้าอยู่ครบปีไม่ต้องติดลบหรอเนี่ยยย แล้วก็เจ๊ไม่รับโทรศัพท์อีกเลยยยยย
เราเจ็บใจน่ะ แต่ทำอะไรมันไม่ได้จริงๆ เลยมาระบายให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
ทั้งๆ ที่บ้านก็อยู่ กทม. แต่ขี้เกียจตื่นเช้าฝ่ารถติดมาเรียน
ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจเลือกคอนโดแถวพระราม 6
เป็นห้องชุดค่ะ ไม่ได้หรูหราอะไร แต่ก็พอใช้ได้เลย
ตอนไปดูห้อง เจ้าของเค้าก็ดูใจดี ไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้...............เราเลยตกลงที่จะอยู่ที่นี้
จากนั้นพอตอนเซ็นต์สัญญา เพื่อนก็เป็นคนเซ็นต์ ในสัญญาให้อยู่ 1 ปี ก็งงๆ อยู่ ตอนที่คุยไม่ได้ระบุอะไร อย่างที่บอกว่าอะไรก็ได้
เพื่อนก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ เพราะคงอยู่จนเรียนจบ เสร็จสรรพก็จ่ายค่ามัดจำไป 14,000 บาท
อยู่มาได้ 2 เดือน เพื่อนก็ป่วย เนื่องจากเป็นโรค SLV เข้า รพ. ตั้งแต่ปลายธันวาปีที่ผ่านมา
เราก็ไปบอกกับเจ้าของห้องว่าอาจจะย้ายออกน่ะ เพราะเพื่อนป่วยหนักมาก
เค้าก็แบบแทนที่จะแสดงน้ำใจห่วงใยซักนิดก็ไม่มี กลับถามว่าจะให้หาคนใหม่มาเลยรึป่าว.............เราก็อึ้งน่ะ แต่ไม่ได้อะไร
เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนเราเสียแล้ว ก็เลยบอกเค้าว่าจะย้ายออก เค้าก็อ้ำอึ้ง ไม่ยอมคุยกับเรา อ้างว่าจะคุยกับแม่ของเพื่อนเราที่เสียไปแล้วอย่างเดียว เราก็งงน่ะ คือ ไม่ใช่เด็กๆ แล้วไง คุยได้
อีกอย่างที่เราไม่เคยคิดเลย คือ ค่ามัดจำ เราคิดอยู่ตลอดว่าเค้าจะคืน คือ แบบเพื่อนตายอ่ะ ไม่ได้ผิดสัญญาน่ะ มันเป็นเหตุที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ
พอเราไปงานศพ เราก็ถามแม่ว่าเค้าได้โทมารึยัง แม่ก็บอกว่าไม่เห็นโทร แม่ก็เลยโทรให้ สรุปว่าอีเจ๊มันไม่คืนค่ะ แม่ก็อ้อนวอนว่าคืนแต่ของเราก็ได้ ส่วนของลูกเค้า ถือ ว่าทำบุญ อีเจ๊มันก็อ้างโน่นอ้างนี้ อ้างควายๆ มากๆ บอกว่าต้องซื้อเฟอร์ใหม่ อันเก่าเอาไปบริจาค เหตุผลนี้ยิ่งงง คือ เพื่อนตายที่โรงพยาบาล เกี่ยวไร มันเลยเปลี่ยนใหม่บอกว่าเป็นค่าที่ใช้เฟอร์มันไป 3 เดือนกับค่าน้ำไฟเดือนสุดท้าย คือ 14000 หักหมด นี้ถ้าอยู่ครบปีไม่ต้องติดลบหรอเนี่ยยย แล้วก็เจ๊ไม่รับโทรศัพท์อีกเลยยยยย
เราเจ็บใจน่ะ แต่ทำอะไรมันไม่ได้จริงๆ เลยมาระบายให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
Discussion (15)
ทั้งที่ราคาไม่ได้แพงมากมาย แถมเป็นห้องชุดด้วย
แสดงความเสียใจเรื่องเพื่อนด้วยค่ะ
แต่ก็ตามนั้น สัญญาคือเป็นเรื่องของสัญญาเรื่องของธุรกิจ เพราะว่าอาจมีเหตุฉุกเฉินขึ้นเช่นกรณีนี้ สัญญาเลยเป็นตัวกำหนดว่าเค้าต้องได้ค่าชดเชยในส่วนที่เค้าควรจะได้ แต่ดันหายไป
แต่ถ้าพูดตามหลักมนุษยธรรม เจ๊นี่ถือว่าแย่!
คล้ายๆกัน พี่อยู่หาดใหญ่ ตอนน้ำท่วมที่ผ่านมานะ ชัดๆเลย บางเจ้าของที่ไม่สนหรอกใครเจ็บ ใครตาย ใครเสียทรัพย์สิน ค่าเช่ายังงัยก็ต้องจ่ายต่อไปตามสัญญา แต่ในขณะที่บางเจ้าใจดี๊ ใจดี(เจ้าของที่ ที่เพื่อนพี่เช่าบ้าน&ขายของด้วย) ค่าเช่าเกือบสองหมื่นต่อเดือนแน่ะ แต่เค้าไม่เก็บเลย 3 เดือน เค้าบอกเห็นใจ รายได้ก็ไม่มี จะเอาที่ไหนมาจ่าย (ทั้งที่บ้านเค้าเองก็โดนท่วมเหมือนกันนะ)...เพื่อนโชคดีมากอ่ะ^^
ส่วนเรื่องมัดจำ เราว่ามันพูดยากอ่ะ คือมันคล้ายๆ การค้าอย่างนึง
คุณตกลงกับเค้าไปแล้วว่าเช่่า 1 ปี ถ้าไม่แน่ใจก็น่าจะเช่าเป็น 3 เดือน 6 เดือนไป
จะได้ไม่โดนริบมัดจำเยอะขนาดนี้ด้วย
เพราะถ้าเค้าไม่ตกลงกับคุณอาจจะมีคนอื่นมาเช่าก็ได้
เมื่อคุณตกลง เค้าให้คุณเช่าแล้ว คนอื่นที่ดูไว้ก็คงไปเลือกที่อื่น
ตอนนี้ต่อให้ห้องว่าง คนที่ดูไว้พร้อมๆ กับคุณก็คงไม่กลับมาเอา
แทนที่เค้าจะได้ค่าเช่ายาวๆ 1 ปี กลับกลายเป็นไม่ได้ แถมยังต้องรอคนมาาเช่าใหม่อีก
ถ้าคุณไม่อยากเสียตรงนี้น่าจะหาคนมาเช่าแทนอย่าง คห. 9 ว่านะคะ
เพราะเค้าก็คงไม่อยากได้แค่มัดจำหรอกค่ะ
แล้วถ้าเค้ามาคืนมัดจำให้คุณอีก เท่ากับเค้าไม่ได้อะไรเลย
แถมยังต้องเสียผู้เช่าที่อาจจะได้ไปอีกด้วย
คิดซะว่าให้เค้าไปแล้วกันเนอะ จะได้สบายใจขึ้นมาบ้าง
มันเป็นคอนโดที่คนเค้าซื้อทิ้งไว้แล้วให้คนเช่าเฉยๆ เลยคิดว่าคงไม่น่าจะอะไรมากมายจากที่เคยได้คุยกับเค้าตอนแรก
เพราะถ้าเราเป็นเจ้าของห้องเราก็จะคืนให้เหมือนกัน