เคยมั้ยค่ะ โดนคนขายของมองแบบไม่ดี :(

เราก็เคยเจอ มองตั้งแต่หัวจดเท้าเลย ไม่สนใจเราแต่เราก็ซื้อนะพนงงงเลย เรากลับไปอีกรอบก็เทคแคร์เราอย่างดีเลย

โดนบ่อยมากกกกกกกกกกกคะ ก็ชอบใส่ชุดนร. ไม่ก็ ใส่ชุดธรรมดาสบายๆ

ไปเดินห้าง เพราะห้างแถบๆนี้แต่งดีก็มีแต่คนมอง ร้อนก็ร้อนเราก็กะจะเดินให้หายร้อน ซะหน่อย

แต่มีครั้งนึง

BA M.A.C นี่พอเราเดินเข้าบูทไปก็แบบมองตั้งแต่หัวจรดเท้า

พอถามราคาหน่อยก็พูดดูถูกว่าแบบตั้งพัน5 เชียวนะคะน้อง

เราเคยพูดสวนกลับแบบ พัน5เองหรอคะ ?  ถ้าเงินในกระเป๋าหนูตอนนี้ก็คงซื้อได้ 10 อันก็เหลืออะคะ

พอไหมอ่ะคะ ? ตั้งพัน 5 แหนะเนอะพี่  BA เงียบคะ เราเลยเดินไปซื้อของ BB แทน

BA น่ารักกว่าเยอะแยะ ซื้อไม่ีกี่อันแต่งให้ทั้งหน้าเลย

 เคยเจอเหมือนกันค่ะ ถามอะไรไป บางทีก็ตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจตอบ มีบางครั้งบางทีก็ถอนหายใจใส่เราด้วยว่า ประมาณว่า เรื่องมากแต่น้องจะไม่ซื้อใช่มั้ย อะไรแบบนี้ คือเรากะจะซื้ออะไรหลายๆอย่าง ที่ OP นี่แหละค่ะ แต่พอเจอพนักงานพูดแบบนี้ ก็ไม่ได้หยิบไรมาดูต่ออีกเลย ก่อนออกจากร้านมือเปล่าก็แถมคำพูดกระแทกแรงๆก่อนออกไปว่า ขอบคุณค่ะ!! พอดีร้านเป็นกระจกใส เราแอบหันขวับไปมอง เห็นพวก BA มันคุยๆกันแล้วมองมาทางเราแบบเหยียดๆหมั่นไส้ๆด้วย เรานี่ขึ้นจนแทบอยากกลับไปถามว่ามีปัญหาอะไรมั้ย แต่เพื่อนเรารั้งเราไว้ค่ะ ว่าอย่ามีปัญหาเลย เพราะยังไงก็จะเข้ามาซื้อของในช้อปนี้อยู่ ถ้าไม่อยากยืนประจัญหน้ากับพวก BA ก็คิดไว้เลยว่าจะซื้่ออะไร พอเข้าช้อปก็หยิบของ จ่ายเงิน แค่นั้นจบ เราก็ยอมฟังคำแนะนำเพื่อน เลยตัดใจเดินฟึดฟัดๆผ่านร้านไป ไม่เอาเรื่องอะไร แต่คิดกี่ทีๆก็อดโมโหไม่ได้จริงๆ -*-

ขออนุญาตเล่าที่เจอมามั่งเรื่องนึงนะคะ หมาดๆเลย

พอดีแฟนไปหาซื้อหูฟังไอโฟนให้น้องสาวค่ะ เห็นพี่คนขายที่MBKบอกใช้กับ BB ได้ แถมลองแล้ว ก็ใช้ได้จริง แต่วันที่ไปMBK น้องสาวแฟนติดสอบO-net โทรถามไม่ได้ว่าจะเอาหูไอโฟนหรือบีบี เลยยังไม่ซื้อ

แล้วทีนี้ไปเดินถามราคาที่เซ็นปิ่น แฟนไม่จะกับไอโฟน3มือสองเครื่องนึง

ด้วยความอยากรู้ก็ชี้เครื่องพร้อมถามราคา

ผู้หญิงคนที่เฝ้าร้านก็ถามว่า3จี หรือ3จีเอสคะ

แฟนมัทก็แบบ ชี้เครื่องนี้อะ ถาม3จีหรือ3จีเอส คงไม่รู้จะตอบยังไง

คนขายก็พูดเสริมว่า.. อะ งง ไอโฟนมันมี2จี 3จีกับ3จีเอสไงน้อง ละหันไปหัวเราะกับเพื่อน

มัทก็ตะหงิดใจแล้วแหละ แฟนไม่ชอบคำพูดแน่เลย เสร็จแฟนก็เดินจูงมือออก


มัทไม่รู้เจตนาการพูดของคนขายหรอกค่ะ ใจมัทฟังดูแล้วคล้ายๆดูถูกอยู่ แต่จริงๆอาจจะแค่บอกก้ได้ แต่วิธีบอกอาจจะทำได้ไม่ดีนัก


แฟนมัทพูดกับมัทว่าไม่ชอบคำพูด พูดแบบนี้ไม่ซื้อหรอก

มัทก็ขำนิดนึง เจ๊แกห้อยบีบี มัทก็ไม่ได้ดูถูกคนห้อยบีบีนะคะ เพราะมัทไม่มีทั้งไอโฟนและบีบี ใช้แค่HPไม่มีแอปเสริมเหมือนไอโฟนหรือบีบี

แต่ขำที่ คนที่ชีบอกว่าไอโฟนมี3จี กับ3จีเอสอะ เจ๊รู้มั้ย มันมีไอโฟน4ล็อตแรกอยู่ในกระเป๋ากางเกงมันนะเจ๊

ข้อมูลไอโฟนถามมาเหอะ มีไรที่มันตอบไม่ได้มั่ง ยังกะเจ้าของแอปเปิ้ล ก่อนจะซื้อไม่รู้ศึกษากระทั่งประวัติเจ้าของแอปเปิ้ลป่าว



แค่นี้อะค่ะ ที่อยากเม้า

พี่เป็นอีกคนที่ชอบแต่งตัวสบายๆ ในวันที่ไม่ได้ทำงาน  พอไปห้างก็เจอเหมือนกันกับหลายๆ เคาท์เตอร์ แต่วันไหนแต่งตัวดี/ชุดทำงาน BA สารพัดเคาท์เตอร์เรียกว่าแทบจะมายืนชักแถวต้อนรับยังกะ VIP  ทั้งๆ ที่ในวันสบายๆ นี่แหละจ่ายได้มากกว่าวันทำงานอีก (เพราะมีเวลาเลือกสินค้า มีเวลาฟังเค้าพูดจาชวนเชื่อมากกว่า วันทำงานบางทีมันแแว่บไปตอนพักกลางวันซึ่งต้องรีบกลับ แต่กลายเป็นว่าบรรดา she กลับมองข้าม -- หวยเลยออกที่เคาท์เตอร์/ร้านขายของที่ต้อนรับดีๆ ได้ยอดไปเพิ่มโบนัสปลายปีเป็นการตอบแทนอัธยาศัย) 

เวลาเจอคนบริการดีๆ นี่ บางทีไม่ได้ตั้งใจซื้อยังซื้อเลย เหมือนเมื่อเดือนธันวาที่ผ่านมา วันนั้นพี่ไปปฏิบัติธรรม ก็เลยใส่เสื้อผ้าที่มันลุกนั่งสบายที่สุดเท่าที่หาได้ สีเสื้อไปทาง สีกางเกงไปทาง เสื้อหนาวไปอีกทางเหมือนคนเสียสติ รองเท้าก็รองเท้าฟองน้ำ (เพราะกลัวถอดที่วัดคนเยอะๆ แล้วรองเท้าหาย ไม่กล้าใส่แพง)  พอดีช่วงก่อนขึ้นรถมันอยากเข้าห้องน้ำ แต่แถวจุดนัดหมายนั้นไม่มีสถานที่ใดที่มีห้องน้ำ ยกเว้นแต่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง ก็เลยไปเข้าที่โรงแรม พอออกจากห้องน้ำก็เดินไปตรงมุมเบเกอรี่  ใจนึกหวั่นๆ จะโดนไล่ออกมามั้ยเนี่ย แต่กลายเป็นว่าเค้าต้อนรับดีมากๆ เลย ทำให้จากที่คิดจะซื้อแค่ครัวซองส์มากินเล่นสัก 2 ชิ้น กลายเป็นเอาคุ๊กกี้ช็อคโกแล็ตชิปมาอีกถุงนึง เบ็ดเสร็จจ่ายค่าขนมไป 600 กว่าบาท แล้วก็ไม่เสียดายตังค์ด้วย  นี่เพราะอัธยาศัยพนักงานแท้ๆ เลย