เรื่องวิตามินค่ะ^^
ning_princessza3เราอยากรู้ว่าทานวิตามินCคู่กับวิตามินb3ได้รึป่าวคะ??
แล้วมันมีผลเสียอะไรรึป่าว
แล้วประสิทธิภาพของวิตามินจะลดลงมั๊ยอ่าค่ะ - -??
แล้วมันจะมีผงวิตามินcกับ...เอ่อ...มันเป็นวิตามินCในหลอดแก้วอ่าค่ะ
ไว้ใช้สำหรับผสมครีม+มาส์กหน้าอะค่ะ
จะใช้คู่กับผงวิตามินB3ที่ไว้ผสมครีม+มาส์กหน้า ได้รึป่าวคะ
ช่วยหน่อยนะคะ^^
เราอยากรู้ว่าทานวิตามินCคู่กับวิตามินb3ได้รึป่าวคะ??
แล้วมันมีผลเสียอะไรรึป่าว
แล้วประสิทธิภาพของวิตามินจะลดลงมั๊ยอ่าค่ะ - -??
แล้วมันจะมีผงวิตามินcกับ...เอ่อ...มันเป็นวิตามินCในหลอดแก้วอ่าค่ะ
ไว้ใช้สำหรับผสมครีม+มาส์กหน้าอะค่ะ
จะใช้คู่กับผงวิตามินB3ที่ไว้ผสมครีม+มาส์กหน้า ได้รึป่าวคะ
ช่วยหน่อยนะคะ^^
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
Discussion (3)
เท่าที่เคยรู้มานะคับ
วิตามินทั้ง2 ตัว เป็นวิตามินละลายในน้ำ สามารถใช้น้ำเป็นตัวทำละลายได้ ขับออกมากับปัสสาวะได้
การทานวิตามิน ควรดูที่ความต้องการของร่างกาย(ควรปรึกษาแพทย์) และเราทานเพื่ออะไร
ทานมากเกินไป ก็ศูนย์เปล่า เพราะร่างกายนำมาใช้ได้ เท่าที่มันต้องการจะใช้ ส่วนที่เหลือ ถูกขับไปกับปัสสาวะ
-ทานเพื่อผิวสวย ไม่ใช่ผลโดยตรงจากวิตามินซี แต่มันมีส่วนช่วยเสริมสร้าง คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว รวมทั้ง ไขข้อต่างๆในร่างกาย และป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน (มักจะเกิดกับคนที่ขาดวิตามินซี)
เรื่องผิวสวยอาจจะช่วยได้บ้าง
ทานวิตามินบี3(Niacin) กลุ่มวิตามินบี ช่วยในเรื่องระบบประสาท การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ช่วยในเรื่องสุขภาพผิวหนัง ซึ่งก็อาจมีส่วนช่วยในเรื่องผิวพรรณ ต้องได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ถ้ามากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อตับได้
ทั้ง 2 ตามหลักแล้ว ทานได้ ไม่มีปัญหา ไม่สะสมในร่างกาย เพราะละลายในน้ำ ขับออกทางปัสสาวะเมื่อมีมากเกินไป
แต่ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน ยกเว้น วิตามินบี3 ที่ต้องระวัง อย่าทานในปริมาณมากเกินไป
ถ้าทานเป็นอาหารเสริม ก็ไม่มีปัญหาครับ มีเงินก็ซื้อ ประหยัดหน่อยก็กินผัก กินผลไม้ กินเนื้อสัตว์ ก็ได้คับ
-ส่วนวิตามินซีในหลอดแก้ว ที่ไว้สำหรับฉีดเข้าเส้น ละลายอยู่ในน้ำ ซึ่งถ้าเอามาทาบนผิวในปริมาณมาก อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้นะคับ เพราะ ผิวบางคน บอบบาง อาจแสบ เกิดผดผื่นได้คับ มันมีฤทธิ์เป็นกรด
ถ้าเอามาผสม กับ B3 คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหานะ มันไม่มีฤทธิ์ต้านกัน แต่วิตามินซี ไม่มีความเสถียร โดนอากาศสักพักก็สลายไปหมดแล้วครับ
ดังนั้น เอามา มาร์คหน้า อาจจะไม่ได้ผลที่น่าพอใจ เพราะวิตามินซี สลายตัวเร็ว แต่ถ้ามันอยู่ในรูปที่เสถียร มันก็จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นครับ
วิตามินทั้ง2 ตัว เป็นวิตามินละลายในน้ำ สามารถใช้น้ำเป็นตัวทำละลายได้ ขับออกมากับปัสสาวะได้
การทานวิตามิน ควรดูที่ความต้องการของร่างกาย(ควรปรึกษาแพทย์) และเราทานเพื่ออะไร
ทานมากเกินไป ก็ศูนย์เปล่า เพราะร่างกายนำมาใช้ได้ เท่าที่มันต้องการจะใช้ ส่วนที่เหลือ ถูกขับไปกับปัสสาวะ
-ทานเพื่อผิวสวย ไม่ใช่ผลโดยตรงจากวิตามินซี แต่มันมีส่วนช่วยเสริมสร้าง คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว รวมทั้ง ไขข้อต่างๆในร่างกาย และป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน (มักจะเกิดกับคนที่ขาดวิตามินซี)
เรื่องผิวสวยอาจจะช่วยได้บ้าง
ทานวิตามินบี3(Niacin) กลุ่มวิตามินบี ช่วยในเรื่องระบบประสาท การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ช่วยในเรื่องสุขภาพผิวหนัง ซึ่งก็อาจมีส่วนช่วยในเรื่องผิวพรรณ ต้องได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ถ้ามากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อตับได้
ทั้ง 2 ตามหลักแล้ว ทานได้ ไม่มีปัญหา ไม่สะสมในร่างกาย เพราะละลายในน้ำ ขับออกทางปัสสาวะเมื่อมีมากเกินไป
แต่ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน ยกเว้น วิตามินบี3 ที่ต้องระวัง อย่าทานในปริมาณมากเกินไป
ถ้าทานเป็นอาหารเสริม ก็ไม่มีปัญหาครับ มีเงินก็ซื้อ ประหยัดหน่อยก็กินผัก กินผลไม้ กินเนื้อสัตว์ ก็ได้คับ
-ส่วนวิตามินซีในหลอดแก้ว ที่ไว้สำหรับฉีดเข้าเส้น ละลายอยู่ในน้ำ ซึ่งถ้าเอามาทาบนผิวในปริมาณมาก อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้นะคับ เพราะ ผิวบางคน บอบบาง อาจแสบ เกิดผดผื่นได้คับ มันมีฤทธิ์เป็นกรด
ถ้าเอามาผสม กับ B3 คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหานะ มันไม่มีฤทธิ์ต้านกัน แต่วิตามินซี ไม่มีความเสถียร โดนอากาศสักพักก็สลายไปหมดแล้วครับ
ดังนั้น เอามา มาร์คหน้า อาจจะไม่ได้ผลที่น่าพอใจ เพราะวิตามินซี สลายตัวเร็ว แต่ถ้ามันอยู่ในรูปที่เสถียร มันก็จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นครับ
ขอบคุณนะคะที่ช่วยตอบให้...
แล้วคนอื่นคิดว่างัยอะคะ
ช่วยตอบเราหน่อยน้าาาาา*0*