อยากเปลี่ยนร้านดัดฟันใหม่ รอให้ดัดเสร็จค่อยทำใหม่ดีมั้ยนะ T^T

ย้ายที่จัดได้นะค่ะ..เราเคยอยู่..มะก่อนจัดที่สุราษฯพอได้งานที่กทม.ก้อทำที่รามฯค่ะ แต่ต้องมีใบส่งตัวจากหมอเก่านะค่ะเค้าจะเขียนให้หมอที่ใหม่พร้อมกับเอกสารการรักษา+ฟิล์มเอ็กซเรย์ของเรา..แต่กรณีย้ายที่คุณต้องคุยกับคลินิคใหม่เรียบร้อยแล้วนะค่ะว่าเขารับเคสต่อมั้ย ของเราเคสต่อเค้าคิดแรกเข้า 3000 บาทอ่ะเรายอมเสียเพราะสะดวกแต่ถามว่าที่ใหม่ดีป่าวก้อไม่ดีเท่าไรสู้ที่แรกไม่ได้เลย

ลองคุยกับหมอดูก่อนนะคะ ช่วยกันหาทางออก อย่างน้อยเราเป็นคนใช้บริการ เราควรมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่เราพอใจก่อน ทำได้/ไม่ได้ คุณหมอต้องอธิบายอีกที แต่ถ้าอยากจะเปลี่ยน แนะนำให้เปลี่ยนเลย เพราะจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายกับหมอคนเก่าในส่วนที่เหลือค่ะ เราเป็นคนนึงที่เปลี่ยนร้านทำฟันเหมือนกัน แต่คุณหมอคนใหม่ก็ค่อนข้างเขี้ยวนะ เราใช้เครื่องมือจากที่เก่า แต่หมอใหม่ไม่ลดค่าเครื่องมือให้เลย ถ้าจะเปลี่ยนก็ตกลงกับที่ใหม่ก่อนค่ะว่าที่เราอยากได้ เค้าสามารถทำให้ได้มั๊ย จะได้ไม่เสียเงิน/เสียเวลาเนอะ

• เคยดัดฟันเหมือนกันค่ะ หมอบอกว่า 4 ปี แต่ทำจริงๆ มันจะอาศัยเวลานานกว่านั้นนิดหน่อย แล้วแต่เคส สรุปแล้วของเรา 5 ปี แต่เครื่องมือไม่เคยหลุดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
• เรื่องอาหารติดฟัน ก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ มันจะติดอยู่ที่เครื่องมือด้วย ต้องหมั่นทำความสะอาด ถ้าไม่อยากให้ติดมากก็ทานน้อยๆ (ลดอาหารไปในตัว ผอมเพรียว)
• เรื่องฟันข้างในเกยกัน อันนี้ลองคุยกับคุณหมอดูค่ะ ถามว่าที่จัดฟันนี่จะแก้ปัญหาฟันเกยกันได้รึเปล่า
• เรื่องที่หมอไม่ติดเครื่องมือให้เพราะมันหลุด อันนี้ไม่แน่ใจนะค่ะ ว่าทำไมหมอทำแบบนั้น ลองคุยกับหมอตรงๆค่ะ ว่าไม่ติดจะมีผลต่อการจัดฟันมั้ย? หรือว่าหมอจะติดในขั้นตอนหลัง อะไรทำนองนั้น ถามหมอเพราะสงสัยอยากรู้ และเป็นห่วงอนาคตฟันของเรา อย่าถามแบบคาดคั้นนะค่ะ มันคนละฟิลด์กัน
• เรื่องถอนฟัน ... ตอนคุยกับหมอก่อนจัดฟัน คุณหมอน่าจะบอกว่าถอนกี่ซี่ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ อย่างเช่น ตอนแรกบอกจะถอน 2 ซี่ แต่ไปๆมาๆ ตอน 4 ซี่เลย ก็เป็นได้ค่ะ ถ้าหมอเกิดไม่ถอน ก็ถามหมอีกที่ ว่าทำไมไม่ถอน และเพื่อย้ำความมั่นใจ ควรปรึกษามากกว่า 1 ที่ เพราะที่ใหม่ก็คงอยากให้เราไปทำกับเขา ที่เก่าก็ไม่อยากให้เราย้ายไป ปรึกษาหลายที่คิดว่าไม่น่าเสียค่าปรึกษา แต่เสียเวลานิดหน่อยค่ะ แต่ได้ความมั่นใจ แน่ใจ
• ตอนดัดปีแรก ฟันมันก็ยังห่างอยู่ค่ะ จะเริ่มเห็นผลเข้าที่จริงๆ ก็จะเป็นปีที่ 4-5 ดึงด้านโน้น ห่างด้านนี้ เราว่าเป็นเรื่องธรรมดา
• ยิ้มเบี้ยว อันนี้น่าเป็นห่วงที่สุด เอาให้แน่ใจว่าเรายิ้มเบี้ยวจริงๆ ไม่ได้คิดไปเอง และไม่ได้เป็นเพราะเครื่องมือที่อยู่ในปาก ถามหมอจริงๆจังๆเลยว่า เราจะปากเบี้ยวเวลายิ้มรึเปล่า ยิ้มให้หมอดูด้วย บอกด้วยว่ามันเบี้ยวตรงไหน เพราะมันจะเป็นบุคลิกเราทั้งชีวิต ถ้าหมอบอกว่าเบี้ยว ก็ถามไปถึงสาเหตุ และทางแก้ด้วย ถามทุกหมอที่เราไปปรึกษานะค่ะ
• ถ้าอยากคุยกับหมอ ก็บอกหมอตอนที่หมอจะบอกให้เราอ้าปากนั้นแหละค่ะ หมอค่ะหนูอยากคุยด้วยเรื่อง โน้น นี่ นั่น... ถามไปเลยก็ได้ อย่าถามตอนทำเสร็จ เพราะหมอจะรีบไปทำให้คนคิวต่อไป
• ค่อยๆหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ
• ถ้าตัดสินใจแน่ว่าชั้นจะไม่ทำกับที่นี่แล้ว ก็ไปบอกกับหมอที่ใหม่ตรงไปตรงมา ว่าไม่พอใจบริการหรือไม่มั่นใจหมอที่เก่าเพราะว่ามีปัญหา โน้น นี่ นั่น คุณหมอที่ใหม่จะได้เข้าใจปัญหาของเรา และอธิบายถ้าที่ใหม่นี่จะไม่เกิดปัญหาแบบเก่า
• ขอให้โชคดีค่ะ