ขอคำปรึกษาจ้า เรื่องทำโปรเจค

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน เรา้เรียนคณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เรามีปัญหาอึดอัดใจมาก เนื่องจากเทอมนี้เรา ต้องลงโปรเจค 1 ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราจะมีคู่ทำงานคนเดียว และเป็นเพื่อนคนเดียวที่สนิทที่สุด เพราะย้ายมาเรียนด้วยกัน พร้อมกัน (เราเทียบโอนมา เวลาเรียนจึงข้ามไปข้ามมา เรียนคละกันหลายชั้นปี ) และเพื่อนเีราจะเป็นคนคอยติวให้ตลอด เพราะเราไม่เก่งด้านนี้เลย แต่เราก็เรียนผ่านมาได้เกือบทุกวิชา เราจะถนัดด้านภาษา ก็จะช่วยตลอดถ้าเป็นเรื่องนี้ และก็จะคอยเป็นคนจดบรรยาย หาเอกสารมาให้ เพื่อจะให้เพื่อนคนนี้ติวให้ ก็คือแบ่งหน้าที่กัน แล้วสาขาที่เราเรียน อาจารย์จะสนิทสนมกับนักเรียนมาก แต่ด้วยความสนิมสนมนี้เราคิดว่ามันกำลังส่งผลเสียต่อเมื่อวานเราเข้าประชุมเรื่องการทำโปรเจค กำลังจะจบการประชุมแล้ว อ คนที่อบรมก็เลยพูดขึ้นมาว่า ไม่ให้เรา 2 คนทำคู่กัน เราก็หน้าชาไป แต่ก็เข้าใจ ว่า เพื่อนที่คู่เราเขาเก่งมาก แล้วเราไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เราเลยเดินออกจากห้องนั้น แล้วเจอ อ อีก เลยถามว่า อ จะไม่ให้หนูคู่กันจริงๆเหรอ ค่ะ ? อ ก็ตอบกลับมาว่า อยากให้รู้จักโต และทำอะไรเองบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็โดนแยกกันตอนฝึกงาน แล้วเราก็ฝึกงานจบไปแล้วด้วยดี คนเดียว ตอนแรกก็ท้อ เพราะเพื่อนคนอื่นๆได้ไปกันเป็นกลุ่มๆ ซึ่งเราคิดว่า เราก็แสดงให้ อ คนนั้นเห็นแล้วว่าเรา ไปฝึกงานคนเดียวผ่านมาได้ เรากับ อ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่เราไม่รู้ว่าทำไมต้องแยกคู่เราอีก เพื่อนคนอื่นก็ลอกงานส่งกันเหมือนกัน แต่ทำไมมีปัญหาแต่กับเรา เราท้อ รู้สึกเป็นแกะดำตลอด เหมือนเราจะคอยเกาะเพื่อนตลอดเวลาในสายตา อ เราก็ไม่อยากจะมีปัญหากับ อ เพราะเราก็เคารพ อ และรัก แก ด้วย แต่จะให้เราทำโปรเจคคนเดียว เราล่มแน่ๆ ไม่รู้จะคุยยังไง เพราะคำตอบที่ได้คือ คู่ใครก็ได้ ที่ไม่ใช่เพื่อนคนนี้ แล้วทุกคนก็มีคู่กันหมด เพราะแต่ละคนก็จองตัวกันไว้แต่เนิ่นๆ เราก็ถามเพื่อนเราว่า อยากทำกับเราไหม ถ้าไม่อยากก็บอกเรา แต่เพื่อนก็ตอบมาว่าอยากทำ แต่ทำไม อ ทำเกินไป  ตอนนี้สับสน ขอคำปรึกษาเพื่อนๆด้วยนะ เรายอมรับฟังทุกความคิดเห็นจ้า ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

Discussion (5)

ตอนนี้เราก็ทำคนเดียว เราอยู่วิศวเครื่องกล ต่อเนื่อง ก็จบ ปวส มาอ่ะแหละ เหงา มากมาย เราหนักว่าเธอ อีก เราโดนรุ่นน้อง แบน เราทั้งที่เราเป็นรุ่นพี่ มันไม่อยากให้เราอยู่กลุ่มเดียวกับมัน เราเลยต้องทำคนเดียว เอาน่ะ พยายามแค่หายใจให้เต็ม แล้วบอกว่า โลกใบนี้กู้ต้องสู้ถ้าไม่สู้ก็ไม่จบ
Project ไม่ยาากอย่างที่คิดหรอกนะคะ การทำ Project ด้วยตัวเองแค่ตัวเดียว มันทำให้เราเห็นถึงสักยภาพของตัวเราเองมากขึ้น ได้มองเห็นความหลายหลายมุมมองการคิด การทำ ของตัวเองมากขึ้น อย่าไปเครียดเลยนะคะ ทุกอย่างมันเป็นการฝึกตัวเราเองทั้งนั้น ถึงคุณจะไม่ได้ทำคู่กับเพื่อนคุณ แต่คุณก็สามารถทำคู่กับคนอื่นได้ เพราะ น้อยนักที่จะจบไปแล้วได้ทำงานร่วมกัน สู้ๆนะคะ เราเพิ่งทำ Project เสร็จช่วง Summer นี้เองคะ เวลาน้อยมาก ต้องทุ่มเทกับมันเยอะๆ แล้วคุณจะเข้มแข็งขึ้น สู้ๆคะ เป็นกำลังใจให้อย่างใหญ่หลวง ถึงแม้ว่าจะทำเป็นคู่ ยังไงเราก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี เราทำคู่ ก็เหมือนทำเดี่ยว >< แต่พอมันผ่าน เราจะได้รู้ว่า อย่างน้อยก็ทำได้ ^^
@ คุณ far123 และ คุณ ubantu ขอบคณมากนะค่ะ สำหรับคำปรึกษาและกำลังใจดีๆนะคะ ของที่ มอ เรามีนโยบายทำคู่จ้า เพราะเดี่ยวจะเป็นพวกเทพจริงๆ เราเป็นพวกท้อง่าย มีปัญหาอะไรนิดหน่อยก็พอ ไ่ม่อยากสู้ ซึ่งก็เป็นความคิดและการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาโดยตลอด เราปรึกษากับเพื่อนๆ เพื่อนก็บอกจะลองคุยกันกับ อ คนนั้นอีก อ คนอื่นๆก็ไม่มีใครว่าอะไร จะมี อ คนนี้คนเดียวคอยเตือนเราตลอด ตั้งแต่เรื่องการแต่งตัว (เรื่องเล็บยาวกะรองเท้าแตะ)จนถึงเรื่องแฟน เก่า แฟนใหม่ เพราะแฟนใหม่เป็นฝรั่ง เลยฮือฮากันมาก - -" เรากะเพื่อนคนนี้เคยคบกันมาก่อน แล้วก็เลิกกัน เรามีแฟนไหม่ อ ก็ชอบพูดในห้องเรียน บ้าง ในรถทัวร์บ้างเวลา ออกไปดูงาน ซึ่งเพื่อนเราคนนี้ก็เสียใจเหมือนกันว่าทำไม อ ต้องเอาเรื่องส่วนตัวมาพูดเล่น เพราะตอนเลิกกันแรกๆ เพื่อนคนนี้ก็อยู่ในอาการเฮิร์ทมาก แต่หลังจากผ่านช่วงนั้นมาได้ เราทั้งคู่ก็ต่างมีชีวิตของตัวเอง ไม่ติดกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ความสัมพันธ์ยังเป็นแค่เพื่อน ที่สนิทกัน ประเด็นของเรื่องคือเราเองคิดว่าเราก็อยากทำกับคนที่เราเลือกบ้าง และการที่เราทำคู่กับคนที่ไม่สนิท เราว่ามันยากนะที่อะไรๆจะลงตัว เพราะเราก็ยอมให้ อ เลือกและตัดสินใจมาแล้วครั้งหนิ่ง ตอนฝึกงาน แอบน้อยใจ ไม่รู้ว่าความหวังดีของ อ ครั้งนี้จะทำให้เรากล้าเดินต่อ หรือ หยุดไป มอ นี้ก็เป็น มอ ที่ สาม แล้ว ประสบการณ์ หลายเรื่องเจอมามากมาย แต่กับ อ ไม่เคยมีปัญหาเลย เพิ่งจะมา เจอ ที่นี้ ที่ผ่านมา ก็อดทน เรียนไป มีหลายครั้งมาก อยาก เปลี่ยนไปเรียนที่ตัวเองชอบจริงๆ แต่ก็มัวแต่เสียดาย เพราะมันก็ใกล้จะจบแล้ว อีกทั้งเพื่อนก็บอก ว่ามาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไปต่อด้วยกัน ตัวเรา เราคิดว่าเราไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่พอมีปัญหาจากสภาพแวดล้อมมาแบบบ่อยๆก็ เหนื่อยใจมากเหมือนนะ

เคยผ่านการทำโปรเจคมาเหมือนกันคะ มันฝึกการทำงานเป็นทีมจริง ๆ
และที่สำคัญโปรเจคมันสำคัญมาก เพราะไม่ผ่าน จะไม่จบ

ตอนเราเรียนเราก็คิดเหมือนคุณ ว่า เราจะเอาคนที่สนิทที่สุด ซึ่งก็ได้คู่กัน แต่ผลคือ มันไม่เป็นดังคิด เพราะการเป็นเพื่อน กับการทำงานร่วมกันมันต่างกัน เกือบทะเลาะเลิกคบกันไปเลยทีเดียว แต่พอจบก็มาคิดได้และดีกัน (เท่าที่ดู ไม่มีทีมไหนจบแบบสวยงามเลย ทะเลาะกัน เห็นน้ำตากัน เห้อ..) และงานเป็นกลุ่มจริง แต่ระดับเกรดที่ได้ ไม่เหมือนกันคะ

ที่มหาลัยเราก็โดนหลายคู่ คะ  แต่ส่วนมากจะดูแบบ ถ้าคนที่ไม่เก่งมาจับคู่กัน แกจะจับแยก ต่อให้สนิทกันแกก็จับแยกคะ กลัวพากันล่ม  หรือคนที่เก่งสุดขั้ว(แต่ชอบทำคนเดียว)จับคู่กับคนที่ไม่สนใจอะไรเลย ก็จะจับแยกคะ

อย่ากลัวเลยคะ ลองให้ถึงที่สุดก่อน ตอนเราทำโปรเจคเราไม่รู้เรื่องที่เราทำเลยคะ แต่โปรเจคของเราทำ 1 ปี เราพูดได้เต็มปากเลยว่า เราเรียนมาหลายปี ได้ทฤษฏีมาเพียบ  เทียบเท่าไม่ได้เลยกับความรู้ที่ได้รับจากการทำโปรเจคภายใน 1 ปีนั้น  (เราได้อะไรเยอะมากกกก)  ตอนนี้เราก็ใช้ความรู้ที่เราได้จากโปรเจคทำงานด้วยคะ



ไม่แน่ใจว่าโปรเจคนั้นคุณเสนอเรื่องที่ทำเองไหม ถ้าคุณกลัวไม่จบ แนะนำว่าให้ทำเรื่องที่คุณถนัดที่สุดและหาที่ปรึกษาไว้สักคน  ที่เชี่ยวชาญด้านที่คุณทำคะ  และมาทำพร้อมกับกลุ่มอื่น ๆ เมื่อเจอปัญหาจะได้ช่วยกันคะ ตอนเราทำหลาย ๆ กลุ่มจะมาทำร่วมกันคะ เวลากลุ่มไหนติดปัญหา ก็แลกเปลี่ยนความรู้กันคะ  สู้ ๆ ๆ คะ

 

ในความคิดเรานะ มันก็จริงอย่างที่ อ. บอกแหละค่ะ ถ้าคุณติดเพื่อนแบบนี้ โปรเจคอาจจะผ่านไปได้ แต่ถ้าไปทำงานจริงๆคุณจะทำยังไง คนเราต้องอ่ะสุดท้ายก็มีแค่ตัวเองเป็นที่พึ่งเท่านั้น เพื่อนคือเพื่อน เค้าช่วยเราได้ในบางเรื่องแต่ช่วยไม่ได้ทุกเรื่องหรอกค่ะ ที่ ม.เรา ตอนนีนี้เราก็ทำโปรเจคเหมือนกับคุณแหละค่ะ แต่ที่มหาลัยไม่มีนโยบาบทำคู่ ทำเดี่ยวทุกคนเลยค่ะ ทำเอง หาข้อมูลเอง อะไรเองทุกอย่าง แล้วเราจะบอกว่า เชื่อเถอะว่าคุณทำคนเดียวได้ ทำได้แน่ๆ อาาจจะขอคำปรึกษาจากเพื่อนบ้างก็ได้ให้เพื่อนช่วยก็๋ได้ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ อย่าไปกลัวและคิดว่าจะล่ม เพราะสุดท้ายคุณก็จะผ่านมันไปได้แน่นอน ถ้าให้เรามองในมุมของอาจารย์เราว่ามันไม่เกินไปหรอก ถือว่าเข้าใจเค้าที่เค้าอยากให้เราทำอะไรด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งเพื่อน นะคะ
สุดท้ายเป็นกำลังใจให้นะคะ เชื่อว่ายังไงคุณก็ทำได้ เพราะถึงเวลาจริงๆคุณก็ต้องทำมันอยู่ดีจะกลัวอยู่ทำไมเดินหน้าชนไปเลยค่ะ ไม่ลองไม่รู้ ต้องมั่นใจในตัวเองนะคะ
สู้ๆ