ขอความเหตุด้วยค่ะ จริง?รึแต่งหน้าบ่อยหน้าแก่เร็ว

แต่เราน้า..วันที่แต่งหน้าลงรองพื้นแล้วกลับมาเช็ดเครื่องสำอาง ล้างหน้าจนสะอาด สังเกตหน้าตัวเอง
เทียบกับวันที่ไม่ได้แต่งหน้าแล้ว ปรากฏว่า หน้าผ่องใส สิวไม่ขึ้น ปกติเป็นคนเป็นสิวง่ายอ่ะ
เราเลยคิดว่า การแต่งหน้าเป็นการเซฟหน้าระดับนึง และพยายามที่จะแต่งหน้า เวลาที่จะต้องออกไปข้างนอกทุกครั้ง

มันก็จริงอย่างที่คุณชฎาแหลมว่านะคะว่าพวกเบสพวกรองพื้นมันช่วยกันแดดและลดการที่มลภาวะต่างๆมากระทบผิวหน้าเราโดยตรง
แต่ก็อย่าลืมว่าเครื่องสำอางค์เนี่ยมันก็สารเคมีดีๆนี่เองนะคะต่อให้เป็นยี่ห้อวิเศษเลอเลิศแค่ไหน
บางคน.....ย้ำว่าบางคนก็ยังคงแพ้ใช่มั้ยล่ะเพราะมันเป็นสารเคมีต่างๆประกอบปรุงขึ้นมา

ยิ่งพวกสีสันแต่งแต้มเนี่ยแต่งบ่อยย่อมมีผล....ไม่งั้นเราคงแต่งนอนกันแล้วแหละถ้ามันไม่ทำให้เหี่ยว...เราถึงได้ต้องล้างให้สะอาดไม่ให้มันตกค้างและให้หน้าพักบ้างแล้วมาทาครีมบำรุงป้องกันการเหี่ยวจากการแต่งหน้า...ฟังน่ากลัวไปมั้ยเนี่ย...แต่ยังไงก็ตามเราว่ามันมีผลนิดหน่อยค่ะ
แต่ที่เห็นชัดก็รอบดวงตานี่แหละเราว่าเพราะมันบอบบางและสาวอย่างพวกเราก็มักเน้นแต่งตาซึ่งเป็นส่วนที่บอบบางที่สุดเราเลยยิ่งยุ่งกับมันบ่อยเดี๋ยวแต่งเดี๋ยวเช็ดเดี๋ยวทาครีม
มันเลยทำให้ใต้ตาของสาวๆที่แต่งหน้าเป็นประจำดูเหี่ยว อ่อนล้ากว่าคนทั่วไปเวลาล้าง คสอ ออก
เราว่าข้อนี้เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ เพราะเราประสบมากับตัวค่ะ ขนาดเช็ดล้างอย่างดี
สะอาด บำรุงอย่างเบามือ มันก็เป็นรอยง่ายกว่าตอนไม่แต่งค่ะถึงไม่มากก็รู้สึกได้

สรุปมีผลแต่ไม่เลวร้ายขนาดทำให้หน้าแก่หรอกค่ะ
เราต้องพยายามดูแลอย่างดีที่สุด...ยังไงก็จะแต่งคร่า...ขอแต่งให้มันแก่ดีกว่าแก่แลว้มาอยากแต่งนร้า..

 

ถามเพิ่มหน่อยนะคะ ผู้รู้ตอบที ระหว่าง 1.ทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าดีมาก แต่ไม่แต่งหน้า กับ ขั้นตอนเดียวกันแต่เพิ่มการแต่งหน้าด้วย สุดท้ายผลลัพธ์ของผิวจะต่างกันมั้ย แบบไหนชะลอการเกิดริ้วรอยกว่ากันคะ

ไม่จริงค่ะ

ขึ้นอยู่กับการรักษาดูแลหน้าให้ถูกวิธี

และก็สม่ำเสมอค่ะ

เวลาเช็ดคสอ.เราจะเผลอมือหนักทุกทัเลยอ่ะ กลัวแก่เหมือนกัน