10 ความจริงน่าทึ่งบนเฟซบุ๊ก ที่เราควรรู้
aodaod35Pete Cashmore ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเว็บล็อคข่าวไอทียอดฮิตอย่าง Mashable ซึ่งรับหน้าที่เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับเครือข่ายสังคมและเทคโนโลยีให้ CNN.com ลงมือรวบรวมผลการสำรวจพฤติกรรมชาวเครือข่ายสังคมเพื่อประมวลเป็น "10 ความจริงน่าทึ่งของผู้ใช้เฟซบุ๊ก" ที่แม้จะเป็นการทำสำรวจในสังคมอเมริกัน แต่บางข้อก็พบได้บ่อยในสังคมไทยเช่นกัน
ตัวอย่างบางส่วนใน 10 ผลการสำรวจน่าสนใจที่ Cashmore ยกมาพูดถึงคือ 47% เคยโพสต์คำสบถแสดงอารมณ์บนหน้าเพจเฟซบุ๊ก ขณะที่ชาวเฟซบุ๊กดีกรีปริญญาซึ่งพูดคุยเรื่องเหล้ายาปลาปิ้งจะมีแนวโน้มมี เพื่อนมากกว่าคนที่ไม่พูดถึงแอลกอฮอล์บนเฟซบุ๊ก และชาวเฟซบุ๊ก 48% เข้าไปดูโปรไฟล์ของแฟนเก่าบ่อยครั้ง
1. เจ้านายและลูกน้องไม่ควรเป็นเพื่อนกันบนเฟซบุ๊ก
การ สำรวจชาวอเมริกันกว่า 1,000 คนในโครงการ Responsibility Project ของกลุ่ม Liberty Mutual ในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 พบว่าคอเฟซบุ๊กอเมริกันมากกว่าครึ่งคิดว่าเจ้านายและลูกน้องไม่ควรเป็น เพื่อนกันบนเฟซบุ๊ก แม้ว่าชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันของคนไอทีจะคาบเกี่ยวกันมากขึ้น แต่คนไอทีก็ยังมองว่าควรมีเส้นแบ่งให้ชัดเจน และเจ้านายควรวางตัวให้ดีเพื่อจะได้ตัดสินพนักงานที่ความสามารถแท้จริง มากกว่าความสัมพันธ์ส่วนบุคคล โดย 62% มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมหากเจ้านายตอบรับเป็นเพื่อนกับลูกน้องบน เฟซบุ๊ก
2. ลิงก์เว็บไซต์ลามกถูกแชร์บนเฟซบุ๊กมากกว่าปกติถึง 90%
ความ จริงข้อนี้ได้จากการศึกษาของ Dan Zarrella ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายสังคมซึ่งพบว่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมปี 2010 ในบรรดาลิงก์เว็บไซต์ข่าวและบล็อกกว่า 12,000 ลิงก์ที่เขาศึกษา ปรากฏว่าลิงก์เว็บไซต์สยิวถูกแชร์หรือแบ่งปันในเฟซบุ๊กมากกว่าค่ามาตรฐานถึง 90% โดยลิงก์ที่มีหัวเรื่องในแง่บวกจะถูกแชร์มากกว่าหัวเรื่องด้านลบ
3. คนมีคู่บนเฟซบุ๊กมีความสุขมากกว่าคนโสด
เดือน กุมภาพันธ์ 2010 เฟซบุ๊กใช้วันวาเลนไทน์เป็นวันเปรียบเทียบสถานะความสัมพันธ์หรือ relationship status กับความสุขของผู้ใช้แต่ละคน ปรากฏว่าคนที่ตั้งสถานะว่า "in relationships" หรือ "กำลังเริ่มความสัมพันธ์" นั้นโพสต์ข้อความแสดงอารมณ์เชิงบวกมากกว่าคนที่มีสถานะ "Single" ทำให้แปลได้ว่าคนมีคู่บนเฟซบุ๊กนั้นมีความสุขมากกว่าคนโสด และคนที่แต่งงานแล้ว (married) หรือหมั้นหมายแล้ว (engaged) จะมีดีกรีความสุขมากกว่ากลุ่ม"เพิ่งเริ่มคบหา" ที่น่าสนใจคือกลุ่มที่ตั้งสถานะว่า "open relationship" หรือที่แปลว่ายังไม่ผูกสมัครรักใครเป็นตัวตน กลับมีความสุขน้อยกว่าคนโสด
4. 21% บอกเลิกผ่านเฟซบุ๊ก
การ สำรวจในเดือนมิถุนายนปี 2010 ในกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊ก 1,000 คน (70% เป็นชาย) พบว่ากว่า 25% เคยถูกทิ้งทางเฟซบุ๊ก โดยส่วนใหญ่ถูกทำร้ายจิตใจด้วยการเปลี่ยนสถานะเป็น "โสด" ของคนรัก การสำรวจครั้งนั้นพบว่า 21% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะตัดสัมพันธ์ด้วยการเปลี่ยนสถานะ ซึ่งโชคยังดีเมื่อพบว่าส่วนใหญ่เป็นการเลิกราธรรมดา ไม่ใช่การหย่าร้างของคู่สามีภรรยา
ยังมีการสำรวจอีกชิ้นที่พบ ว่า ผู้หญิงตกที่นั่งถูกตัดเยื้อใยผ่านเฟซบุ๊กน้อยกว่าผู้ชาย โดยผู้หญิงมีสถิติที่ 9% เทียบกับฝ่ายชายที่มีสัดส่วนถึง 24%
5. 85% ของผู้หญิงถูกเพื่อนในเฟซบุ๊ก"รำคาญ"
การ สำรวจของกลุ่ม Eversave ซึ่งถูกเปิดเผยในเดือนมีนาคม พบว่าชาวเฟซบุ๊กหญิงกว่า 85% ยอมรับว่าเคยถูกเพื่อนบนเฟซบุ๊กรำคาญเคืองใจ โดยส่วนใหญ่บอกว่าถูกรำคาญด้วยข้อหา"บ่นตลอดเวลา" (63%) บางคนโดนข้อหา "พูดเรื่องการเมืองไม่พึงประสงค์" (42%) และ "คุยโวเกี่ยวกับชีวิตสมบูรณ์แบบ" (32%)
6. ครอบครัวเฟซบุ๊ก 25% ไม่ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
เดือน มิถุนายนปี 2010 การสำรวจโดยนิตยสาร Consumer Reports พบว่า 1 ใน 4 ของครัวเรือนที่มีชื่อบัญชีใช้งานเฟซบุ๊กยังไม่ทราบหรือไม่ลงมือตั้งค่าความ เป็นส่วนตัวในเฟซบุ๊ก โดย 26% ของครอบครัวที่มีเด็ก มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เด็กมีความเสี่ยงตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะภัยลักพาตัว ด้วยการโพสต์ภาพและชื่อของเด็กลงไป ซึ่งจะสามารถเปิดโอกาสให้โจรร้ายสามารถรู้ข้อมูลของเด็กได้โดยรู้เท่าไม่ถึง การณ์
7. พ่อแม่ 48% เป็นเพื่อนกับลูกบนเฟซบุ๊ก
ข้อ นี้ในเมืองไทยก็เห็นได้มาก โดยการสำรวจช่วงพฤษภาคม 2010 โดย Retrevo พบว่าพ่อแม่เกือบครึ่งที่ขอเป็นเพื่อนกับลูกในเครือข่ายสังคม ซึ่งเมื่อพ่อแม่กลุ่มตัวอย่างถูกถามว่า จะยินยอมให้ลูกลงชื่อใช้งานเฟซบุ๊กหรือเครือข่ายสังคมอื่นได้อายุเท่าใด ราว 26% ระบุว่าต้องรอให้มากกว่า 18 ปี โดย 36% บอกว่า 16-18 ปี อีก 30% บอกว่า 13-15 ปี เพียง 8% เท่านั้นที่บอกว่าต่ำกว่า 13 ปี
8. 47% สบถบน wall
การ สำรวจโดยบริษัท Reppler พบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก 47% เคยโพสต์ข้อความสบถระบายอารมณ์ขุ่นมัวไว้บนวอลล์ หรือกระดานแสดงความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊ก โดยคำสบถยอดนิยมหนีไม่พ้น "F-word" หรือ F_ck นั่นเอง
9. 48% ดูโปรไฟล์แฟนเก่าบ่อยขึ้น
ผล การสำรวจนี้เป็นของ YouTango กลุ่มตัวอย่าง 48% ยอมรับว่าเข้าไปดูโปรไฟล์ของแฟนเก่าบ่อยครั้งกว่าเมื่อตอนยังคบกัน ผลการสำรวจนี้ถูกมองว่าเทคโนโลยีใหม่อย่างเครือข่ายสังคมเป็นตัวการควบคุม ให้คนอกหักมีพฤติกรรมเช่นนี้ (อิอิ)
10. 36% ของคนเฟซบุ๊กอายุ 35 ลงไป เล่น Facebook, Twitter หลังมีเพศสัมพันธ์
ผล การสำรวจนี้ถูกเผยแพร่ในเดือนตุลาคมปี 2009 โดย Retrevo ระบุว่าเครือข่ายสังคมกำลังกลายเป็นสิ่งที่สำคัญในวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ โดยพบว่าในคนอเมริกันที่มีอายุ 35 ปีลงไป จะเล่นทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก หรือส่งข้อความแชต (texting) หลังตะลุ่มตุ้มแช่กันแล้ว
น่าตกใจที่การสำรวจในครั้งนั้นพบว่า 40% ของกลุ่มตัวอย่างเล่นทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และแชตขณะขับรถ อีก 64% บอกว่าทำขณะทำงาน อีก 65% บอกว่าใช้เป็นช่องทางสื่อสารระหว่างวันหยุด
ที่มา manager.co.th
Discussion (5)
แต่ที่แน่ๆ facebook เป็นพื้นที่ส่วนตัว ไม่ควรรับแอด คนแปลกหน้า สุ่มสี่ สุ่มห้่า
เพราะปกติ คนเรามีอะไร จะไปเที่ยวไหน ไปทำอะไร
ก็มักจะไป อัพโหลด หรือ เขียน status ลง facebook
บางทีอาจจะเป็นช่องทางให้ มิจฉาชีพ ได้
อิอิอิ ข้อ 10 ไม่ใช่เราอ่ะ อิอิอิ เราไม่มานั่งเล่น FB แล้ว หลับดีกว่า
แต่บางข้อก็ตกใจอยู่เหมือนกันนะ 5555 :"p