รีวิวน้ำหอมที่มีในกรุ ทั้งหอมและเหม็น 55 มาดูกันได้

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ว่างๆฝนตกๆ ไม่ได้ออกไปไหน เลยอยากจะมารีวิวน้ำหอมที่มีอยู่ในกรุจ้า  

ปล. ความคิดเห็นนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะจ๊าา บางคนอาจจะได้กลิ่นอีกอย่าง แต่ให้ชัวร์อยากหากลิ่นที่ใช่จริงๆๆไปลองที่เคาท์เตอร์จะดีที่สุดค่า

เริ่มที่ตัวแรก  

DKNY Be delicious แอปเปิ้ลเขียวที่ใครๆหลายคนน่าจะมี เหอๆๆ 

ตัวนี้มีกลิ่นหวานสดใสๆ สดชื่น  ตอนนั้นไปเดินห้าง ละกับแฟน แต่แฟนตามมาถูกบอกว่าเดินตามกลิ่นน้ำหอมมา 555+

คิดดูละกันกลิ่นมันขนาดไหน  เรื่องความติดทนนี่ไม่ต้องพูดถึง เอาไป 10/10 เลยจ้า  เช้ายันค่ำเลย หอมมั่กๆๆ

ขวดนี้เราใช้มาปีกว่าแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะลดครึ่งเลย ฉีดสองสามปื้ดก็หอมแล้วอย่ามากไปกว่านั้น คนข้างๆจะเวียนหัวเอานะจ๊าา

เรามี apple blossom อะไรซักอย่าง apple สีชมพุอ้ะจ้า แต่ไม่ปลื้มเท่าไรเพราะกลิ่นเหมือน 12plus มาก เลยเนรเทศไปแล้ว เสียดานมากของขวัญวันเกิดเช่นกัน 

ราคา 100ml. 3500 บาท

 

 

ตัวที่สอง
Dior forver and ever Dior

  

ความติดทนนี่เอาไป 3/5 พอ เพราะเย็นๆกลิ่นแอบจางนิด แต่ก็หอมอ่อนๆอยู่เลยให้อภัย 

ราคา 50 ml ประมาณ 2200
 

 

 

 

ตัวนี้กลิ่นหอมอ่อนๆ หวานๆออกแนวสดชื่น ไม่เวียนหัว  ดมแล้วเหมือนกำลังมองท้องฟ้าสีครามไรประมาณนนี้ (งงมั้ย

)
ติดทนมั้ย เอาไป 2/5 พอ สี่ชั่วโมงก็เริ่มไม่ได้กลิ่นละ  ถามคนข้างๆยังไม่รู้ว่าเราฉีดน้ำหอม ทั้งที่ละเลงพรมมาทั้งตัวนะ 

Going สมชื่อจริงๆๆนะ เวลาคิดอะไรไม่ออกก็ฉีดตัวนี้ทุกทีเลย รีบๆก็ฉีด 
ที่เลือกตัวนี้เวลารีบๆเพราะ มันหอมหวานสดชื่น แนวสปอรตเลดี้ มันมีกลิ่นผลไม้จางๆ ทำให้ไม่เวียนหัว 

ราคา 1000 กว่าๆๆ ต้นๆ
แถมฉีดเท่าไรก้ไม่ฉุนด้วย สรุปปลื้มค่ะ ราคาก็ไม่แพง ซื้อต่อแน่นอนนน เอาไป 5/5

เกือบลืมมันมีญาติอีกตัวนะ  แต่ตัวนี้จะหอมเลดี้มากไม่เหมือนสปอตเลย ชื่อว่า Flowing 

 

 

สุดฮิตอีกตัวที่ใครๆหลายคนก็มี กลิ่นหวานกระแทกโพรงจมูก มาแนวหวานแหลมหว่า Dior ฉีดแล้วเหมือนผู้หญิงหวานซ่อน sexy 
กลิ่นลึกๆๆบางตัวทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย  เอาเป็นว่าชอบค่ะ ติดทนเอาไป 3/5 พอ ไม่ค่อยทนเลย แต่ให้อภัยความหอมนะยะ

ราคา 2400   100ml. 
 

ตัวนี้เราชอบมากกกๆๆๆ เป็นตัวที่ฉีดได้ทุกโอกาสจริงๆๆ หอมอ่อนๆแต่ติดทน หอมหวาน สะอาดเหมือนเพิ่งอาบน้ำมา  มันแบบว่าสบายรูจมุกอ้ะ 
ชอบแบบไม่มีเหตุผล หมดก็จะซื้อต่ออีกกกกก เอาไป 10/5 เลย

ราคา น่าจะ 1700 จำไม่ได้แล้วไม่แน่ใจนะค้าบบ 50ml.

ตัวสุดท้ายแล้ว Gucci Guilty

ตัวนี้นี่ recommended เลยนะจ๊ะ เพราะ มันหอม sexy มากๆ แต่ไม่ได้หอมฉุนเหมือน Chanel บางตัวนะ 
กลิ่นแบบว่าหอม sexyๆๆ แบบผู้ดี (แม่บอก)

 เรื่องความติดทนนี่ไม่ต้องพุดถึง เอาไป 100/10 เลย 
คือว่าวันนั้นเราเดินทางมาทั้งวันตอนเช้าฉีดตัวนี้  กลับบ้านมาเปลี่ยนเสื้อจะไปทำผม พี่ช่างทำผมทัก น้อง น้ำหอมยี่ห้อไรอ้ะ หอมจัง
ตกใจมากแบบว่าเฮ้ย นี่ขนาดเปลี่ยนเสื้อไปนะ มันหอมติดตัวขนาดนี้เลยเหรอ เราเองแทบจะไม่ได้กลิ่นแล้ว นี่ก็ผ่านมา จะสิบชั่วโมงแล้วตั้งแต่ฉีด
75 ml.   ราคา 2800    
สรุป เรื่องทนถึกนี่ไม่ต้องพูดถึง  แต่ก็อย่าฉีดเยอะเกินนะจ๊ะ ไม่งั้น เหอๆ... ระวังคนเดินหนี 

  


เพิ่มๆๆๆ น้ำหอมที่ไม่ชอบบ้าง

ต่อไปนี้เราขอนำเสนอน้ำหอมกลิ่นที่ไม่ชอบอย่างแรงนะจ๊ะ  รูปมาจาก google เพราะตัวจริงมันโดนเนรเทศไปแล้วจ้า

ตัวแรก  นิหน่า ลิ้นจี่ หรือ Nina ricci นั่นเองจ้า

ตัวนี้กลิ่นป่วงมาก เวียนหัวสุดๆๆๆ ฉีดยังไงก็เวียนหัวอ้ะ โอยๆๆฉุนๆๆ แต่แม่เราชอบนะ ฉีดอยู่นั่น  

ยิ่งอยู่ในรถที่เปิดแอรืนะ โฮกกขอเป็นลมดีกว่า   

ตัวต่อไป  

Lancome Hypnose 

กลิ่นเหมือนขนมหวานๆแต่ฉุนกึก  เวียนหัวปวดตับปวดจมูกสุดๆๆ เราไม่ชอบเลยอ้ะ แบบว่าลองฉีดหลายรอบแล้วก็ไม่อ้ะ มันไม่ใช่อ้ะ กลิ่นป่วงๆๆยังไงไม่รู้  เสียใจนะ 

ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวนะจ๊าาาา อยากรู้เป็นไงต้องไปลองเอง  

สุดท้ายนี้ อยากจะบอกเคล็ดลับฉีดน้ำหอมคือ ฉีดหลังอาบน้ำทันที เช็ดตัวเสร็จ ทาครีม ฉีดเลย อย่าฉีดใส่เสื้อผ้านะจ๊ะ เหลืองหมด
เราเองเคยฉีดน้ำหอมใส่สร้อยคอมุก เผลอไปนิดเดียวเอง มาดูอีกทีมุกยุบไปแล้ว เสียดายมาก 

วันนี้ลาไปก่อนนะจ๊าา 

happyweekend ja bye bye xxo