เล่าสู่กันฟัง ต่อเนื่องจากอุบัติเหตุจากลูกชาย
chunpae16สวัสดีสาว ๆอีกครั้งค่ะ (เรื่องเล่าต่อจากกระทู้เก่าที่โดนเย็บเกือบ 40 เข็มฝีมือลูกชายนะคะ)
พอดีหลังไปตัดไหมมาเรียบร้อย (และคอมฯ เพิ่งใช้งานได้วันนี้ )เลยอยากแชร์ประสบการณ์ ให้คนอื่น ๆด้วยนะคะ หลายคนสงสัยว่าทำมั๊ย ทำมัยลูกชาย(เจ้าหนู takky)ถึงได้น่ากลัวจังเลย เรื่องของเรื่องคือ น้องสาวของอิชั้น.........คิดจะฆ่าปาดคอลูกชายฉัน .........(เพื่อแย่งสมบัติ มั๊ง ) อันนี้ล้อเล่น ที่จริงเกิดจากว่าน้องงก ลงมือตัดขนเอง ผลคือคอลูกชายแหวอะเลยค่ะ ที่นี้นางฟ้าอย่างอิชั้นก็เลยต้องใส่ยาให้หมาน้อย แต่เจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ เลยกระโดดชนพร้อมงับเล็กๆ ไม่ถึงกะขย้ำกัด แต่ที่เย็บเยอะเพราะว่าต้องเย็บให้ละเอียดมาก ๆ
ตอนนี้ลูกชายก็ซึมไปนะ เวลาเรานั่งพื้นก็มานั่งตัก ไม่ก็ขอเอาหัวเกยขาก็ยังดี เราเข้าห้องน้ำก็มาเฝ้าหน้าห้อง เราเข้านอนก็มาส่งหน้าห้องเพราะไม่ได้ให้นอนด้วยตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบมั๊ง (กว่าจะแยกได้ก็สาหัสอยู่ เรียกทุกคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันที่เดียว..) พอตื่นได้ยินเราบิดลูกบิดประตูก็รีบวิ่งขึ้นบันไดมาพร้อมคาบของเล่นสุดรักมาให้(ตุ๊กตาเน่าๆ )........เวลานอนดูทีวีก็มานอนเอาหัวซุกที่รักแร้เรา( กลิ่นคงอบอุ่น..แบบแปลก ๆมั๊ง) เหมือนมีลูกเล็ก ๆ เลย...ว่าเข้านั่น นอนไปนอนมา ตื่นอีกทีงงว่าลูกหายไปไหน....ก็เลยเห็นว่านั่งอยู่ข้างๆ นะแหละ........มองหน้าเราอยู่เฉยๆ อย่างนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าตัวกะลังคิดอะไร แต่เรารู้สึกเหมือนน้ำตาจะคลอ ๆ.... ..............แต่ไม่ใช่เพราะเจ็บแผลหรอกนะ
พล่ามเสียยาว เกือบลืมเนื้อเลย เรื่องที่จะเล่าจริง (ยังไม่ถึงอีกหรือนี่..) ก็คือว่า วันแรกที่ไปเย็บแผลที่รพ.ก็ยังเบลอ ๆงง อยู่ เขาให้ทำอะไรก็ให้ความร่วมมือ หมอบอกจะฉีดยาให้กันพิษสุนัข และก็กันบาททะยัก เราก็พยักหน้า หมอบอกพูดก็ได้ เรานึกในใจไว้ให้หมอเจออย่างเรา....แล้วจะรู้ว่าตอนนั้นหน่ะจะอยากพูดหรือเปล่า ( ลืมบอกแผลที่ว่าอยู่ที่ปากบนกะล่างนะคะ..เห็นภาพใช่มั๊ยคะ) คนที่เคยฉีดบาทะยักจะรู้ว่ามันจะมีไข้อยู่เกือบ 3 วันนะ ถ้าเราเคยฉีดครบ 3 เข็ม จะกันได้ 10 ปี แต่กรณีฉีด 1 เข็มจะกันได้ 1 ปี ซึ่งเราเคยฉีดแค่ 1 เข็ม เมื่อสมัยเรียนมหาลัย เลยจบข่าว หลังจากเย็บ ฉีดยา ก็รับยายาแก้ปวดกะแก้อักเสบกลับบ้าน
ประเด็นอยู่ที่วันต่อมา แผลบวมมาก จนไหมละลายที่ริมฝีปากหลุด 1 อัน แต่เข้าข้างตัวเองว่าคงปกติ เลยเฉยๆ ทั้งที่มีเลือดซึม ๆ วันรุ่งขั้นอีกวัน (ใจเย็นมาก) เห็นว่าเลือดชักไหลเอื่อย ๆ ไม่หยุดสักที่เลยกังวลแระ ไปรพ.อีกครั้งให้หมอดู (คนละคะกะคนเย็บ) หมอก็จ่ายยาลดบวม แก้อักเสบเพิ่ม บอกไม่เป็นไร ซึ่งหมอเข้าใจว่าเราจะไปรพ.เพื่อฉีดยาเข็มที่ 2 (verolab) เราจึงเพิ่งนึกออกว่า ต้องฉีดยา 5 เข็ม ดังนี้ day 0,3,7,14,30วันที่ไปตรงกะ day 3 จึงได้ฉีดยาพอดี โดยไม่ตั้งใจ หากไม่ไปก็ไม่อยากจะคาดเดา แม้ว่าลูกชายจะฉีดยาป้องกันตลอด แต่มันก็ไม่มีอะไร 100% ตอนนี้เลยได้นัดฉีดยาต่อวันตัดไหม (day 7 )เหลืออีก 2 เข็ม (สู้ สู้ สู้ตาย) ตั้งใจว่าต้งฉีดให้ครบ เผื่อ 6 เดือนข้างหน้าโดนอีก....จะได้ฉีดเพิ่มแค่ไม่กี่เข็ม ....ประหยัด(อันนี้พูดเล่น)
เป็นอุทาหรณ์นะคะเวลาคนรู้จักโดนกัด (ไม่อยากให้เป็นชาวจีบัน ผู้มีหน้าและจิตใจที่งดงาม )...ให้จำไว้ว่า
1.ต้องฉีดบาทะยัก กรณียังไม่มีภูมิ (จากประวัติการรับวัคซีนได้รับมาใน 1 ปี ไม่ต้อง หรือเคยฉีดครบมา 3 เข็ม ก็กันได้ 10 ปี)
2.verolab ต้องฉีด 5 เข็ม ดังนี้ day 0,3,7,14,30 นับวันโดนกัดเป็นday 0 แล้วนับต่อไป ปกติจะมีเป็นบุ๊คให้ แต่เราเป็นข้อยกเว้น
3.ปกติหากโดนเยอะ โดยเฉพาะแผลที่หน้าเขาต้องฉีดอีกตัวที่สำคัญมาก ๆ และแพงมาก คือ Hric หรือ Eric (แล้วแต่ฐานะ ...ที่จริงแล้วแต่การแพ้มากว่า ...แต่ตัวหลังจาแพงกว่า) เราอยู่ในข้อยกเว้นอีกแระ หมอไม่ได้ฉีดให้ คงเห็นว่าลูกชายประวัติดี ปราศจากมลทิน(ฉันจึงกลายป็นคนที่ไม่คู่ควรกะของแพง)
P.S> ทั้งหมดนี้ไม่ได้โกรธ หรืองอนอะไรทั้งสิ้น เพราะคนเรามันลืมกันได้ และที่จริงเราเองยังลืม แค่รอดมาได้ก็บุญแล้ว มีเรื่องประมาณนี้เรามีเยอะนะ เพราะตัวเอง admit รพ.ทุกปี หนักสุดคือหมอบอกว่าเป็นมะเร็งเมื่อ 3 ปีก่อน ไว้มีเวลา จะมาเล่าให้ฟังใหม่... พิมพ์เยอะ ๆจะอ่านกันไม่ไหว
รักษาสุขภาพกันทุกคนนะคะ
Discussion (16)
แผลหายเร็วๆนะ ดูแลหน้าตาสวยผุดผ่องแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
ที่บ้านก็มีพุดเดิ้ล 7 ตัว เคยโดนกัดเข้าที่ข้อมือครั้งนึง เพราะไปแยกเค้าตอนเค้ากัดกัน โชคดีแผลแค่ถลอกนิดหน่อย