เหนื่อยใจค่ะ !!อยู่ที่คนอื่น,,ยังมาทะเลาะกะเจ้าของที่อีก

เมื่อเช้าเราแต่งตัวอยู่ในห้องนอนได้ยินเสียงโวยวายอะไรสักอย่าง,,เฮ้ย!!นี่แม่ชั้นรถล้มอีกแล้วหรอ(แม่ขี่มอไซค์เข้าซอยอ่ะ เป็นซอยเล็กๆ) วิ่งออกมาดูไม่ใช่ค่ะเป็นแม่กำลังยืนเถียงกับป้าข้างบ้านอยู่  เราก้อฟังสักพัก ป้าคนนี้ด่าแม่เราว่าทำอะไรไม่คิด ไม่มีสมอง ,,แม่เราก้อบอกว่าใครกันแน่ไม่มีสมองอยู่ที่คนอื่นแล้วยังจะมาปากดีอีก,,เราจับใจความได้ก้อเลยตะโกนสวนออกไปว่า “มรึงอยู่ไม่ได้ก้อไปตายซะ” ป้าเถียงไรมาไม่รู้ไม่ทันฟัง “ก้อบอกแล้วงัยว่ามรึงอยู่ไม่ได้ก้อไปตายซะ อี... ทุกอย่างเงียบค่ะ เรากะแม่เข้าบ้าน,,ป้าคนนั้นไปทำงาน
เรื่องของเรื่องคือ บ้านป้าคนนี้อยู่ข้างบ้านเราค่ะ แต่ว่าที่ดินที่แกอยู่อ่ะค่ะเป็นของบ้านเรา เราเคยถามแม่ว่าทำไมเค้าถึงมาอยู่ที่ของบ้านเรา แม่บอกว่าตอนนั้นแม่ปลูกบ้านทิ้งไว้แต่ไม่ได้มาอยู่ แล้วพื้นที่มันเหลืออ่ะค่ะ(5-6 เมตร x 5-6 เมตรประมาณนะค่ะ)
แม่ก้อบอกว่าเค้ามาขอปลูกบ้านเล็กๆสักแปปนึงกำลังหาที่อยู่ได้แล้วเด๋ยวจะย้ายออกทันที จนปานนี้อยู่มาจะ 20 ปีแล้วค่ะก้อยังไม่ย้าย แม่เคยไปคุยกะเค้า เมื่อประมาณ 6-7ปีที่แล้วอ่ะค่ะ ตอนพี่สาวเราจะแต่งงานว่าเนี่ยจะพื้นที่ตรงนี้จะทำบ้านให้พี่สาวอ่ะค่ะ เค้าก้อบอกว่ารอแฟนเค้าเสียก่อน (ตอนนั้นแฟนเค้าป่วยหนักใกล้จะเสียชีวิตแล้ว)เด๋ยวจะย้ายออกไปให้ พอแฟนเสียก้อยังไม่ย้าย นี่ก้อผ่านมาหลายปีแร้วอ่ะค่ะก้อยังไม่ย้าย จนเมื่อเช้านี่แหละค่ะที่มีปัญญหากันแกบอกประมาณว่าหลังคาตรงที่ล้างจานบ้านเราไปเกยหลังคาบ้านแก,,แต่ดูแล้วก้อไม่มี,,แม่บอกว่าจะเกยได้ไงเพราะตอนที่ให้ช่างมาทำก้อดูดีแล้ว แล้วก้อบอกช่างด้วยว่าอย่างให้หลังคาเกยกัน เนี่ยแหละค่ะเป็นที่มาว่าประมาณว่าทำหลังคาไม่คิด,,ไม่มีสมองแม่เราก้อโมโหซิค่ะ
เราก้อรู้นะค่ะว่าคำพูดเรามันไม่สุภาพอ่ะค่ะแล้วก้อดูแย่มากๆๆอ่ะค่ะ แต่เราโมโหจริง ๆ แม่เราก้อโมโหค่ะแม่บอกว่ามาอาศัยที่คนอื่นอยู่แทนที่จะพูดกะเจ้าของที่ดีๆนี่อะไรพูดจาแย่มาก ,,ถ้าพูดกันดีดี ก้อเด๋ยวช่วยกันดูช่วยกันแก้ไข,,แล่วแบบนี้ใครอยากจะช่วย ,,อยู่มาแม่บอกว่าค่าเช่าที่ก้อไม่เคยให้ค่ะ แต่แม่เห็นว่าที่มันนิดเดียวก้อเลยไม่คิดอะไร
 
ถ้าเพื่อนๆ เจอคนข้างบ้านแบบนี้จะทำยังไงค่ะ ,,ช่วยคิดหน่อยซิ ,,เพราะคิดว่ากลับบ้านไปเย็นนี้ต้องปะทะกันอีกแน่ค่ะ

Discussion (14)

เหมือนต้องเคลียร์กับคุณแม่ก่อนมั้ยคะ ถ้าคุณแม่ยังเกรงใจป้าแกอยู่คงทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าไม่เกรงใจแล้วก็ทำตามที่ท่านอื่นๆแนะนำเลยค่ะ
ก็ถามกลับไปค่ะ

"นี่ป้า ที่ที่ป้าอยู่เนี่ยที่ใคร?"    "ป้า ค่าเช่าสักเดือนเนี่ยจ่ายมั้ย?"

"ป้ายังจะเรียกร้องอะไรมากมายห้ะ???"

อ่านแล้วเครียดแทน อยากจะด่าให้ -*-
กรณีนี้ ผมเห็นว่าไม่เป็นการครอบครองปรปักษ์นะคับ เพราะ การอยู่โดยอาศัยสิทธิของบุคคลอื่นนั้น ขาดองค์ประกอบเรื่อง "เจตนาเอาเป็นเจ้าของ" ของมาตรา1382 ปพพ. มีหลักคือ จะต้องมีการครอบครองโดยสงบ เปิดเผย โดยเจตนาเอาเป็นเจ้าของในอสังหาริมทร้พย์ เป็นเวลากว่า10ปี ผู้นั้นได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น... ใน ปพพ. มีบัญญัติเรื่องการเปลี่ยนลักษณะการครอบครองจากการครอบครองแทน(เจ้าของเดิม)มาเป็น ครอบครองโดยมีเจตนาเอาเป็นของตน อยู่โดยมีวิธีการคือ แสดงเจตนาไปยังเจ้าของเดิมว่าตนไม่ประสงค์จะยึดถือแทนอีกต่อไป... สรุปง่ายๆคือ ต้องมีการบอกกล่าวกับเจ้าของเดิมก่อนว่า ที่ดินนี้เป็นของฉันไม่ใช่ของเธออีกแล้ว เพราะ... ประมาณนี้ หากมีการแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะการครอบครองแล้ว จึงจะเริ่มนับระยะเวลาได้สิทธิจากการครอบครองปรปักษ์(10ปี)ได้ หากภายใน10ปีหลังจากตรงนี้ เจ้าของไม่ใช้สิทธิติดตามเอาคืนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ตาม ม.1336 บุุคลผู้เข้าครอบครองปรปักษ์จึงจะได้กรรมสิทธฺ์ในที่ดิน เหตุผลที่กฎหมายบัญญัติลักษณะนี้เพราะ เจตนา เป็นเรื่องภายในจิตใจ บุคคลทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ แต่เดิมเคยอยู่โดยเขาอนุญาต แล้วจะมาบอกว่ามีเจตนาจะเอาเป็นของตนแล้ว ก็๋ต้องบอกเจ้าของเขาไป ไม่งั้นกฎหมายไม่ถือว่า มีเจตนาเอาเปนเจ้าของ จากข้างต้น การครอบครองดดยอาศัยสิทธิของผู้อื่น แม้ครอบครองมากว่า10ปี ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ครับ อีกเรื่องหนึ่งครับ เรื่องหลักฐานที่เป็นหนังสือที่ขับไล่ให้ออกไปจากที่ดิน ถึงแม้ไม่มี ก็ไม่สามารถเป็นการครอบครองปรปักษ์ได้ ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปแล้วข้างต้น สรุปคือ ผมไม่เห็นว่า จะเป็นการครอบครองปรปักษ์ได้นะคับ ใครเห็นต่างจากนี้ ใช่ข้อกฎหมายมายันด้วยนะคับ
 จริงๆ นะคะ อันนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กด้วย แล้วถ้าเราไม่เคยมีหลักฐานใดๆ เลยว่าเราได้ทำการตักเตือนหรือบอกให้เค้าออกไปแล้วมันก็เหมือนเราเพิกเฉยไม่สนใจไปแล้ว ถ้าฟ้องมาป้าจะได้ที่ดินฟรีๆ เลยนะคะนั่น เราคิดว่าไล่เค้าเค้าก็คงไม่ไปแล้วล่ะ
ของแบบนี้จะให้ดีที่สุดมันต้องมีลายลักษ์อักษร แล้วนี่เราช้ามากเลยนะคะ