เตือนสาวๆ ที่ใส่คอนแทคเลนส์ - เกี่ยวกับ "ตา" ~*

First posted 03 ส.ค. 50 19:21

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยนะคะ ว่าเราเองก็เป็นคนนึงที่ใส่คอนแทคเลนส์และเพิ่งหัดแต่งหน้า
และรักษาความสะอาดกับดวงตาไม่เพียงพอ (บางวันแอบใส่นอน)

เรื่องมีอยู่ว่า วันนึงเกิดคึก แต่งหน้า ทาอายแชโดว์ ลงอายไลน์เนอร์ ปัดมาสคาร่า

แล้ววันนั้น ก็เกิดมีนัดกะผองเพื่อนทั้งปวง
ว่าไปกินหมูกะทะกัน
ไปถึงร้านก็เลือกทำเลทอง (นั่งด้านนอกไม่ได้ ฝนจะตก) จึงหาโต๊ะใกล้พัดลม จัดแจงเลือกที่นั่ง
แล้วทีนี้พัดลมที่ว่า ไม่ใช่พัดลมเพดาน หรือพัดลมข้างฝา
แต่เป็นพัดลมตั้งพื้นตัวสูงๆ ระดับที่เป่าหน้าตอนเรานั่งพอดี เลือกมันซะใกล้ๆ พัดลมนี่แหละ เย็นดี
ไอครั้นจะไปนั่งให้พัดลมเป่าด้านหลัง ให้ผมกระเซิงตอนกะลังโซ้ยก็ใช่ที่
เลยจัดการ นั่งให้พัดลมเป่าหน้า เพื่อความเย็นไป และไม่ทำให้ผมมาจิ้มลงที่กะทะ (ให้คนอื่นผมกระเซิงแทน)

นั่งกินไปได้สักพัก ก็เริ่มรู้สึกว่าเกิดอาการมึนๆ ไม่รู้ว่าเพราะร้อน หรือเหนื่อย หรือนอนไม่พอ
พัดลมเป่าไอร้อนมาใส่หน้าเต็มๆ ตาก็แห้ง พัดลมก็เป่าควันเข้าตา
แล้วควันนั้นก็มาจากกะทะ ซึ่งมีทั้งควันจากถ่าน ไอจากน้ำมัน จากหมูที่ย่างๆ ทั้งฝุ่นควันอื่นๆ อีก

กลับมาถึงบ้านก็เริ่มจะแสบตา ขยี้ตา และตอนนั้นเอง
ขนตาเจ้ากรรมที่มีมาสคาร่าและฝุ่นควันที่สะสมมาแต่เช้าและควันที่มาจากหมูกะทะก็ทิ่มตาอีกจนได้
จนกระทั่งทนไม่ไหวต้องรีบถอดคอนแทคเลนส์ออก
เพราะแสบจนกระทั่งน้ำตาไหลพราก (แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไหลพราก)

ไปนั่งส่องกระจกดูในตา ปรากฏว่าดูในตาดำแล้ว
เห็นวงกลมสีขาววงเล็กๆ ประมาณนี้ [.] อยู่ในตา
รอจนถึงเช้า จึงรีบไปหาหมอ คุณหมอทักก่อนเลย ปกติใส่คอนแทคเลนส์ใช่มั้ยคะ
เคยใส่นอนบ้างรึเปล่า (แอบใส่บ้างค่ะ T-T)
คนส่วนใหญ่ใส่คอนแทคเลนส์แล้ว รักษาความสะอาดไม่ดีพอ
ก็จะทำให้เกิดโรคต่างๆ กับดวงตาได้ และบางรายถึงกับตาบอดได้
แล้วหมอก็เอาคางวางกับเครื่องตรวจ ให้มองขึ้น ลง แล้วหมอก็ส่องไฟเข้ามา

และแล้วถึงเวลาที่รอคอย ผลวินิจฉัยปรากฏว่า

"ตาดำติดเชื้อเป็นแผล เนื่องจากความสกปรก มีความเสี่ยงจะทำให้ตาบอดได้นะคะ"

พอได้ฟังอย่างนั้นแล้วกลัวมากๆ ตาเรามีแค่คู่เดียว ถึงตอนนี้จะเป็นข้างเดียวก็เถอะ
ตอนนี้เป็นคนปกติธรรมดา ดวงตาปกติดี ไม่อยากจะให้บอดไป

***
จึงอยากจะบอกสาวๆ ทั้งหลายว่า
ดวงตาคือสิ่งมีค่ามากๆ อย่าขี้เกียจในการดูแลดวงตานะคะ
หลายๆ คนที่ดูแลตัวเองดี ก็ขอให้ดูแลดีๆ ตลอดไปนะคะ

ก่อนจะเข้าไปตรวจ กลัวมากเลยว่าตาจะบอด
เพราะถ้าตาบอดแล้วก็คงจะต้องทำเรื่องขอเปลี่ยนกระจกตา เปลี่ยนดวงตา

ซึ่งในกรณีที่เราเป็นต้นเหตุให้ตาเราต้องพิการหรือบอดไป การพิจารณาให้ดวงตาก็จะช้ามาก
เพราะทางแพทย์ก็จะพิจารณาให้คนที่รอคิวมานาน หรือเดือดร้อนจริงๆ ก่อน

ถ้าตาบอดเพราะความประมาท สะเพร่า ก็จะต้องพิจารณาไว้ท้ายๆ หรือรอตามคิวไป
เนื่องจาก ร่างกายสมบูรณ์เรามีมาแต่กำเนิด แต่เราเองไม่ดูแลรักษาไว้เอง ก็ไม่มีใครช่วยได้


อาการตอนนี้
ยังแสบตา ตาแดง และน้ำตายังไหลอยู่ แม้แต่กระพริบตาก็ยังแสบ
เหมือนมีอะไรติดอยู่ในตา ลืมตาลำบาก
ต้องเปิดไฟเล่นคอมฯ เพื่อไม่ให้ตาทำงานหนักจนเกินไป และพยายามอยู่ห่างๆ จากคอมฯ

หมอให้ยามาหยอดตาทุกๆ 1 ชม. และให้ยาป้ายตาไว้ก่อนนอน
หมอกำชับว่าต้องหยอดตาทุกๆ ชม. และหยอดให้มากครั้งที่สุดก็จะดี
เพราะหยอดตา มันดีกว่ายาป้ายตา
แล้วถ้าป้ายตาไป แต่ตอนกลางคืนตื่นขึ้นมาก็ต้องหยอดอีก
หมอบอกว่า พรุ่งนี้ให้เข้ามาตรวจอีกที และถ้าอาการไม่ดีขึ้น
หมอต้องให้นอน รพ. เพื่อที่จะรอดูอาการต่อไป
และถ้าอยู่ รพ. จริงๆ หมอจะให้หยอดตาทุก ชม. แม้กระทั่งตอนนอน

ตอนนี้ก็เริ่มหายกลัวบ้างแล้ว มีเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจอยู่ แต่ก็ยังไงก็ภาวนาขอให้พรุ่งนี้อาการดีขึ้น
แล้วยังไงจะเล่าให้ฟังอีกนะคะ

**
ตื่นมาหยอดตาตอนตี 3 ก็เลยแวะมาขอบคุณสำหรับกำลังใจของทุกๆ คนนะคะ
ตอนนี้รู้สึกว่าตาดีขึ้น แต่ต้องให้หมอดูอาการอีกที
ถ้าพรุ่งนี้ไม่มาบอกผล แปลว่าหมอให้ admit แหล่ว T-T

**
04/08/07 12.54pm
เฮ้อ..ไปหาหมอมาแล้วค่ะ
คุณหมอบอกว่า 
"อาการดีขึ้นนะคะ แต่ต้องงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 2อาทิตย์"
คุณหมอบอกว่า ถ้ามาช้ากว่านี้ ปล่อยให้อาการหนักกว่านี้
หมอต้องให้นอน รพ แล้วดูอาการต่อ ถ้าหนักกว่านี้ก็แย่แน่ๆ
มีความเสี่ยงที่ตาจะบอดสูง
ต้องเอาเชื้อที่ตาไปตรวจ ถ้าหนักๆ ก็ต้องผ่าด้วย
น่ากลัวสุดๆ เลยค่ะ

เพราะฉะนั้น รักษาความสะอาดให้ดีนะคะ 
เจอแบบนี้เข็ดไปอีกนาน
ก่อนจะขยี้ตา ก่อนจะจับตา ก็จะล้างมือให้สะอาด ไม่แอบใส่นอนอีกแล้ว