ขอกำลังใจค่ะ เมื่อตะบะเริ่มจะแตก

ขอบคุณนะค่ะ

เราเคยหนัก 110 กิโล ลดลง เหลือ ประมาน 65กิโล ใช้เวลา 3ปี ***ต้องมีแรงจูงใจก่อนนะ *ตอนแรกเราไม่คิดจะลดหรอกเพราะฝรั่งตัวพอๆๆกับเราเยอะแยะ แต่แรงจูงใจก็คือ อยากประหยัดค่าโดยสาร เลยเดินกลับบ้าน ช่วงนี้ลดไปได้ 10ก่าโล *แรงจูงใจต่อมาคือ รอลิฟท์ขึ้นเรียนนานโฮก ก็เลยใช้บันไดซะ เวลาคอยลิฟท์พอๆๆกะเราคอยลิฟท์นี้ก็ทำให้เราลดลงมาอีก 10ก่าโล (การทานอาหารก็กิน เหมือนเดิมอยู่กินเบอร์เกอร์ ช็อคโกแล็ต) *พอ10กว่าโลที่เหลือ เราก็ได้แรงจูงใจใหม่คือ ที่ ตปท. เสื้อผ้าคนผอม กะคนตัวใหญ่เหมือนกัน แบบเด๋วกัน มันทำให้เรา เริ่มมาคุมอาหารแล้วก็อ่านฉลากอาหารมากขึ้น กิจวัต เดินกลับบ้านและใช้บันไดยังคงทำอยู่ แล้วเราก็ลดได้ เย้ๆๆๆ 3ปีนานหน่อยแต่ก็ค่อยเป็นค่อยไปนะ ไม่ต้องรีบร้อนหาแรงจูงใจไปเรื่อยๆๆ เราอยู่ในโลกความเป็นจริง เราลดแบบคนธรรมดา เราไม่ได้ไปแข่ง the biggest loser ดังนั้ันไม่ต้องคิดมากเค้าลดได้เยอะในเวลาอันน้อยนิดก็เพราะว่าวันๆๆไม่ต้องทำไร แค่ออกกำลังกะกินอาหารในปริมานจที่จำกัด เค้าถูกจ้างให้มาทำ อย่างไงก็สู้ๆๆนะ (เคล็ดลับเล็กๆ)1) ดื่มน้ำเยอะๆๆ 2) ถ้าเริ่มออกกำลังกายใหม่ภายใน1-2วัน นน.ยังไม่ลดนะ หลังจาก1-2วันนี้ละก็จะเริ่มเห็้นผล อย่าพึ่งท้อละช่วงนี้ 3)กินเค็มให้น้อยนะ 4)รู้จักแบ่งไว้กิน เช่นช็อคโคแล็ตหนึ่งแท่ง เก็บไว้กินวันนี้กะพรุ่งนี้ 5) ออกกำลังกายต้องหยุดบ้างนะ อย่าโหมออก7วัน ให้หยุด1-2วันต่ออาทิต เพราะร่างกายจะลดช่วงหยุดนี้แหละ แต่อาหารที่จะกินวันที่หยุดต้องเฮลตี้สนะคะ ฝากเอาไว้แค่นี้นะสู้ๆๆ

 ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะค่ะ ช่วยได้มากๆเลยค่ะ^^

ใจเย็นๆค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่ใจเราว่าค่อยๆลดไปจะดีกว่านะค่ะลดได้เดือนล่ะ1-2โลก็โอเคแล้วนะค่ะ
การที่ค่อยๆลดตัวก็ไม่เหี่ยวแถมเรายังค่อยๆชินกับการกินน้อยลงๆๆ ไม่ใช่จากที่กินข้าว 1 จานเต็มหักเหลือ
ทัพพีเดียวเราจะไม่ไหวแถมยังทำได้ไม่นานก็ตบะแตกด้วยค่ะ การที่เราค่อยปรับเปลี่ยนลดปริมาณพอนานๆไปร่างกาย
และกะเพาะเราจะชินไปเองค่ะ