การจัดฟัน ช่วยเรื่องคางยื่น ได้มั้ยคะ??

ก่อนจะจบขออีกนิดเพราะคงไม่ได้มีโอกาสเข้ามาดูเข้ามาตอบอีกลเยขอให้รายละเอียดให้มากที่สุดแล้วกัน ที่บอกให้เพิ่มน้ำหนักให้มากที่สุดก็เพราะน้ำหนักหลังผ่าตัดของผมลดลงวันละ1กิโลเลยเพราะอาหารที่ทานมันแค่พอทำให้เราอยู่ได้กินเยอะก็ไม่ไหวอาหารเหลวโรงพยาบาลเห็นแล้วก็ไม่อยากกินเบื่ออาหารไปโดยอัตโนมัติเรียกว่าใครจะลดความอ้วนนอกจากตอนเริ่มจัดฟันใส่เครื่องมือใหม่ๆที่ฟันเริ่มขยับ(ภรรยาผมก็ใช้ช่วงนี้แหละลดหุ่นได้จนหน้าตกใจ)ก็มีช่วงผ่าตัดนี้อีกช่วงที่คุณจะได้ลดแบบสะใจกัน เข้าเรื่องเลยดีกว่าที่ผมจะบอกคือหากผู้ที่มีปัญหาขากรรไกรยื่นอยากผ่าตัดแต่ติดที่ค่าใช้จ่ายเอกชนสูงมากๆตอนนี้ผมว่าต้องมี3แสนขึ้นมั้งผมขอแนะนำลองติดต่อที่คณะทันตแพทย์มหิดลในซอยตรงแถวอนุเสาวรีชัย(ไม่รู้ย้ายหรือยัง)เพราะจะมีทั้งการจัดฟันการตรวจรักษาทั่วไปและการผ่าตัดขากรรไกรที่ว่าแต่อาจต้องรอคิวตามระเบียบของราชการ แต่มั่นใจได้เรื่องการรักษาและค่าใช้จ่ายทีเบาลงครับ สุดท้ายขอให้คนที่มีปัญหาเรื่องขากรรไกรยืนลองพบแพทย์ที่จัดฟันและปรึกษาวินิจฉัยดูดีกว่าครับอาการอาจไม่มากถึงขนาดต้องผ่าตัดซึ่งบอกเลยว่าลำบากกับชีวิตพอสมควรแต่ถ้าตอ้งผ่าผลที่ได้มันก็จะดีกับชีวิตใหม่ของคุณตลอดไปแน่นอนขอให้โชคดีครับ

ทีนี้ขอเล่าต่อเลยเอาที่ขั้นตอนการผ่าและอาการหลังผ่าตัด คือหลังจัดฟันเข้าที่แล้วทางหมอจัดฟันจะส่งไปพบแพทย์ทีมที่จะผ่าตัดซึ่งเรียกว่าเป็นผ่าตัดใหญ่ต้องมีหมอดมยามีทีมแพทย์และการตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนนัดผ่าเมื่อร่างกายพร้อมแล้วผมได้รับการแนะนำว่าก่อนผ่าให้เพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นอีกให้มากที่สุดเพราะเป็นคนผอมซึ่งก็ทำได้ประมาณ5กิโล เกือบ5ชั่วโมงออกมาจะมีอุปกรณ์บล็อกฟันในปากไว้1สัปดาห์แรกคือที่สุดของความทรมาณมีแต่อาหารเหลวไม่มีกากกินผ่านสลิ้งและน้ำผลไม้เท่านั้นที่ตกถึงท้องไม่ต้องพูดถึงรสชาติเพราะต้องกินรสเดิมๆทุกวัน หลังจากนั้นกลับมาพักต่อที่บ้านอาหารก็จะเป็นพวกของนิ่มๆเน้นเข้าปากแล้วกลืนเลยห้ามบดเคียวอาหารแข็งๆเหนียวๆเด็ดขาด สำหรับเรื่องแผลนั้นจะบอกว่านอกจากอาการบวมที่หน้าบ้างและอาจมีแผลเล็กข้อยที่ริมฝีปากก็แทบมองไม่เห็นรอยแผลใดๆบอกใครก็ไม่เชื่อเพราะรอยผ่าทั้งหมดจะอยู่ในปากข้างนอกจะเห็นแค่แผลเย็บที่แก้มตรงขากรรไกรแระมาณ1-2เข็มเท่านั้นซึ่งไม่มีรอยแผลเป็นอะไรเลยส่วนความเจ็บนั้นจะบอกว่าไม่เจ็บเลยแต่อาจมีอาการตึงๆบ้างเพราะจุดที่ผ่ามันเป็นจุดรวมเส้นประสาทอาการที่จะเจอแน่นอนคืออาการชายิบๆบริเวณใบหน้ารอบปากนี่อาจเป็นข้อดีก็ได้เลยทำให้ไม่รู้สึกเจ็บใดๆอาการชานี้จะเป็นอยู่และค่อยๆหายไปหลังผ่าตัดเป็นเดือนๆ หลัง1เดือนเรากลับมากินอาหารนิ่มๆปกติแต่ไม่กินอาหารแข็งๆเหนียวๆแม้แต่น้ำแข็งก็ห้ามกัดจน3-4เดือนก็กินอาหารแบบปกติได้เกือบหมด ทีนี้พอครบ1ปีก็ต้องเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้งเพื่อถอดอุปกรณ์ออกเรียกว่าดมยาผ่าตัดอีกรอบแต่เบากว่าเดิมเยอะพักที่โรงพยาบาล1คืนก็กลับได้ไม่มีแผลภายนอกเช่นเดิมกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เลย สำหรับอุปกรณ์ที่ถอดมาจะมีสกรูเล็กๆ10หว่าตัวและแผงโครงยึด2ชิ้นให้เก็บไว้รำลึกถึงอดีตครับ

ขอตอบหลายๆปัญหาพร้อมกันเพื่อเป็นความรู้ให้ผู้ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันได้ทราบ โดยส่วนตัวผมไม่ใชทันตแพทย์แต่ผมเคยผ่านการจัดฟันและผ่าตัดขากรรไกรทั้งด้านขาบนและขาล่างมาพร้อมๆกันแล้ว ปัญหาคางยื่นเกิดกับคนเอเชียเป็นส่วนมากครับส่วนใหญ่เป็นกรรมพันธุ์น้าผมเป็นผ่าตัดเรียบร้อย ,น้องชายก็เป็นแต่ไม่เยอะเลยไม่ผ่า การจะผ่าหรือไม่ผ่าทางหมอจะเป็นผู้วิเคราะห์เองกรณีผมยื่นเยอะมีปัญหาการสบฟันการบดเคี้ยวอาหารและกรามค้างบ่อยแต่บ่อยจนเอากลับเองได้เลย ส่วนน้องผมแค่จัดฟันให้สบกันดีขึ้นก็พอ กรณีต้องผ่าตัดทางคุณหมอที่จัดต้องประสานกับคุณหมอที่จะผ่าซึ่งก็เป็นทันตแพทย์เฉพาะทางครับไม่ใช่หมอศัลยกรรมธรรมดา เรียกว่าเป็นทีมเดียวกันเพื่อประเมินขั้นตอนทั้งการจัดเรียงฟันและการส่งตัวไปผ่าและการดูแลหลังจากผ่านั้นอีกเป็นปีครับต้องดูแลร่วมกันไม่ใช่จัดเสร็จแล้วอยากผ่าค่อยมาทำ สำหรับค่าใช้ผมทำเมื่อ10ปีที่แล้วดังนี้ -จัดฟันจะแพงกว่าปกติเพราะต้องดูแลนานกว่าเคสปกติเยอะประมาณ5หมื่นกว่าบาท -ผ่าตัดขากรรไกรบนล่างโรงพยาบาลรัฐนอน1สัปดาห์ตอนนั้น 1แสนบาท และค่าผ่าตัดหากเป็นเอกชนตอนนั้นผ่าครั้งแรกมี2แสนขึ้นครับ กลับมาพักที่บ้านอีก2สัปดาห์ -1ปีต่อจากนั้นคือการวนไปมาระหว่าหมอจัดฟันและหมอที่ดูแลการผ่าเพื่อตรวจเช็คและตรวจจัดฟันให้เข้ารูประยะเวลา1ปีคือการรอให้กระดูกที่ตัดสมานเข้าหากันให้สนิท -อีก1ปีต้องกลับไปถอดเครื่องมือสกรูไททาเนียมออกอีก3หมื่น

@Opiz จัดที่ไหนคะไม่ทราบว่าจะบอกรายละเอียดได้ไหมคะ ถามมาหลายที่เขาก็บอกว่ายังไงก็ต้องผ่า

ไม่ทราบว่าจัดฟันที่ไหนคะพอจะบอกได้ไหม คือตอนนี้เครียดมากกำลังหาคลินิคที่จะจัดฟันอยู่คือถามมาแทบจะทุกที่บอกว่าต้องผ่าอย่างเดียวเลย