อยากขายของ ขอปรึกษาหน่อยค่ะ

คือเราอยากขายของเล็กๆน้อยๆค่ะ คิดมาระยะนึงแล้ว ทั้งรูปแบบการขาย สินค้าที่จะขาย
ถ้าเราจะขายสิ่งที่เราจะได้แน่ๆตอนนี้ก็คือ
1.ประสบการณ์ และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากลองทำ จะได้รู้ซะทีมันจะเป็นไง
แต่ 2.ช่วงนี้เงินทุนที่มี มันน้อยมากแล้ว
ถ้า 3.เกิดขายดีขึ้นมา ก็จะช่วยให้ ข้อ 2. คือเงินเกิดงอกเงยขึ้นมา
แต่ 4.ถ้าเกิดขาดทุน ตามข้อ 2. คือเงินจะหมดสิ้น 
หรือ 5.เราจะรอให้มีเงินอีกสักนิดค่อยว่ากันใหม่

-จะขายพวกสินค้าเบ็ดเตล็ดอ่ะ เช่น สินค้ามิสทีน เอาตัวที่ราคาไม่สูงนัก และดูจะออกง่าย มาวางขาย
จะเน้นมิสทีนเป็นหลัก และสามารถให้ลูกค้าสั่งได้ด้วย (แต่มิสทีนมันเอามาทำอย่างนี้ได้ไหมเนี่ย)
มิสทีนทีแรกเราจะเน้น ปัดแก้ม น้ำหอม แต่น้องที่ขายบอก แป้ง มาสคาร่า ไลเนอร์ มันขายดี
สินค้านี้ ลูกค้าจะไม่ค่อยได้เห็นเพราะไม่มีวางขาย น้อยคนนักที่จะเห็นแคตฯด้วย
และอาจจะไปดูๆอย่างอื่นมาด้วยเช่น ที่ม้วนผมไดโซะ สบู่มาดามเฮง
อาจจะมีจัดชุดเพื่อผิวขาว สบู่ โลชั่น
-พอดีที่บ้านเป็นร้านอาหาร ขั้นแรกอาจจะวางไว้ ใครสนใจก็มาซื้อ
แล้วจะวางแคตฯไว้ให้ลูกค้า เผื่อสั่งด้วย
และจะตั้งขายหน้าบ้าน คนเดินผ่านเยอะมากกกกก
-แต่แถวนี้ก็มีบิวตี้ช็อปที่ใหญ่มากกกกก
-เห็นเพื่อนๆน้องๆเค้าก็ขายกันได้ เลยอยากลองทำดูบ้าง
-ตอนนี้อยู่ในช่วงหางานทำอ้ะ เลยอยากหาไรทำไปก่อน
-ขอบคุณค่ะ ลังเลมากๆๆ
*เพิ่มเติม ถ้าเป็นมิสทีน คุณคิดว่าคุณซื้ออะไรง่ายที่สุดคะ เจาะกลุ่มลูกค้า หญิงบาร์ ที่เดินผ่านประจำ

Discussion (5)

เราเป็นผู้จัดการเขตคนใหม่น่ะ เหนื่อยมากจิงๆแหละ ใครแนะนำวิธีการหาลูกค้าได้เยอะๆไม๊ บอกตรงๆ เริ่มท้ออ่ะ
@2 ขอบคุณมากเลยค่ะ เราก็มีเงินทุนประมาณนั้นแหละ 555+
มันได้ของไม่กี่ชิ้นเอง เงินเราก็น้อยอ่ะ
มีปัญหาที่สุดก็เงินทุนค่ะ ไม่งั้นไม่คิดมากเลย
แล้วเราจะติดต่อคุณได้ยังไงคะ
เราเปิดร้านขายเครื่องสำอางอยู่ค่ะ
เชื่อไม๊ว่า เริ่มลงทุนโดยที่มีเงินทุนแค่ 800 บาท ,, และบ้านก็ยังต้องเช่าอยู่ด้วย

มีทริคแนะนำค่ะ
1. เลิกสินค้าที่กำลังเป็น "เทรนด์"
, , เพราะเบญเคยลองเลือกสินค้าที่ดี(เนื่องจากว่าศึกษาเรื่องผิวพรรณมาเยอะพอสมควร) แต่ ,, ลูกค้าไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น
ผลคือ สินค้าที่ ดี และราคาไม่สูงมาก กลับโดนเมิน แต่สินค้าที่พอใช้ได้ ถึงแม้จะราคาสูงกว่า ก็ยังขายได้อยู่ดี

2. ศึกษาการตลาดของบริษัทนั้นให้ลึกซึ้ง ดูความเห็นด้านลบของบริษัทด้วย (ในเว็บพันทิพ อะไรพวกนี้)
, , เพราะถ้าลงทุนไปแล้ว การดูแลด้านการตลาดแย่ ทำให้ทุนเราจมได้นะคะ
. . ยกตัวอย่าง "บริษัทที่ชื่อเหมือนเต๊นท์ขายรถ" ลงสินค้าในนิตยสาร สินค้าเป็นที่นิยม ต้องการรับตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก แต่เอาเข้าจริง จ่ายเป็นหมื่นๆ ได้เป็นแค่ตัวแทนได้ราคาส่งอีกราคานึง ซึ่งแพงกว่าร้านที่จ่ายเป็นแสน มีสิทธิ์ค้าส่ง แถมสินค้าบางตัว ตัวแทนก็ไม่สามารถเอามาขายได้ด้วย . . แบบนี้ทุนเราจมแน่ เพราะตัดราคากันจนเลือดสาด (เรื่องนี้เป็นที่กล่าวถึงเยอะมาก ต้องลองศึกษาดู)

3. เลือกสินค้าหลากหลายได้ แต่เน้นตัวที่ "เด่นๆ ดังๆ" ของแต่ละยี่ห้อ เพราะจะมีโอกาสขายออกได้ไวกว่า

. . ตอนนี้การแข่งขันการตลาดรุนแรงค่ะ แม่ค้าหน้าใหม่มีโอกาสโดนชำแหละสูง
(ในฐานะที่เป็นแม่ค้าคนนึง รู้ซึ่งถึงความเหนื่อยยากมากๆเลย และก็น่าสงสารคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาเหมือนกัน ถ้าเจอคนดีๆก็ดีไป แต่ถ้าเจอเสือ สิง กระทิง แรด ก็น่ากลัวว >_< )

, , ยังไง ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ อยากได้คำปรึกษาอะไรเพิ่มเติม ยินดีมากๆเลยค่ะ

@1 ขอบคุณค่ะ อาจจะไม่เน้นแบบเปิดสั่งเท่าไรนัก
ส่วนถ้าสั่งแล้วไม่เอา เราก็เอามาวางขายได้ค่ะ

คิดว่าของที่คิดจะขายก็น่าจะขายออกง่ายอยู่นะคะ แต่ที่บอกว่าให้สั่งอันนั้นในระยะแรกอาจจะไม่ค่อยมีคนสนใจนะคะ เพราะเป็นหนังสือต้องมาเปิดๆ แล้วก็ไม่ได้ของเลย ต้องรอและไว้ใจกัน คนส่วนมากมักจะชอบอะไรที่จับต้องได้ เห็นของจริงๆ และหยิบซื้อได้เลย แล้วยังบอกว่ามีบิวตี้ช้อปใกล้ๆ แถวนั้นอีก เค้าไม่สั่งหรอกค่ะ คนเราต้องมักจะได้เห็นได้ลองแล้วถึงจะซื้อ แล้วเผื่อบางคนสั่งแล้วไม่เอาล่ะคะ แล้วถ้าให้เค้าวางเงินก่อนเค้าจะเชื่อใจคุณมั๊ย เราว่าเน้นวางขายนั่นแหละดีแล้ว แต่ต้องสู้เรื่องราคา ร้านใหญ่มีของเยอะกว่า แต่ถ้าเราถูกกว่าบางอันลูกค้าก็จะมาซื้อที่เรานะคะ คิดว่า แต่กำไรเราจะน้อยกว่าเค้าเพราะของเราไม่ใหญ่เท่าเค้าที่ถ้าลดก็สามารถลดได้เยอะ