เห่อ&รีวิว :: แป้งผสมรองพื้นDior ลูกรักตัวใหม่ ❤•°º¤
Merlinnee115สวัสดีค่ะชาวจีบัน
วันนี้แวะมาเห่อ&รีวิว แป้งใหม่ที่เพิ่งสอยมาค่ะ
"อยากชมรูปภาพแบบขยายใหญ่คลิกเข้าไปชมที่รูปภาพได้เลยนะคะ "
แป้งที่เราจะมาพูดถึงกันวันนี้คือแป้งผสมรองพื้น Diorskin Nude
Natural Glow Sculpting Powder makeup SPF 10
เราใช้ เบอร์ 21 นะคะ ออกโทนขาวเหลือง
แป้งรุ่นนี้ BA เคยให้เทสเตอร์มาลองแล้วติดใจเก็บไว้ในwish list รอวันสอย
แป้งรุ่นนี้จะมีให้ทั้งพัฟแล้วก็แปรงเลยค่ะ แปรงก็คุณภาพดีขนนุ่มมาก
ปกติเราจะชอบใช้แปรงปัดแป้งเพราะดูธรรมชาติกว่าใช้พัฟค่ะ
มีซองผ้ากำมะหยี่(เปื้อฝุ่นง่ายมากกกก)มาให้ตามสไตล์Dior มีช่องข้างหน้าสำหรับใส่แปรงค่ะ
มาเปิดดูข้างในตลับกันค่ะ ข้างในก็จะมีแผ่นพลาสติกครอบ+พัฟ
เรารู้สึกว่าพัฟทั้งสองด้านเนื้อไม่เหมือนกันนะคะ
ด้านนึงจะเป็นแบบกำมะหยี่ ด้านนึงจะเป็นแบบฟองน้ำธรรมดาค่ะ
แป้งจะ 3 สีในหนึ่งตลับ
สีบนสุด :: จะเป็นสีที่สว่างที่สุด+มีวิ๊งเล็กๆ ไว้ทำไฮไลท์
สีตรงกลาง :: จะเป็นสีที่เข้มที่สุดไว้ทำเฉดดิ้ง
สีล่างสุด :: เป็นสีโทนธรรมชาติโทนเดียวกับผิวเรา ไว้ทาปกติ
** ภาพที่เราถ่ายมาสีเพี้ยนนะคะ เพราะถ่ายกับแสงไฟในห้อง สีจริงๆแป้งออกเหลืองมากกว่านี้ พยายามไม่ให้สีมันเพี้ยนแล้วแต่ฝีมือไม่ดีเลยไม่สามารถค่ะ T^T ขอโทษด้วยค่า วันหลังจะพยายามถ่ายแสงปกติตอนกลางวันค่ะ คือเราเป็นพวกชอบคึกถ่ายรูปรีวิวตอนดึกค่ะ แหะๆ >"< ***
Review ::
-เนื้อแป้ง
เนื้อเนียนละเอียด ถึงจะเป็นแป้งผสมรองพื้นแต่บางเบาไม่หนาไม่เน้นปกปิดค่ะ เน้นความบางเบาเป็นธรรมชาติ ยิ่งถ้าใช้แปรงลงยิ่งดูธรรมชาติ เปรียบเทียบตัวนี้กับ Chanel matte lumiere extreme ที่เราเคยใช้เมื่อก่อน Chanel จะดูเนียนเด้งกว่าแต่ดูรู้ว่าทาแป้งผสมรองพื้น แล้วก็Chanelเนื่องจากแป้งเป็นเนื้อMatteบางทีทาไปที่คนสาวหน้ากลมอย่างเรารู้สึกว่ามันดูแห้งแมทแบนๆไม่มีชีวิตชีวา ส่วน Dior จะบางเบาแล้วก็ธรรมชาติกว่า ทาแล้วเหมือนละลายกลืนไปกับผิวเราแต่ก็ทำให้หน้าเราดูเนียนเด้งแบบธรรมชาติสามารถใช้ได้ทั้งแบบแยกทีละสีเพื่อสร้างมิติกับหน้า แล้วก็สามารถใช้แบบปาดรวมๆกันก็ได้ค่ะ
-ระหว่างวัน
ระหว่างวันสีไม่ดร็อปนะคะสำหรับเรา ทาไปซักพักพอแป้งเซ็ตตัวผิวจะดูglowแต่ไม่มัน แต่ไม่ได้ถึงขนาดDewyวาวขนาดสาวเกาหลีนะคะ ดูglowแบบธรรมชาติมากกว่าค่ะ เรื่องความติดทนเราทาตั้งแต่บ่ายประมาณถึงเที่ยงคืนโดยไม่เติมแป้ง แป้งยังอยู่ยังเด้งนะคะ อาจมีแป้งหลุดๆไปนิดนึงตรงT-ZONE ถ้าใครหน้ามันมากๆอาจต้องเติมระหว่างวันค่ะ
-สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษ
เราชอบที่แป้งมีสามเฉดไว้ทำไฮไลท์/บรอนเซอร์ ทำให้หน้าดูมีมิติ วันไหนรีบๆไม่ต้องมานั่งหานั่งลงไฮไลท์ บรอนเซอร์ทาซ้ำหลังทาแป้ง แต่สีบรอนเซอร์ไม่ได้เข้มมากเหมือนบรอนเซอร์ทั่วๆไปนะคะ อันนี้จะออกแนวธรรมชาติกว่าค่ะ ส่วนถ้าใครชอบให้หน้าดูวาวมากๆอาจจะเน้นทาตรงส่วนแป้งที่สีอ่อนสุดที่เป็นไฮไลท์ก็ได้ค่ะ
-สิ่งที่ไม่ชอบ
ตรงช่องที่ใช่พัฟ/แปรง ไม่รูระบายอากาศ ตั้งแต่ใช้แป้งมาหลายๆตัวเพิ่งเคยเห็นแป้งที่ไม่ทำรูระบายอากาศที่ช่องพัฟ/แปรงนี่แหละค่ะ กลัวมันจะชื้นหรือไม่ถ่ายเทจัง = =" แล้วก็ไม่ชอบที่ทาไปนานๆตรง T-ZONEมีแป้งหลุดเล็กออกน้อยนี่แหละค่ะ เราเป็นพวกไม่เติมแป้งระหว่างวันค่ะ ชอบลืมเติม+ขี้เกียจพกแป้ง สุดท้ายคือราคาแพง แต่ของเค้าดีเลย(จำ)ยอม 555 ยังดีหน่อยที่เราเป็นคนใช้แป้งไม่เปลืองนานมากๆกว่าจะหมดเพราะอย่างที่บอกเป็นคนไม่เติมแป้งระหว่างวัน แป้งรุ่นนี้มีรีฟิวให้เปลี่ยนนะคะหลังใช้หมด
คะแนน >>
จบแล้วค่ะ ไม่ได้ทำรีวิวนานเหมือนคนเก็บกดเลยเนอะ 555 อัพทียาวเลยค่ะ
หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่เข้ามาอ่านบ้างนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน มาดูรีวิวของเรานะคะ ขอบคุณค่ะ
Discussion (15)
ตอนนี้ใช้จนจะหมดแล้ว เตรียมรอซื้อรีฟิลใหม่ได้แน่ๆ
เราใช้แล้วเป็นเหมือนจขกทเลยค่ะ หน้ามันเด้งงงง ใสๆ แต่ปกปิดปานกลาง ดูไม่ออกว่าโบกแป้งผสมรองพื้นมา ดูไม่แมทเกินไป ที่สำคัญ พกไปเติมระหว่างวันง่ายมาก เพราะว่ามีทั้งไฮไลท์และบรอนเซอร์ ชอบๆ เนอะ
แต่เห็นสาวๆชอบใช้ชาแนลมากกว่า เพราะว่าตัวนั้นเหมาะกับคนหน้ามันมากกว่า ถ้าคนที่ผิวไม่มันมากเราว่าตัวนี้เวิร์คกว่านะ
พูดมากจริงเรา - - แค่จะบอกว่า หลงรักแป้งตัวเดียวกันนี่แหละจ้ะ 55+
กรี๊ดดดด คุณ marlinnee เราไปสอยมาแว้วค่ะมาะวาน แต่ chanel vitalumiere eclat น่ะค่ะ เรามาคิดดูเราทำพวกเฉดดิ้งอะไรยังงี้ไม่เป็นอ่ะค่ะ เลยตัดสินใจเอาน้องเนลไป
ทาแล้วมารีวิวให้ดูบ้างน่ะค่ะ :)