เบส กับ ไพรเมอร์

 ไพรเมอร์จะเป็นตัวที่ปรับให้ผิวเรียบเนียน ทำให้แต่งหน้าในขั้นตอนถัดไปง่ายขึ้น
เจ้าตัวไพรเมอร์มันจะช่วยเก็บหลุมเล็กเคลือบหน้าเอาให้ในเรียบเนียนคะ

ส่วนเบสเนี่ย จะช่วยปรับสีผิวให้สว่างและเท่ากันมากขึ้น
เบสเขียว - ลดดำรอยแดงให้ผิวสว่างขึ้น
เบสม่วง - ปรับผิวให้สว่างขึ้น เค้าบอกว่าสีม่วงเหมาะสำหรับผิวสองสีแต่ส่วนตัวคิดว่า ทาแล้ววอกกว่าสีเขียวอีก
เบสสีเนื้อ - ปรับสีผิวให้กลมกลืนเรียบเนียน

ทั้งสองตัวมีคุณสมบุติให้ Makeup ติดทนนานขึ้นด้วย
แต่ไม่มีความสามารถในการกลบรอยสิวให้เนียนกริ๊บเหมือนรองพื้นนะคะ คนละวัตุประสงค์กัน

คงพอช่วยได้บ้างนะคะ

 ส่วนตัวเราใช้้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งอ่ะนะคะ เพราะไพร์เมอร์ก็ช่วยปรับผิวได้ในระดับนึง แล้วเราก็ใช้รองพื้นโดยไม่ใ่ช้เบสเพราะไม่อยากเยอะเำกินไป
ถ้าใช้ทั้งสองตัวก็ทาไพร์เมอร์ก่อนเลยค่ะ ทิ้งไว้ให้แห้งก่อนนะคะ อย่าลืมว่ามันเป็นซิลิโคน แต่ก็ทำให้เกลี่ยอย่างอื่นได้ง่ายขึ้นค่ะ

ได้ความรู้มากเลยค่ะ แล้วควรจะใช้ในขั้นตอนไหนคะ

 ไพร์เมอร์ปรับผิวให้เนียนละเอียด รองพื้นหรือเครื่องสำอางติดทนนานขึ้น บางชนิดก็ผสมสีมาด้วยเพื่อให้มีคุณสมบัติเหมือนเบสในตัว ไพร์ส่วนใหญ่มีส่วนผสมเป็นซิลิโคนเพื่อไปฉาบให้ผิวเรียบเนียน เติมเต็มริ้วรอยหรือรูขุมขนตื้นๆ ได้เล็กน้อย แต่หลักๆ คือช่วยให้รองพื้นติดทนนาน ไม่ตกร่องเป็นคราบ
เบสเป็นสี มีหลายสี ช่วยปรับสีผิวที่มีจุดบกพร่องบนใบหน้า เช่นรอยคล้ำ รอยแดง รอยกระต่างๆ หรือเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว บางตัวก็ช่วยกระจายแสง 
ทั้งเบสและไพร์เมอร์แทบไม่มีส่วนช่วยในการปกปิดใดๆ แต่แค่ช่วยปรับสภาพผิวในเบื้องต้นเพื่อให้การแต่งหน้าสมบูรณ์แบบมากขึ้น ถ้าเป็นคนหน้ามันก็เน้นรองพื้นดีๆ หน่อยและใช้แค่ไพร์เมอร์ช่วยก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ใช้รองพื้นก็ใช้ทั้งไพร์เมอร์ทั้งเบสก็ได้ เพราะไพร์เมอร์จะทำให้แป้งติดทนขึ้น และเบสจะทำให้หน้าดูผ่องใสขึ้น (แต่ไพร์เมอร์บางตัวก็ช่วยเรื่องหน้าเด้ง กระจ่างใสได้ในตัวเลยนะ)

จุดด่างดำบนใบหน้าคงต้องอาศัยรองพื้น และคอนฯ เป็นหลักนะคะ คนหน้ามันยังไงก็ยากที่จะทำให้ไม่มัน แต่ไพร์เมอร์จะช่วยให้เวลาที่หน้ามันแล้วเครื่องสำอางไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง แล้วเราก็แค่ซับมันแล้วก็เด้งต่อได้ค่ะ จะบอกว่ามันช่วยได้จริงๆ นะ สาวผิวแห้งหรือผิวผสมอาจคิดว่าใช้แล้วไ่ม่ต่าง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สาวผิวมันอย่างเราใช้แล้วมันช่วยได้จริงๆ มันดีกว่าตอนไม่ใช้มากๆ