ขอระบายค่ะ...เต็มทนแล้วกับชีวิต

ไม่ไหวแล้วค่ะวันนี้ เต็มทนกับชีวิตที่แทบจะไม่มีความสุขเลย

เพิ่งทะเลาะกับน้องชาย(คนเล็ก)มาสดๆ ร้อนๆ เรื่องใช้มอไซค์ วันนี้ขี่มอไซค์เอาลังไม้ตาลไปตั้งไว้ที่ร้านแต่เช้าแล้วกลับมาอาบน้ำ พอกลับมาไอ้น้องชายสุดเลวที่ขยันใช้รถแล้วไม่ช่วยเติมน้ำมันก็ขอยืมรถไปส่งเพื่อนหน่อย แป๊บเดียวเอง เราก็ให้แต่โดยดี แต่สุดท้ายจนอาบน้ำแต่งตัวเสร็มันก็ยังไม่กลับ ทั้งที่เราต้องไปไปรษณีย์ก่อนเที่ยงเพื่อส่งของให้ลูกค้า รอจนแล้วจนรอดผ่านไป 3 ชั่วโมง มันก็ยังไม่กลับ จึงปลุกให้ลูกน้องขับรถยนต์ออกไปเอาชั้นวางของที่สั่งทำไว้ (ขับรถยนต์ยังไม่เป็นค่ะ) จนเอาของเสร็จกลับมา รอมันอีกเป็นชั่วโมงก็ยังไม่กลับ รอจนหลับมันกลับเอารถมาคืนแล้วหายหัวไปอีก รวมๆ แล้วแป๊บเดียวของมันเกือบ 5 ชั่วโมง กว่าเราจะได้รถคืน

เมื่อสักครู่มันกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากำลังจะไปซ้อมบาส ก็ถามมันดีๆ ว่าไปไหนมา หายหัวไปทั้งวันมันว่าอยู่โรงเรียน กับไปส่งเพื่อนที่ BigC ซึ่งไกลจากบ้านราวๆ 2-3 กม. ที่ไปโรงเรียนไม่ใช่ว่าขยันรึไงหรอกนะคะ แต่มันสุมหัวอยู่กับเพื่อนที่หอทั้งวัน ไอ้เราก็ด้วยความจี๊ดสุดจะทนเพราะเป็นแบบนี้หลายหนแล้ว กับข้ออ้างของมันที่ทำให้เราเสียคนกับลูกค้า รวมทั้งแม่โทมาว่าไปขายของรึยังพออธิบายกลับกลายเป็นว่า "ขายของแบบนี้ตายกันพอดี" แม่กลับว่าเรา สุดจะทนแล้วค่ะ อุตส่าห์ออกไปตั้งร้านแต่เช้าตรู่ เกือบแปดโมงเช้า กลับกลายเป็นว่าผิดทั้งขึ้นทั้งร่อง มันกลับไม่สนใจ เราถามว่าแกผิดมั้ยที่ทำให้ชั้นถูกแม่มองแบบนี้ แล้วมันกี่หนแล้ว มันเฉยทำลอยหน้าลอยตากวนอารมณ์อย่างที่มันทำทุกครั้ง เราเลยคว้าก้านลูกโป่งใกล้ๆ ตีมันด้วยความโมโหสุดขีด มันตะคอกกลับว่าเป็นเหี้ยอะไร ตีกูทำไม ชั้นตีแกเพราะแกทำให้ชั้นแย่ในสายตาของทุกคน แกเข้าใจมั่งมั้ยว่าชั้นทำมาหากินไม่ได้ก็เพราะแก เป็นแบบนี้กี่ครั้งกี่หนแล้ว มันเถียงทุกคำ จนตีมันอีกครั้ง มันลุกขึ้นมาบีบคอเรา เราท้าหั้ยมันบีบคออีก มันไม่บีบแต่ถีบเราแทน เราจึงตีมันอีก ครั้งนี้มันจับเรายึดเราก็เลยจับแขนยันเอาไว้พร้อมทั้งเอาเล็บจิกมันไปครบทุกนิ้ว มันคงเจ็บเพราะเล็บเราถึงจะไม่ยาวมากก็ถือว่ายาวอยู่เหมือนกัน จสุดท้ายมันประชดว่าเออกูจะไม่ขี่แล้ว จะบอกให้แม่ซื้อรถให้ใหม่ จะฟ้องแม่ เลยท้าให้มันฟ้องบอกมันว่าฟ้องให้ตรงประเด็นนะ ฟ้องให้ครบทุกคำที่ชั้นพูด อย่าตอแหลแล้วกัน มันเลยบอกว่าวันนี้บอกแม่ให้ด้วยมันจะไม่กลับบ้าน จะเลิกเรียน จะเลิกเล่นบาส อยากจะทำอะไรก็ทำแต่ชั้นไม่บอกแม่ให้ อยากจะไปนอนที่ไหนคุณก็ไปบอกแม่เอาเอง แล้วอย่ามาแตะรถชั้นอีก

มันเก็บมานานแล้วค่ะ ไอ้ความอัดอั้นเนี่ย หลายครั้งหลายหนที่เป็นแบบนี้ แต่ไม่มีใครเคยเข้าใจและทุกครั้งเราจะเป็นคนแรกที่ถูกมองว่าไม่ดี ขี้เกียจทำมาหากิน ทั้งที่เราหาช่องทางที่จะค้าขายให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเริ่มจากการขายเสื้อผ้าที่เลิกเพราะตามแฟชั่นไม่ทัน เราก็เอาไอ้ที่ยังขายไม่หมดเนี่ยไปขายในเว็บไซต์สนุกช้อปปิ้ง เพื่อที่อย่างน้อยก็ได้ทุนคืน ระบายของในราคาที่ต่ำกว่าทุน (คงเข้าใจนะอย่างน้อย กำขี้ดีกว่ากำตดอ่ะ) แล้วเปลี่ยนมาขายเซรามิคแต่งห้อง พวกของแต่งห้องและยังไปเอากล่องของขวัญจาก ไดโซะมาขายซึ่งก็ขายดีอยู่รับ 60 ขาย 99 ก็ยังพอได้อ่ะนะ จนมันปิดเทอมรายได้มันแย่สุดๆ

แต่ก็ไม่ใช่แค่นี้ที่เราขาย เรายังทำ BBQ ขายด้วยขายในตลาดนัดใหญ่ นี่ก้อโอเค ขายหมดทุกนัดทำครั้งละราวๆ 200 ไม้ได้กำไรเกือบครึ่ง เดิมเคยได้มากกว่าครึ่งแต่เดี๋ยวนี้ของขึ้นราคาแทบทุกอย่าง จะขึ้นราคาตามก็นะ มันแพงเราเองยังไม่อยากกินของแพงเลย เห็นใจลูกค้าอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ 100 ไม้ได้กำไรราวๆ 400 บาทก็ยังทนได้อยู่ และก็อย่างวันนี้เราขายผลิตภัณฑ์ไม้ตาลเมืองเพชรบุรี อันนี้ก็ขายได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์นี่ล่ะค่ะ เพราะขายนักท่องเที่ยววันธรรมดาก็ไม่มีใครมาซื้ออยู่แล้วอ่ะ และทุกอย่างยกเว้นของกิน เราถ่ายรูปสินค้าแล้วพยายามหาช่องทางขายทางเว็บไซต์ให้ได้มากขึ้น มันก็ยังไม่ค่อยดีนัก
เพราะถึงได้มาเท่าไหร่เราหมดไปกับค่านมลูก ค่าขนม ค่ากับข้าวที่ต้องซื้อมาทำทีนึงไม่ใช่น้อย เพราะมันไม่ใช่แค่เราและลูก แต่ยังมีแม่ ยาย น้องชายอีก 2 คน รวมทั้งเพื่อนน้องชายคนโตที่บางครั้งพากันมานอนเป็นฝูง (บ้านเราเป็นห้องซ้อมดนตรีอ่ะ) ไหนยังจะค่าน้ำมันรถที่เติมแล้วแทบจะไม่ได้ใช้เลย น้ำมันก็แพง จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่แค่ คชจ. พวกนี้ บางครั้งยังถูกคุณน้องๆ ดาวไถอีกต่างหาก

ครั้นจะให้ไปทวงกับแม่เหรอคะ แม่เลี้ยงเรามาขนาดนี้ ช่วงที่ลูกเรายังไม่เข้าโรงงเรียน แม่ช่วยออกคชจ. ให้เกือบทุกอย่าง เพราะเงินเดือนเราก็คงไม่พอแน่นอนอยู่แล้ว ค่าคลอดลูกทั้ง 2 คนแม่จ่ายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่าอะไรก็ตามต่อให้แม่บอกว่าขอยืมก่อนเดี๋ยวแม่คืนให้ เราไม่เคยทวงเราจะรอจนกว่าแม่จะเอ่ยปากถามเองว่าแม่คืนรึยัง ค่าไอ้นั่นไอ้นี่น่ะ เราถึงจะได้คืน บอกตรงๆ ไม่ว่าจะค่าอะไรก็ตาม น้องยืมรึค่ากับข้าวในบ้านที่แม่บอกว่าจ่ายก่อนแล้วค่อยมาเอากับแม่ นั่นน่ะเราไม่กล้าทวงแม่หรอกถ้าเทียบกับตลอดชีวิตที่แม่ให้เรามา

เราเองเป็นลูกสาวคนเดียว จริงๆ มันก็มีปมในใจอยู่ เราคิดอยู่ตลอดว่าเราทำให้ตัวเองย่ำแย่เอง ที่เผลอตัวไปจนมีลูกคนแรกก็ยังไม่เข็ดจนมีคนที่สองเราจึงแต่งงานถึงได้เข้าใจว่าไอ้คนพรรค์นี้มันไม่ได้มีความดีอยู่ในตัวเลย เราไม่หวังพึ่งอะไรกับไอ้สามีเลวๆ คนนี้ แม่เราฝากมันเข้าทำงาน(กฟภ.) ได้ 2 เดือนมันส่ง sms มาขอเราหย่า ถามว่าเราเสียใจมั้ยในตอนนั้น ไม่แล้วนะ มันเจ็บมาจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว มันชาไปหมดแล้ว ความรู้สึกที่เหลือคงเป็นความแค้นซะมากกว่า แค้นที่มันไม่คิดจะช่วยเหลือลูกเลย มันซ้ำเราด้วยการควงสาวที่จะเรียกว่าเมียน้อยน่าจะได้ใส่ชุดสาวโรงงานเต็มฟอร์มเข้าที่ทำงาน ทั้งๆ ที่มันรู้ว่าที่นั่นเค้ารู้จักแม่ รู้จักเรากันทุกคน ทุกคนมองและแน่นอนต้องคิดว่าใครกันนะนั่นไม่ใช่ลูกสาวสมุห์นี่ (แม่เราทำอยู่กฟจ.เป็นสมุห์บัญชีค่ะ) นั่นทำให้พวกเราเสียหน้าสุดๆ ตอนนี้แม่เราอยากให้ฟ้องหย่าอย่างเดียวเลยค่ะ แน่นอนค่ะเราแค้นมากแน่ๆ อยู่แล้วเพราะมันคือคนแรกเลยที่เราคบ และมันเข้าไปอยู่ใน black list ของเราแล้วเรียบร้อยโรงเรียนแค้น

วันก่อนเราเพิ่งทะเลาะกับไอ้ชายแรกใน black list คนนี้เรื่องค่เลี้ยงดูลูก คงเดาไม่ออกว่ามันตอบว่าอะไร เราจี๊ดขึ้นมากับไอ้คำตอบสุดห่วยของมัน "คุณยังไม่หย่าให้ผม แล้วผมจะให้คุณได้ยังไง" ต๊ายยย นี่ต้องให้หย่าก่อนหรอ ลูกถึงจะได้ค่าขนมน่ะ เคยด่ามันไปเรื่องค่าเลี้ยงดู มันว่าแล้วมันไม่ได้เก็บเงินให้ลูกรึไง เอ๋าๆๆๆอิชั้นจะทราบมั้ยคู๊ณณ ถ้าคุณเก็บไว้ให้ลูกจริง ทำไมไม่จ่ายซะล่ะคะ ให้ตายเถอะจะรอให้ลูกกินแกลบก่อนรึไงวะ ไอ้ลำพังทุกวันนี้เด็กมันสับสนเรื่องพ่อก็แย่เต็มทนแล้วนะ เพราะเด็กๆ เข้าใจว่าเค้ามีพ่อหลายคน ทั้งพี่ชายเรา เพื่อนเรา เพื่อนพี่ชาย และน้าผู้ชายเพื่อนบ้านที่ดีกับลูกเรามากๆ กันทุกคน โดยเฉพาะพี่ชายเราที่ขอรับเลี้ยงลูกชายคนโต? ออกค่าเทอมให้ ส่วนลูกสาวเพิ่งเข้าอนุบาลเราก็ออกค่าเทอมได้ในส่วนหนึ่งส่วนที่เหลือแม่ออกให้ ยังเบิกไม่ได้ เพราะไอ้คุณชายเรวนั่นมันยังบรรจุไม่ครบ 6 เดือน จนตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเป็นพวกชาวเกาะเลย เกาะพี่ เกาะแม่ เศร้าใจค่ะ

ถามว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะห้ามไม่ให้ตัวเองคบกับมันมั้ย ก็ไม่นะ เพราะรู้ว่าถ้าไปห้ามไปหยุดตรงเรื่องนั้น มันก็จะทำให้เราไม่ได้มีลูก 2 คนที่น่ารักแบบนี้ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำให้เรายิ้มได้ก็คือลูก นี่คือสิ่งมีชีวิตที่มีค่าที่สุดในชีวิตเราเลย

ยาวใช่มั้ยคะ ถึงจะไม่มีใครอ่านก็พอเข้าใจนะ เรื่องราวมันน่าเบื่ออ่ะ บอกตรงๆ ว่าตอนพิมพ์นี่มือสั่นเลยค่ะ มันเครียดจนบางครั้งอารมณ์แปรปรวน อยากไปพบจิตแพทย์อยู่เหมือนกัน เอ๊ะ! เราเป็นโรคจิตรึเปล่านะ ตอนนี้พอได้ระบายมันก็เบาลงนะ ขอบคุณนะคะเปิดมา มองผ่านๆ ก็ยังดี คือว่า ขอแค่ได้ระบายน่ะค่ะ ก็ยังดีนะ


ปล.บางคำพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ขอโทษด้วยนะคะ โกรธจนมือสั่นน่ะค่ะ


Discussion (55)

เฮ้อ อ่านแล้วเห็นใจจังค่ะ สู้ต่อไปเพื่อลูกนะคะ เรารู้ว่ามันเครียด แต่ขอให้อดทน ลองหาช่องทางทำกินอื่น ๆ นะคะ เรื่องน้องเรื่องคนรอบข้างเราคงทำอะไรไม่ได้เพราะมันเป็นปัจจัยภายนอก แต่ขอให้จิตใจคุณเข้มแข็ง อย่าท้อแท้ สู้ ๆ ค่ะ
สู้ๆค่ะ  อึดอัดมาระบายกะเราได้นะคะ  รับฟังค่ะ แต่อาจจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้  แต่ทุกปัญหามีทางแก้ค่ะ  ที่สำคัญคือสติ...  ไตร่ตรองให้รอบครอบก่อนค่อยลงมือทำ      เราก็เป็นคนที่ๆบ้านไม่คาดหวัง แต่ปัจจุปันเราคือคนที่ส่งน้องเรียน และจุนเจือครอบครัว  แถมเป็นคนเดียวที่ไม่มีปัญหาให้ใครหนักใจ(ยกเว้นเรื่องยืมเงิน..ถ้าไม่จำเป็นเราไม่ให้ยืม) 
สู้ๆนะคะ คิดถึงลูกเป็นหลักค่ะ

อ่า คุณดา สามีอยู่ไฟฟ้าไหนคะ ไม่คิดว่าจะเจอครอบครัวสีม่วงในนี้เลยนะเนี่ย (สีประจำ กฟภ.ง่ะ) อายจัง

 ยังไงก็ขอบคุณทุกคนนะคะ


ปล.มะวานตั้งทู้ ขอเห่อ..ผลงานตัวเอง สงสัยจะถูกลบไปแย้วอ่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะขายของจิงๆ นะ แค่เหงา ๆ อ่ะ ลูกค้ามะออร์เดอร์ แต่อยากทำของ ทำแล้วมะมีใครดูง่ะ เลยเอามาแปะให้ดูเจ๋ยๆ เรื่องราคาที่บอกไป เพราะมีคนถาม มิมีเจตนาค้าขายในบอร์ดนะค้าบ ธุจ้า

ขอเป็นกำลังใจให้อีกคน
ทุกคนก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นแหละ
(ร่วมถึงดาด้วย) ขึ้นอยู่กับว่าจะเล็กหรือใหญ่
รับไหวหรือไม่ไหว
เป็นกำลังใจให้นะ สู้ต่อไป
แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
(คุณสามีของดาก็ทำงานไฟฟ้า)