ข้อดีระหว่างโฟมมีฟอง และไม่มีฟอง
ThreeLittlePigs37 สงสัยมานานแล้วค่ะ ทำให้เราไปค้นหาจึงได้ความรู้เกี่ยวกับโฟมแบบมีฟอง และไม่มีฟอง อย่างไหนดีกว่ากัน
มาทำความรู้จักกับสารที่ทำให้เกิดฟอง
สารที่ทำให้เกิดฟองในโฟม หรือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดนั่นคือ Surfactant เรียกเป็นภาษาไทยว่า สารลดแรงตึงผิว คือมันจำไปทำให้ลดค่าแรงตึงผิงของน้ำบนวัตถุใดๆ ลง มีผลทำให้น้ำสามารถเข้าไปแรกซึมระหว่างผิวของวัตถุกับส่องสกปรกที่ติดอยู่ได้ (สังเกตุได้จากการล้างจานแล้วเสียงเอี๊ยดๆๆ)
มาทำความรู้จักกับสารที่ทำให้เกิดฟอง
สารที่ทำให้เกิดฟองในโฟม หรือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดนั่นคือ Surfactant เรียกเป็นภาษาไทยว่า สารลดแรงตึงผิว คือมันจำไปทำให้ลดค่าแรงตึงผิงของน้ำบนวัตถุใดๆ ลง มีผลทำให้น้ำสามารถเข้าไปแรกซึมระหว่างผิวของวัตถุกับส่องสกปรกที่ติดอยู่ได้ (สังเกตุได้จากการล้างจานแล้วเสียงเอี๊ยดๆๆ)
แล้วมีผลอย่างไรกับผิวหน้าเราล่ะ ???
ธรรมชาติของผิวหน้าเรานั้นมีความเป็นประจุอยู่แล้ว (สังเกตได้จากปรากฎการณ์ไฟฟ้าสถิตจากหวีผมไง)ดังนั้นเวลาเราล้างหน้า ประจุไฟฟ้าจาก surfactant ที่มีประจุตรงข้ามกับประจุที่มีอยู่บนใบหน้าเรา ก็เหมือนแม่เหล็กนั่นแหละ เหมือนกันจะผลักกัน ต่างกันจะดูดกันจึงเป็นที่มาของสารตกค้าง นั่นคือ surfactant ที่ตกค้างบนผิวหน้าเรา
ดังนั้นโฟม หรือ เจลล้างหน้าแบบไม่มีประจุ (ไม่มีฟอง) จึงถูกล้างออกหมดจดได้ง่ายกว่า
(แต่เกี่ยวกันมั้ยกับสาเหตุให้หน้าแก่ อันนี้ไม่แน่ใจฮ่ะ)
(แต่เกี่ยวกันมั้ยกับสาเหตุให้หน้าแก่ อันนี้ไม่แน่ใจฮ่ะ)
อันที่จริงแล้วการมีฟองเยอะก็ใช่ว่าจะล้างได้สะอาดกว่า เพราะนั่นเป็นความเข้าใจไปเองของผู้บริโภคมานานแล้ว และแก้ไม่หายเสียด้วย แล้วก็อย่าวิตกจนขว้างโฟมล้างหน้าแบบมีฟองของคุณเสียละ เพราะถึงแม้จะล้างออกยากหน่อย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะล้างไม่หมดเสียทีเดียว ตอนล้างหน้าก็ล้างน้ำนานๆๆ ก็โอเคแล้ว
สำคัญคือควรจะมีสภาพกรดอ่อนเป็นกลางเหมาะกับสภาพผิว และภูมิอากาศร้อนชื้นของเอเชียอย่างเราๆ
Discussion (7)