ยั่วกันอีกแล้ัวจ้า.. Giorgio Armani Fall 2011 : Jacquard Collection

Fall Collectin 2011 ของอาร์มานี่มีชื่อว่า "Jacquard Collection(แจคคาร์ด คอคเลคชั่น)"



Jecquard Collection ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทคนิคการทอผ้า
แบบยกดอก(jacquard technique) ซึ่งเป็นการทอผ้าแบบที่เน้น
เทคนิคชั้นสูงในการเพิ่มลวดลายเข้าไปในเนื้อผ้าเพื่อทำให้ด้านหน้า
ของผิวผ้ามีลายนูนสูงเกิดเป็นลวดลายที่งดงามมากกว่าการทอผ้า
แบบอื่นๆ



Jacquard Collection ประกอบไปด้วย
- Jacquard Eye Palette : อายแชโดว์พาเลตสี่สีในตลับเดียว มี 2 โทนสี
- Jacquard Face Palette : พาเลตสารพัดประโยชน์ออกแบบมา
เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย สามารถใช้เป็นบลัช ไฮไลท์ หรือ
อายแชโดว์ได้ตามต้องการ
- Blushing Fabric : ปัดแก้มเนื้อเจลกึ่งซิลิโคน มี 3 โทนสี
#1 Shimmering Apricot Pink
#2 Translucent Strawberry
#3 Fresh Baby Pink
- Rouge d'Armani Lipstick : ลิปสติกในตระกูลรูจดาร์มานี่ 4 โทนสีใหม่
#107 Sheer Beig
#108 Sheer Pink Beige
#406 Sheer mauve
#525 Scarlatto Red
- Eyes To Kill Excess Mascara : มาสคาร่าสูตรเพิ่มความยาว
ความหนา และงอนเด้งโดยไม่ต้องดัดขนตา สี # Night Violet


ของแถมที่ได้มา

รองพื้นรุ่น Designer Shaping Cream กับ Cleansing Balm


ภูมิใจนำเสนอ...



Eyes To Kill Excess Mascara #2 Night Violet


แท่งมาสคาร่าสีดำเงา หนัก
จัง


มาสคาร่าสีม่วงเข้มเกือบดำ ขนแปรงยาวจัง


Rouge d'Armani เนื้อลิปหนืดและทึบแสง จึงให้สีสันที่ชัดเจน

ความพิเศษของแพคเกจรุ่นนี้ ก็คือ "แม่เหล็ก" ที่ฝังไว้ตรงบริเวณด้านหลังของ
โลโก้ GA แม่เหล็กจะทำหน้าที่ดูดปลอกลิปและตัวแท่งลิปให้แนบสนินติดกัน
ตลอดเวลา


Rouge d'Armani #108 Sheer Pink Beige สีเบจเนื้ออมทองอ่อน ๆ
เจือส้มพีชน้อย ๆ ประกายชิมเมอร์ส้มและชมพู ชิมเมอร์ปานกลาง


Rouge d'Armani #518 Down Pink สีชมพูหวาน ๆ ใส ๆ น่ารัก แต่ไม่แบ๊ว


มาถึงตัวเด่นของคอลเลคชั่นนี้กัน...



ฝาตลับที่สกรีนโลโก้ GA สีดำเงา Jacquard palette ใช้การฝังแม่เหล็กไว้ที่
ด้านในตัวตลับเพื่อการปิดที่ง่ายดายและแนบสนิทมากกว่าเดิม


เมื่อเปิดฝาออกมาจะพบกับอายแชโดว์สี่โทนสีในหนึ่งตลับ โดยจัดให้สีไฮไลท์
เรียงอยู่แถวบนสุด สี main อีกสองสีวางอยู่แถวที่สองและเพิ่มปริมาณของสองสี
หลักให้มากขึ้น จากนั้นจะเป็นสีไลน์เนอร์หรือสีคอนทัวร์อยู่ที่แถวล่างสุดของตลับ
เนื้ออายแชโดว์เป็นสูตรปรับปรุงใหม่เนื้อแน่น เนียน ละเอียด มีพิกเม้นท์สีที่เข้มข้น
และติดทนมากกว่าเดิม และเป็นสูตร wet-dry formula ถ้าต้องการให้สีที่ได้มี
ความเบาบาง ฟุ้งๆ ให้ลุคใสๆ ก็ใช้แปรงปกติในการแต่งตา แต่ถ้าต้องการให้สีที่
ได้มีความเข้นข้น และติดทนนานมากยิ่งขึ้นก็นำแปรงอายแชโดว์ไปจุ่มน้ำแล้ว
ซับหมาดๆก่อนนำมาทา


Jacquard Eye Palette # 1 Night Vilote




แถว บน ชื่อสี Pearl Grey ==> สีเมทัลลิคเขียวมะกอกอ่อนๆอมเทาอ่อนๆๆๆ(เทาน้อยมากๆ) เนื้ออายแชโดว์มีความแวววาวแบบเมทัลลิคและเพิ่มวิ้งจากประกายชิมเมอร์เข้าไป อีก เหมาะใช้เป็นสีทาทั่วเปลือกตาหรือเป็นสีไฮไลท์

แถวที่สองฝั่ง ซ้าย ชื่อสี Vibrant Green ==> สีเมทัลลิคเขียวมิ้นท์อ่อนๆ(บีเอบอกว่าให้จินตนาการถึงสีของใบสะระแหน่ แต่อ่อนลงมาหน่อย) เนื้ออายแชโดว์มีความแวววาวแบบเมทัลลิคและเพิ่มวิ้งจากประกายชิมเมอร์เข้าไป

แถว ที่สองฝั่งขวา ชื่อสี Deep Jade ==> สีเมทัลลิคฟอเรสต์กรีน(บีเอบอกว่าให้จินตนาการถึงสีของป่าไม้ หรือสีเขียวของเครื่องแบบทหาร) เนื้ออายแชโดว์มีความแวววาวแบบเมทัลลิคและเพิ่มวิ้งจากประกายชิมเมอร์เข้าไป เล็กน้อย สีนี้ผสมชิมเมอร์น้อยกว่าสองสีแรก

แถวล่าง ชื่อสี Night Violet ==> สีม่วงเข้มแบบมะเขือม่วงเนื้อซาติน สีนี้จะไม่มีความแวววาวแบบเมทัลลิคมากเท่าสามสีแรก แต่ก็ไม่ได้เป็นเนื้อแบบแม๊ตด้านๆ มีส่วนผสมของชิมเมอร์อยู่ในปริมาณน้อยที่สุด เหมาะใช้เป็นสีคอนทัวร์หรือปรับใช้เป็นอายไลน์เนอร์




Jacquard Eye Palette # 2 Tobaco




แถว บน ชื่อสี Pearl Grey ==> สีเมทัลลิคขาวเงินอมเทาอ่อนๆๆๆ(เทาน้อยมากๆ) เนื้ออายแชโดว์มีความแวววาวแบบเมทัลลิคและเพิ่มวิ้งจากประกายชิมเมอร์เข้าไป อีก เหมาะใช้เป็นสีทาทั่วเปลือกตาหรือเป็นสีไฮไลท์

แถวที่สองฝั่ง ซ้าย ชื่อสี Blue Gray ==> สีเมทัลลิคเทาอ่อนๆๆ เนื้ออายแชโดว์มีความแวววาวแบบเมทัลลิคและเพิ่มวิ้งจากประกายชิมเมอร์เข้าไป

แถว ที่สองฝั่งขวา ชื่อสี Greige(มาจาก Grey + Beige) ==> สีเมทัลลิคเทาอ่อนๆอมเบจเนื้อ บีเอบอกว่าสีนี้เมื่อมองด้วยตาเปล่าจะเหมือนสีเบจเนื้ออ่อนๆนำแล้วอมเทาน้อย แต่ด้วยส่วนผสมของประกายชิมเมอร์ที่มีความซับซ้อนทำให้เวลาทาออกมาแล้วสีที่ ได้จะป็นสีเทานำอมเบจเนื้ออ่อนๆประกายชิมเมอร์วิ้งๆ เนื้ออายแชโดว์มีความแวววาวแบบเมทัลลิคและเพิ่มวิ้งจากประกายชิมเมอร์เข้าไป

แถว ล่าง ชื่อสี Tobacco ==> สีน้ำตาลอิฐ สีนี้จะไม่มีความแวววาวแบบเมทัลลิคมากเท่าสามสีแรก แต่ก็ไม่ได้เป็นเนื้อแบบแม๊ตด้านๆ มีส่วนผสมของชิมเมอร์อยู่ในปริมาณน้อยที่สุด เหมาะใช้เป็นสีคอนทัวร์หรือปรับใช้เป็นอายไลน์เนอร์ หรือทาผสมกับสีโทนอ่อนอื่นๆอีกสามสีในตลับเพื่อให้เกิดเป็นสีใหม่ขึ้นมา




Jacquard Face Palette




แถวบน ชื่อสี Vibrant Pearl ==> สีขาวมุก เนื้อฟรอสต์กึ่งซาตินประกายชิมเมอร์ละเอียดๆสีขาวมุก เหมาะใช้เป็นสีไฮไลท์

แถว ที่สองฝั่งซ้าย ชื่อสี Beige Pink ==> สีเบจเนื้ออ่อนๆอมชมพูน้อยๆๆ เนื้อซาตินประกายชิมเมอร์น้อยๆ ปริมาณชิมเมอร์น้อยกว่าสีแรกเล็กน้อย สามารถใช้เป็นสีทาทั่วเปลือกตาหรือใช้เป็นสีทำคอนทัวร์บนใบหน้าแทนบรอนเซอร์

แถว ที่สองฝั่งขวา ชื่อสี Camel ==> สีเบจเนื้ออ่อนๆๆๆอมเทานิดๆๆๆ(สีเทาผสมอยู่น้อยมากๆ) เนื้อฟรอสต์กึ่งซาตินประกายชิมเมอร์น้อยกว่าสองสีแรกมากๆ สามารถใช้เป็นสีทาทั่วเปลือกตาหรือใช้เป็นสีไฮไลท์

แถวล่าง ชื่อสี Scarlatto ==> สีแดงสตรอเบอร์รี่ เนื้อซาตินกึ่งแม๊ท สีนี้จะไม่มีความแวววาวมากแบบสามสีแรก แต่ก็ไม่ได้เป็นเนื้อแบบแม๊ตด้านๆ นอกจากจะเป็นสีบลัชที่สวยมากๆแล้วยังสามารถปรับใช้เป็นสีคอนทัวร์ให้เปลือก ตาได้ด้วย



ผสมทุกสี ปัดแล้วได้ประมาณนี้

Discussion (5)

บอกได้คำเดียวว่างามม๊ากๆๆๆ+++
สวยมากเลยค่ะ  แต่หาซื้อยากจัง

เห็นรูปเปิดตัวแล้วร้องได้คำเดียว "โอ้ววว เจิด"


Rouge d'Armani #518 Down Pink  สีหวานน่ารักมากเลยค่ะ ช๊อบบบบ
ต้นเดือนพอดี วันนี้มีช้อปแน่ ^^ 555

 กรี๊ดดดดด อายเชโดว์สวยมากกกก เป็นลม สลบ!