Review - biotherm skin ergetic & Juju aqua moist vit c . must have skincare

 

ฝั่งซ้ายขวดน้ำเงินคือ
Juju aqua moist vit c บอกกันมาว่ามันคือโทนเนอร์ไม่มีแอลกอฮอร์ น้ำใสกิ๊ง ผสมวิตซี
ขวดนี้ตอนแรก ไม่เคยรู้จักค่ะ ไม่เคยคิดจะใช้มาก่อนด้วย เนื่องจากมีฮาดะโลโบะขวดน้ำเงินอยู่แล้ว ช่วยเรื่องมอยซ์
และมันก็เวิค (ถึงแม้จะไม่ขาวหรือกระจ่างตามสูตร 

 ) แต่ จุดหักเหโทนเนอร์ตัวนี้คือ ..
พี่สาวอยู่ญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย แล้วขากลับคือซื้อของไปเยอะ หนักกระเป๋า เลยทิ้งไว้ให้ เราก็เก็บไว้ในตู้เย็นเฉยๆไม่เคยเอามาใช้
และอีกอย่าง เป็นคนขี้เกียจลงโทนเนอร์ค่ะ ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่อีก1ขั้นตอนเท่านั้น ไม่รู้ทำไม
ขี้เกียจตลอด -   -; คิดว่ามันไร้ประโยชน์ ชิชะ ยิ่งพวกโทนเนอร์ต้องใช้สำลีเช็ด โอ๊ย อยากบอกบายๆๆๆ 555
แต่ มันก็ต้องมีบ้างที่จะหยิบโทนเนอร์มาทา ตามอารมณ์ความไม่ีขี้เกียจ ฮ่าๆ
แล้วพอทาครั้งแรก ตื่นมาหน้ามันเด้งๆดึ๋ยๆเลยอะ ตอนแรกคิดว่าคิดไปเอง แต่มันจะดึ๋ยหน่อยๆทุกครั้งที่ใช้
ก็เลยคิดว่า คงเป็นตัวนี้ล่ะ (ตัวของพี่สาวเป็นแพคเกจขวดพลาสติค ไม่ใช่เหมือนขวดนี้)

เนื้อโทนเนอร์จะแบบนี้เลย ใสๆ ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี เหลวปนหนืดหน่อยๆ 
ผลการใช้ต่อเนื่อง >> หน้านุ่ม และกระจ่างใสขึ้นมาจริงๆ เห็นผลชัดมาก ว่ามันกระจ่าง
คือมันไบรท์ขึ้นมา ไม่ได้ขาว แต่มันจะใสๆ หยุยๆ เอ้ะ อะไรเนี่ย ฮ่าๆ
เป็นตัวที่ทำให้เปลี่ยนนิสัยมาทาโทนเนอร์ทุกครั้งที่ลงสกินแคร์เลย 
แต่จริงๆเราแอบชอบของพี่สาวมากกว่า รู้สึกว่ามาครั้งแรก ของพี่สาวมันเห็นได้ชัดมากกว่า 
พอดีอพยพหนีน้ำท่วม เลยต้องซื้อสกินแคร์บางตัวใหม่ เลยได้ฤกษ์ซื้อเจ้านี่มา
ใช้ครั้งแรกยังไม่รู้สึกว่ามันดีเหมือนตอนที่ใช้ของพี่ แต่ใช้ในระยะยาวมันค่อยๆฟื้นผิวเรา ไบรท์จริง
จนตอนนี้ไม่ได้แตะฮาดะโลโบะเลย ฮ่าๆ 
เวลาใช้ตัวนี้เราว่า หยด 3-4 หยดพอ หยดเยอะกว่านี้เรามันเปลือง และได้ผลเหมือน 3-4 หยด -  -;
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันคือโทนเนอร์ที่เรารู้สึกหว่าหมดซักทีเถอะ! เพราะขวดใหญ่เอาการ
เราเลยแอบหยดเยอะๆไปหลายรอบพอควร ฮ่าๆๆๆ 
ตัววนี้เราซื้อที่วิลล่า จำราคาไม่ได้ แต่เหมือนเคยเห็นรีวิวว่าวัตสันก็มี แต่ยังไม่เคยเห็นจ้า 

ส่วนตัวที่ 2 ฝั่งซ้าย biotherm skin ergetic 

หน้าตาแพคเกจมันคือขวดแก้วเขียวเป็นหลอดหยด สกินแคร์ที่ต้องอัดอะไรซักอย่าลงไปตอนเปิดขวด
(เห็นเค้าบอกว่ามันคือบรอคโคลี่) หน้าที่ที่โฆษณาไว้คือช่วยเติมพลังให้ผิวอ่อนล้า 
ตอนแรกที่จะไปซื้อจริงๆคือ biothem aquasource superserum
เพราะมีโทนเนอร์(ที่แช่ในตู้เย็นเฉยๆ =  =) กับครีมแล้ว เลยกะจะเอาเซรั่มให้ครบเซท
แต่บีเอแนะนำตัวนี้มา เลยลองเอาใช้ซะหน่อยละกัน
ที่จริงตอนแรก biothem คือ line ที่เราสนใจแต่แรก เพราะว่า เราแพ้อะไรที่เป็นพวกน้ำแร่
น้ำพุร้อนอะไรแบบนี้ คือเป็นโรคจิต รู้สึกไปเองว่ามันดีสินะ -...- 
คือจะรู้สึกไปเองว่ามันบริสุทธิ์ มีประโยชน์ บลาๆ คือโรคจิต ชอบ 555
และยิ่งมาเจอพี่ออน Onnbaby รีวิวไลน์อควาไว้ เลยได้ฤกษ์สอยไลน์อควา
ซึ่งมันเวิคคคคคคคคคคคคคคคคคคค่ะ เลยเป็นแบรนในดวงใจมาเรื่อยๆ และอีกอย่างราคาก็ไม่แพงมากด้วย

หน้าตาเซรั่มเป็นสีขาวขุ่นๆเนื้อครีมๆแบบนี้นะคะ เป็นสกินแคร์ที่มีวันหมดอายุนะค้า ~
โดยที่เดี๋ยวบีเอจะเขียนวันหมดอายุให้ ที่ผลิตภัณฑ์ นับทันทีที่เปิด และอัดบรอคโคลี่ลง 
และสกินแคร์ตัวนี้ ห้ามห้ามห้ามแช่ตู้เย็น เป็นอันขาดนะคะ ไม่งั้น เสียทันที !
ตอนแรกที่ใช้ >> ใช้ไป 4-5 หยด กลัวใช้ไม่ทันวันหมดอายุ ฮ่าๆๆ พอเช้าวันต่อมา
สิวมันขึ้นง่า yy ตอนนั้นกรีดร้องเลยทีเดียว แต่มันไม่ได้ขึ้นเยอะ มันขึ้นสองเม็ด แต่ยังใจกล้า
ด้วยความงก เลยลองใช้ไปอีกวัน แต่ลดปริมาณมาเป็น 2-3 หยด(ซึ่งก็ทั่วหน้าแล้วหละ) สิวก็ไม่เพิ่ม
แทบจะกรี้ดเลยทีเดียว ไม่แพ้ ฮ่าๆๆ
ผลที่ได้ >> รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น จริงๆ ตอนบีบๆแก้มจะรู้สึกว่านุ่มๆแข็งแรง
ซึ่งมันจะคนละความรู้สึกกับครีมมอยส์ aquasource กระปุกเขียว
ที่มันจะนุ่มแบบนุ่มมมมมมมมมมมมมมมมเลยอะ คือบีบแล้ว ว้า ว้าว นุ่ม เคลิ้มมม ~
นุ่มเป็นโมจิ เลย แต่ตัวนี้มันจะนุ่มแข็งแรง (เอ้ะ จะพูดซ้ำทำไม) ฮ่าๆ
และอีกอย่างคือ กลิ่นค่ะ กลิ่นของขวดเขียวเนี่ย หอมมากกกกกกกกกกกกก!
หอมจริงอะไรจริงไม่อิงนิยาย พอทาๆเสร็จกลิ่มันจะติดมือยังโรคจิตเอามาดมๆ คือชอบมาก
แบรนด์ไบโอเทิมเลยเป็นแบรนด์ที่ชอบอันดับหนึ่งของสกินแคร์ เพราะหน้าเรา
ใช้อะไรไม่่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ แต่ไบโอเทิมนี่ เห็นจริงอะไรจริง และตอบโจทย์เราดีมาก x)

ส่วนครีมอีกตัว biothem aquasource cream ก็เป็นครีมที่ชอบมากกกกกเหมือนกัน
แต่ลืมเอามา tt. ไว้วันหลังจะมารีวิวนะคะ

PS. รีวิวแรก งิ้วๆ เพ้อเยอะ และผิดพลาดอะไร ขอโทษด้วยนะคะ ..