น้ำเกลือมีจุลลินทรีย์/เชื้อราไปอยู่ได้จริงหรือ ??
Princess_P6 เมื่อวานนี้เราดูทีวีรายการหนึ่ง รู้สึกว่าน่าจะเป็นรายการพบหมอรามา (ไม่แน่ใจนะค่ะ)
เป็นรายการเกี่ยวกับโรคและการดูแลประมาณนี้คะ
วันที่เราดูเค้าพูดเกี่ยวกับโรคตาแดง ตาอักเสบกันคะ และก็วิธีการทำความสะอาดดวงตา
เราก็แบบเฮ้ย!! น่าสนใจเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา ฟังไปฟังมาเค้าพูดเรื่อง น้ำเกลือ ที่เราใช้เช็ดๆๆ หน้ากันด้วย
เค้า(หมอสาว) บอกว่าเวลาทำความสะอาดตา ใช้น้ำเกลือหรือน้ำต้มสุกเช็ดได้ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เค้าบอกว่าน้ำเกลือให้ใช้แค่ 3-4 วันแค่นั้น เพราะว่าจะมีจุลลินทรีย์/เชื้อราเข้าไปเจริญได้
เราก็อึ้งเลยคะ แบบเฮ้ยจริงดิ!! อย่าว่าแต่ตัวเราเลย พิธีกรก็อึ้งคะ
เป็นรายการเกี่ยวกับโรคและการดูแลประมาณนี้คะ
วันที่เราดูเค้าพูดเกี่ยวกับโรคตาแดง ตาอักเสบกันคะ และก็วิธีการทำความสะอาดดวงตา
เราก็แบบเฮ้ย!! น่าสนใจเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา ฟังไปฟังมาเค้าพูดเรื่อง น้ำเกลือ ที่เราใช้เช็ดๆๆ หน้ากันด้วย
เค้า(หมอสาว) บอกว่าเวลาทำความสะอาดตา ใช้น้ำเกลือหรือน้ำต้มสุกเช็ดได้ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เค้าบอกว่าน้ำเกลือให้ใช้แค่ 3-4 วันแค่นั้น เพราะว่าจะมีจุลลินทรีย์/เชื้อราเข้าไปเจริญได้
เราก็อึ้งเลยคะ แบบเฮ้ยจริงดิ!! อย่าว่าแต่ตัวเราเลย พิธีกรก็อึ้งคะ
จากนั้นหมอสาวก็อธิบายว่า น้ำเกลือที่ใช้เป็นน้ำเกลือที่ไม่มีสารกันบูด เมื่อเปิดแล้วจะทำให้จุลลินทรีย์สามารถเข้าไปเจริญได้
เราก็แบบคิดในใจว่า เอิ่ม! หมอคะ หนูใช้เช็ดหน้าอยู่ทุกวัน จุลลินทรีย์ไม่ขึ้นเต็มหน้าหนูหรอ ??
แล้ววันนี้เรากะว่าจะโพสต์ให้เพื่อนชาวจีบันกัน ก็นึกขึ้นได้ว่า เราก็เคยเรียนวิชาจุลชีววิทยานิ อาจารย์เคยสอนว่า จุลลินทรีย์จะมีหลายชนิด แล้วก็มีความทนทานตามสภาวะแวดล้อมแตกต่างกันไป เช่น บางชนิดสามารถทนความร้อน หรือน้ำเกลือได้มาก แต่บางชนิดทนไม่ได้เลย ซึ่งเราก็กลับมาคิดเองว่า น้ำเกลือ ยังไงจุลลินทรีย์/เชื้อรา มีน้อยชนิดที่สามารถทนอยู่ในสภาวะเช่นนี้ได้น้อยมาก ยิ่งถ้าเราปิดฝาน้ำเกลือยังไงอากาศก็ต้องมีน้อย เราว่ายิ่งมีความเป็นไปได้น้อยนะ จะมีบางชนิดที่ทนได้จริงๆ
เพื่อนๆ คิดว่าไงกันคะ
Discussion (6)
ปกติน้ำเกลือที่ใช้กันแบบนี้จะเป็น 0.9% NaCl หรือที่เรียกกันว่าเป็น normal saline (นอร์มอล ซาไลน์)ค่ะ จะเป็นเกรดที่เรียกว่า for irrigation ใช้สำหรับภายนอก หมายถึงเช็ดตา ล้างแผล บ้วนปาก หยอดจมุกได้ ซึ่งน้ำเกลืออันนี้ได้ผ่านการ sterile มาแล้วจึงปราศจากเชื้อค่ะ
แต่เมื่อเราเปิดใช้น้ำเกลือแล้ว ก็จะมีโอกาสที่เชื้อโรคจากอากาศจะเข้าไปสัมผัสหรือปนเปื้อนกับน้ำเกลือได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นน้ำเกลือในขนาดใหญ่ที่ใช้ได้หลายครั้งเช่น ขนาด 1 ลิตร เมื่อเรายิ่งเปิด-ปิด หลายครั้งก้มีโอกาสที่่จะปนเปื้อนมากขึ้น และเมื่อยิ่งมีปริมาณเยอะ เราก็คงจะใช้ไม่หมดกันง่ายๆ ใช่ไมีคะ ยิ่งเปิดใช้ไว้นานก็ยิ่งเป็นการเี่สี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของจุลินทรีย์ในน้ำเกลือของเรา
เพราะฉะนั้น เวลาเลือกซื้อน้ำเกลือมาใช้ อยากจะแนะนำให้เลือกซื้อขนาดที่คิดว่าเราจะใช้หมด ไม่ทิ้งไว้นานเกิน
ถ้าสำหรับเช็ดตา ล้างตา จุดที่ค่อนข้างกลัวเรื่องจุลินทรีย์ เชื้อโรค ปนเปื้อน อาจเลือกใช้เป็นขวดเล็ก 100 ml ก้ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องเก็บไว้นาน ใช้แป๊บเดียวก็หมดแล้ว แต่ก็อาจเปลืองตังกว่าใช้เป็นขวดใหญ่ที่ใช้ได้นานกว่าก็ได้อ่ะค่ะ แต่ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับเพื่อนๆ ได้ค่ะ ^^
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ นะคะ
จริงๆ แล้วเราก็คิดเหมือนกันคะ
เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าควรใช้ไม่เกิน 1 เดือน เพราะเราเพิ่งเริ่มใช้ไม่กี่อาทิตย์อ่ะคะ ^^
น้ำเกลือที่เราใช้เช็ดหน้าเช็ดแผลกัน เป็น 0.85% NaCl ซึ่งเป็น isotonic คือรักษาสภาพเซลล์ค่ะ ปกติในห้องปฏิบัคิการเราใช้สำหรับรักษาเซลล์แบคทีเรียหรือสปอร์ของเชื้อไม่ให้แตกค่ะ ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์เองก็สามารถปนเปื้อนในน้ำเกลือได้ค่ะ แต่ไม่สามารถเจริญเพิ่มจำนวนได้ เนื่องจากไม่มีสารอาหารที่เหมาะต่อการเจริญ แต่ก็ไม่ได้ทำให้จุลินทรีย์ตายนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่อเปิดใช้แล้วสามารถใช้ได้ไม่เกิน 1 เดือนเนื่องจากเราไม่สามารถนำน้ำเกลือไปฆ่าเชื้อใหม่ได้เอง และเวลาใช้ก็อย่าให้ปากขวดไปสัมผัสกับสิ่งต่างๆเพื่อป้องกันการปนเปื้อนค่ะ เพราะจุลินทรีย์มีอยู่ทุกที่นะคะ
จริงๆ จุลินทรีย์มีหลายล้านชนิดมากค่ะ ถ้าเราไม่ได้ใช้กับจุดที่บอบบางมากอย่างตาคิดว่าไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะว่าโดยปกติ สปอร์จุลินทรีย์มีทั่วไปในอากาศค่ะ มันสามารถเจริญได้ทุกที่หากมีสภาวะที่เหมาะสม แล้วถ้าเราใช้แล้วนรีบปิดฝาไว้ อากาศจะเข้าได้น้อย โอกาศมีจุลินทรีย์เข้าไปก็มีน้อยค่ะ : )
ใช้ปุ๊ปรีบปิดฝาปั๊ปเลย ป้องกันเชื้อโรค
แนะนำสาวๆว่าใช้ขวดเล็กๆ จะได้หมดไว้ ไปซื้อมาใหม่เอาค่ะ