ตอบคำถามKiRaRi การปัดแก้ม2 เลือดฝาดเข้ามาอ่าน

 ดีใจจังที่มีคนให้ความสนใจระดับหนึ่ง ก่อนอื่นขอบอกนะว่าไม่ถนัดเรื่องทำอะไรในคอม เพราะพึ่งมาจับก็ทนๆเอาหน่อยนะ แต่ว่าสนุกไม หรือแรงไป ยังไม่ชิน แนะนำตัวเคราๆแนะนำตัวเคราๆ ไม่ได้ทำประจำที่ไหน นอกจากรายการทางทีวี ที่เรียกอยู่ แวดล้อมด้วยคนที่มาจากเมืองนอก

แล้ววิจารณ์การทำงานในบ้านเรา ไม่ว่าใครดี หรือไม่แต่เอามนุที่ว่ามีอะไรอีกไมที่ยังไม่เห็นไม่รู้ข้างนอกเป็นอย่างไร สิ่งที่ควรทำคืออะไร ยังไม่ดังแต่รู้ตัวว่าไม่ธรรมดา เพราะทำงานหนักจึงกล้าพูด

เอาละมาว่าเรื่องแก้อีกทีสาวๆ จ้า นี้นะตามหลักทั่วไปปัดตามรูปหน้าต่างๆ ไปหาอ่านได้ตามหนังสือ หรือเวปต่างๆได้ แต่คำแนะนำของดิฉัน  คือการบอกหลักการที่จะไปประยุตใช้ โดยทั่วไปการปัดแก้มก็จะมีสองแบบในตอนนี้ที่นิยม คือแบบมาตรฐาน และ เลือดฝาด

แบบมาตรฐาน ที่เขาบอกว่าให้ปัดตามรูปหน้าต่าง เป็นสามเหลียม เป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้าสำหรับคนรูปหน้ายาว อะไรทำนองนี้ ก็มีให้อ่านมากมาย แต่ทีจะบอกเทคนิคการปัดแก้มแบบนี้ หน้าคุณโหนกแก้สูงแค่ไหน หรือแบนมากน้อยอันนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว  เป็นตัวกำหนดความกว้างของรูปที่นิยามให้ปัดตามรูปหน้า อีกอย่างคือความเข้มของสี คนที่แต่งหน้าได้ดูดี เปรียบได้กับจิตกรที่ไล่น้ำหนักของของภาพแม้นจะมีเพียงสองสีก็สามารถถ่านทอดออกมาเป็นภาพได้ การแต่งหน้าไม่ต่างกัน ทุกสัดส่วนต้องมีการไล่น้ำหนักของสี เช่น คิ้ว หัวจางหางเข้ม เป็นต้น การปัดแก้มก็เช่นเดียวกับ การปัดแก้มลักษณะนี้ จะเป็นการทำกรอบให้ใบหน้าด้วย ดังนั้นจากที่เคยบอกไปว่าให้ปัดจากด้านในหรือตีนผม มาหน้าแก้มนั้นเป็นเพียงเทคนิคที่จะควบคุมความเข้มของสี  ให้สีที่เข้มอยู่ตรงกรอบหน้าเป็นการทำเฉดดิ้งไปในตัว วิธีนี้ช่างที่มีความชำนาญใช้กัน แต่ถ้าถามแล้วที่ปัดกันจากหน้าแก้มไปหาตีนผมนี้ผิดหรือ ตอบไม่ผิด แต่จะให้ดีคือคุณต้องกะน้ำหนักของสีได้  เนื่องจากฝีพู่กันแรกที่แตะลงไป จะเป็นสีที่เข้มเสมอ เมื่อน้ำหนักไม่ดีก็จะทำให้แก้มเป็นจ้ำ และโดยหลักแล้วหน้าแก้มต้องเป็นอ่อนไล่ความเข้มไปที่ตีนผม นี้เป็นหลักง่ายๆ ในการปัดแก้มแบบมาตรฐาน

คราวนี้มาถึง แบบเลือดฝาดที่หลายคนหลงใหล การปัดแก้มแบบนี้เป็นการเรียนแบบธรรมชาติ ไม่ว่าเวลาที่เราออกกำลังกาย หรือ เวลาเราเห็นเด็กก็จะมีเลือดฝาดแบบนี้   ให้คุณไปสังเกตนะว่ามันมีลักษณะการแดงแบบไหนเหมือนที่คุณปัดกันไม ไอ้ที่ว่าบอกว่า การแต่งแก้มแบบนี้มันนานมากแต่สาวไทยยังแต่อยู่   นะดิฉันไม่ได้บอก  เปิดเผยเลย พี่เป็ดอภิชาต ช่างแต่งหน้าชื่อดังพูดค่ะ มีในเทปรายการด้วยแต่ไม่บอกว่ารายการไหน(ไม่มั่ว)  ซึ่งจำได้ว่าตอนนั้นหนังสือหัวนอกเข้ามาใหม่ๆก็เริ่มฮิต กี่ปีแล้วนะ ที่นี้ที่ท่านว่าการแต่งเลือดฝาดจะดูเป็นธรรมชาตินั้น แน่นใจนะว่าตอนปัดดูเป็นธรรมชาติแล้ว ไม่ได้ไปกดและเน้นความแบนของหน้า อย่างในรูป   

(นี้ไม่ควร)  การปัดแก้มแบบเลือดฝาดนี้ตัวดิฉันก็ยังใช้ แต่ไม่บ่อย ซึ่งก็มีหลักของมันเช่นเดียวกัน คือมันก็ต้องมีมิติ มีความเข้มอ่อนของสีจึงจะทำให้หน้าไม่แบนและดูละลื้อ ก่อนอื่นหาสวนที่สูงสุดของโหนกแก้ม ใช้รูดแก้มจุดไปตรงนั้นแล้วก็เกลี่ยให้หายไปกับตีนผม อันนี้สีต้องเท่ากันควรทำในขั้นตอนรองพื้น คุณอาจจะใช้แป้งทาทับอีกทีเพื่อความเนียนสวน แล้วเอาที่ปัดแก้มแบบฝุ่นทับอีกที่ โดยความอ่อนของสีก็ยังอยู่ที่หน้าแก้ม เราจะปัดมาลึกกว่าวิธีแรก แต่ไม่ถึงปีกจมูก การทำวิธีคุณต้องคำนึงถึงสัดสวนใบหน้าให้มาก แต่การใช้วิธีแรกก็สามารถปัดออกมาให้ดูเป็นธรรมชาติได้ จำไว้ว่าหลักของการคือการเลียนแบบธรรมชาติวิธีไหนที่ใช้แล้วดูไม่เป็นธรรมชาติถือว่าไม่ผ่าน

บทสรุปอีกข้อ คือจากปัญหาที่เห็นอีกอย่างคือความเบือของสี นี้เป็นข้อหนึ่ง  ที่ทำให้เราสวยไม่เสร็จ อันนี้เมื่อก่อนดิฉันเคยเป็น อยากแต่งนะแต่ไม่กล้าลงมาก ต้องแยกให้ออกนะระหว่างความเป็นธรรมชาติกับเบือไม่เหมือนกัน เหมือนใบไม้ถ้ามันเป็นสีเทาเมื่อไหร่ก็ดูไม่สวย ครุ่นเครือ จะเป็นไงต่อนะ นี้ยังไม่รวมเรื่องสีให้เข้ากับเสื้อผ้า และเครื่องมืออีก ก็ยังมีอีกนะ แต่เอาไว้วันหลังนะถ้ายังไม่หมดไฟก่อน และจะหาหายไประยะหนึ่งถ้าไม่มีใครรัก  แต่เราก็ยังหวังดีอยากเดินไปไหนก็มีแต่สาวแต่งหน้าดี มีรสนิยมดี โลกเราจะได้สดใสกับความงามที่คู่กับหญิงสาวทุกคน ด้วยรักจากใจ                                             

Discussion (37)

ไปๆ มาๆ ก้อทะเลาะกันสะงั้น เง้อ
เวียนหัวค่ะ
คิดว่าภาษาไทยของตัวเองก็แข็งแรงพอสมควร
แต่อ่านแล้วยอมรับว่า งง ทั้ง กระทู้และผู้ร่วมแจม
ไม่เป็นไรค่ะจะพยายาม
เพราะถึงยังไงก็ผู้ที่เข้า web นี้มีอุดมการณ์เดียวกันที่จะสวยอย่างมีคุณค่า

ไม่มีใครคิดจะมาตำหนิใครหรือว่าใครนะคะ
รอชมฮาวทูค่ะ
โฆษณา blush on ตัวใหม่ของ ZA
อันนั้น เราว่านางแบบ แบบ ดูมีเลือดฝาดดีอ่ะ
เห็นแล้วอยากซื้อขึ้นมาทันที 555+
แต่มันก้ออยู่ที่การปัดอ่าน้อ  >  <"
วันหลังจะพยายามทำให้ได้ ^ ^
เห็นด้วยกับคุณ eve ค่ะ