ผอมแล้ววว จาก 72 เหลือ 60 ในเวลา 1 เดือนนนนน!!!

 เริ่มเลยล่ะกันนะค่ะ เราเป็นสูงมากกๆ 180 ซม. แล้วก็หนักมากๆอีกเช่นกัน 

เราเริ่มลดน้ำหนักตอนยุ ม.5 ก่อนที่ลดเราหนัก 65 ค่ะ (ที่บ้านเลี้ยงดีจัด)

เราลดด้วยการเล่น ฮูลาฮูป ว่างเมื่อไหร่ก็เล่นตลอด ใช้เวลาประมาณเดือนนึง (มั้งนะ)

มันผอมค่ะ ผอมจิงๆๆ แต่ด้วยความที่เราตามใจปากอยากกินอะไรก็กิน กินไปๆๆๆๆๆๆ

แล้วไม่ออกกำลังกายต่อ ช่วงนั้นไม่รุน้ำหนักตัวเองเลย เพราะคิดว่า ชั้นผอมแล้วช่างมันไม่อ้วนหรอก 

นิดหน่อยเอง พอเปิดเทอมปุ๊บ ลองชั่งน้ำหนักดู 72 มันโยโย่ค่ะ เครียดมากกก พยายามลดๆ มันก็ไม่ลดซักที

ช่วงนั้นคิดจะซื้อยาลดความอ้วนของลิโซ่กิน เพราะอ่านๆเจอในจีบันนี่แหละ แต่แถวบ้านไม่มีที่ซื้อ 

เลยไม่ได้ซื้อกิน พอยุ ม.6 เทอม 1 (ตอนนี้เทอม 2) ช่วงสอบปลายเทอม เราก็แอบถามๆเพื่อนว่าเราอ้วนไหม

มันก็บอกว่าอ้วนๆ อ้วนมาก อ้วนกว่าแต่ก่อนเยอะ แค่นั้นแหละ เราเลยมีความฮึด สู้ค่ะ 

เปิดเทอมมา ชั้นต้องผอมให้ดู แล้วช่วงปิดเทอมดูรายการตีสิบ ตอนศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต อ่ะค่ะ

ที่คุณนกตีสิบมา เราก็เลยเข้าไปดูในเว็บดั้งโด่ง ก็อ่านๆๆๆ ไปค่ะ พวกที่เค้ารีวิวศัลยกรรม แต่มีกระทู้นึงวันนั้นอ่าน

ชื่อกระทู้ประมาณ 6 เดือนเปลี่ยนแปลงตัวเอง พี่คนนั้นเค้าดูดีขึ้นมากๆๆๆอ่ะ แต่เราสนใจตรงพี่เค้าลดความอ้วนได้ไง

พี่เค้ากินยาลดความอ้วน พี่เค้ากิน 2 เดือนเองมั้ง ลดเป็นสิบโลเลย เราก็อ่านตรงชื่อยา มันชื่อรีดัก 20 mg แต่เราไปอ่านของคนที่ถาม

เค้าบอกว่ารีดิวซ์ 15 mg เราก็ไปหาค่ะ หาซื้อในเว็บนี่แหละ โหขายกันเยอะมากก  ในกระทู้พี่เค้าบอกราคา 250 บาท เราเปิดในกูเกิ้ล

มีทั้งราคา 90 120 150 บาทเต็มไปหมด ถูกอ่ะ ด้วยความที่เคยซื้อกลูต้าปลอม(ข้างในมันเป็นแป้ง) ในราคาที่ถู๊กก ถูก ซื้อมาเป็นสิบค่ะ

ตอนนั้น เลยเอะใจ ก็เข้าไปอ่านตรงบอร์ดของแต่ละเว็บที่ขาย ที่คนซื้อเค้ามาแชร์ๆกันค่ะ เราเลือกร้านที่ถูกสุดก่อน (ประหยัดไง)

อ่านๆๆๆๆค่ะ แล้วคนที่ซื้อก็บอกว่า เวียนหัว คลื่นไส้ อาการดีดดดๆประมาณนั้น แต่พี่ในกระทู้เค้าบอกมันไม่มีอาการข้างเคียงนี่่น่า

เราก็เลยไม่เอา ไม่ซื้อร้านนี้และ แล้วก็เลยหาๆๆๆๆ เจอร้านนึง เค้าบอกว่าเป็นเจ้าแรกที่ขาย ราคาก็ 250 บาท แล้วก็ไปอ่านตรงบอร์ด

ค่ะ คนที่กินก็ไม่เห็นมีผลข้างเคียงอะไร เราเลยตัดสินใจซื้อกินดู ซื้อมาสี่แผง เค้าบอกให้กินหลังอาหารเช้า  แต่เรารั้น 

กินก่อน วันแรกใจเต้น ตุ๊บๆๆๆ เหมือนยามันเริ่มทำงาน กินข้าวได้น้อยลง เบื่ออาหารเลยค่ะ 

ก็ผอมลงเรื่อยๆๆ  แล้วเหมือนเราไม่ได้รับสารอาหาร เรามีอาการเป็นตะคริว หน้ามืด ไม่มีแรง (เพราะไม่ยอมกินข้าวก่อน)

หนักสุดนะ ไม่แน่ใจเพราะเป็นที่ยาหรือเรา 555 เราลุกเร็วๆ แล้วหน้ามืดเป็นลมเลย เจ็บค่ะ โดนประตูหนีบมือ เพราะพยายามคว้า

หลักเอาไว้ เริ่มกลัวๆหน่อยๆ เรากินข้าวเช้าทุกวันแล้ว ลดค่ะลดเรื่อยๆๆๆๆ แต่เราไม่ออกกำลังกายด้วยแหละ

เนื้อมันเลยย้วยๆๆๆ 555 พี่ที่ขายเค้าบอกว่ายานี้ไม่โยโย่ (จริงหรือเปล่าไม่รุ) พอใจที่น้ำหนักเท่าไหร่ก็หยุด เราตั้งใจว่า ซัก 55
 
กิโล ก็จะไม่กินแล้ว เพราะอย่างว่าค่ะ ขึ้นชื่อว่ายาลดความอ้วนเราว่ามันก็ต้องอันตรายยุแล้วแหละ แต่ที่เรากินเพราะอยากผอมบ้าง

อะไรบ้าง เพราะพยายามมาเยอะแล้วว  แล้วเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกาย เลยต้องพึ่งยาลด

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนที่ลดความอ้วนยุนะค่ะ ทางที่ดีถ้าลดด้วยการออกกำลังกายดีกว่าค่ะ แค่ต้องมีความพยายามนิดนึง

สู้ๆค่ะ



Discussion (22)

อยากจะบอกว่า


การลดความอ้วน ควรลดด้วยการออกกำลังกายนะคะ

กินยาไป มีสิทธิ์ โยโย่ได้สูงมากค่ะ

แล้วพอคิดจะลดอีกครั้งมันลดยากมากกว่าเดิมแล้วนะคะ

ขอเตือนทุกคนไว้ด้วยค่ะ

เพราะตัวเราเอง เคย ลดน้ำหนักมา 4 ครั้งแล้วค่ะ

ครั้งแรก ลดจาก 96 เหลือ 72 ลดโดยการออกกำลังกาย เต้นแอโรบิค +วิ่ง ตามสนามกีฬาหรือสวนสาธารณะค่ะ

คิดว่ามันถูกต้องใช่ไหมคะ ไม่โยโย่แน่นอน

ออกกำลังกายน่ะถูกต้องแล้วค่ะ แต่การกินของเราผิดพลาด เราลด งดอาหารเย็นค่ะ กินแต่ผลไม้ ยำ และน้ำเปล่า นมจืด

เหมือนจะถูกต้องนะคะ มันก็ใช่ ถูกต้องค่ะ แต่เราผิดพลาดตรงที่ เราเข้มงวดเกินไป งดกินของที่ชอบที่อยากมานานประมาณ 4-5 เดือน

มันเลยทำให้เกิดอาการ โยโย่อาหารขึ้นมาค่ะ

จาก 72 ขึ้นมาเป็น 92 เพราะมีแฟนด้วยค่ะ เลยชะล่าใจ ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ไม่ออกกำลังกายต่อ แถมแฟนชวนไปกินอะไรก็กินค่ะ

รู้ตัวว่าอ้วนขึ้นค่ะ แต่แฟนบอกว่าไม่เป็นไร ค่อยๆลดเอาก็ได้ สุดท้ายเลยขึ้นมาจุกอยู่ที่ 92 ค่ะ บวกกับ งานช่วงนั้นเยอะด้วยค่ะ ปีสาม มหาลัยแล้วอะเนอะ

สุดท้ายจะลดโดยออกกำลังกายอีกแต่ก็ขี้เกียจ จึงหันไปพึ่งยาลดความอ้วนแทนค่ะ

สั่งมาจากเว็ปที่คนเ้ข้าชมและรีวิวเยอะมากกกก

เลยซื้อมา ของ Diva Slim เดือนแรกที่กินไป ผลข้างเคียงไม่ค่อยเกิด น้ำหนักลดไป4-5 โลค่ะ กินปรกติ มีลดกินบ้างนิดนึง แต่ไม่ออกกำลังกายเลย

เดือนสองมากินต่อ ลดอีก 2-3 โลเองอะ แถมเหมือนหุ่นจะคงที่ด้วย ด้วยความที่ใจร้อน เลยปรึกษาพี่คนขาย พี่เค้าเลยแนะนำ ลิโซ่ มาค่ะ

โอเค เอามากิน น้ำหนักลงต่ออีก จนผ่านไปสองเดือนกว่า จาก 92 เหลือประมาณ 82

สัดส่วนก็ลดลง แต่โทรมมาก แถมหน้าซีดๆ ไม่ค่อยมีแรง หงุดหงิดง่าย แถมอ่านหนังสือสอบไม่รู้เรื่อง ฮ่าา

สุดท้ายคิดเลิกกินก็ตอนที่วันนั้นพอดีมีรายงานหน้าห้อง แล้วเครียดจัด ทะเลาะกับเพื่อน สุดท้ายเลย ช็อกกลางห้องเรียนเลยค่ะ เพื่อนต้องหามมากลางห้องเรียนแล้ว ช่วยกันเอายาดมมาให้ดม

พอดีขึ้นเลยกลับหอค่ะ แล้วทิ้งเลย ทิ้งยาลดความอ้วนไปเลย

ยอมรับว่ามันเป็นเพราะยาค่ะ เพราะว่า แต่ก่อน ถึงจะอ้วนยังไง เหนื่อยแค่ไหน ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ ไม่เคยเป็นลมเลย ตั้งแต่เกิด

พอหยุดกิน ปรากฎว่า มันกินมากกว่าเดิม น้ำหนักจาก 82 ขึ้นมาเป็น 94 ทนไม่ไหวค่ะ สุดท้ายเลย หันมาออกกำลังกายเหมือนเดิม

พอดีปีสี่ ทำวิจัยอยู่บ้าน ไม่ได้ไปมหาลัย เลยอยู่บ้านออกกำลังกายเองที่บ้าน ไปวิ่งแถวๆบ้าน โหลดเพลงเต้นแอโรบิกต่างๆจากในเว็ปมาใส่มือถือ เปิดเต้นเองที่บ้านเลยค่ะ

ทำไปประมาณ 2-3 เดือน น้ำหนักลดลงจาก 94 เหลือประมาณ 83 84 ค่ะ

ดีใจมากค่ะ คิดเลยว่าชีวิตนี้จะไม่พึ่งยาลดความอ้วนอีกแล้ว

แต่เรานิสัยเสียค่ะ พอน้ำหนักเริ่มลดได้ก็เริ่มได้ใจ พอดี กลับไปมหาลัย ปฐมนิเทศใกล้จบ เอางานวิจัยไปส่ง ไม่ได้อยุ่บ้านออกกำลังกายต่อค่ะ แถมตอนนั้นเพื่อนชวนเล่นเกมด้วย

เลยติดเกมงอมแงม ไม่ออกกำลังกาย กินๆๆๆกับเพื่อนสนุกสนาน จนน้ำหนักขึ้นมาที่ 92 เหมือนเดิม

ทรมานมากค่ะ ท้อแท้ใจสุดๆ แฟนก็เลิกไปมีคนอื่น(ที่อ้วนกว่าเรา) 555 แฟนมันชอบคนอ้วนค่ะ = =

สุดท้าย ไม่ไหวแล้ว ใกล้รับปริญญา เรารับปริญญาเมื่อ กลางธันวา 2554 ที่ผ่านมาค่ะ

ช่วงที่น้ำหนักกลับขึ้นมาเป็น92 อีกรอบนั้นประมาณเดือนสิงหา กันยาเลยค่ะ

สุดท้ายมีพี่ที่เขาออกกำลังกายลดความอ้วนที่ฟิตเนสเขาชวน เราเลยโอเค ตกลงไปสมัครฟิตเนสกับเขาค่ะ

ต้องขอเอ่ยนามว่า คือ ฟิตเนสเฟิส ไม่ได้โฆษณานะคะ จะเป็นที่ไหนก็ได้ แต่แนะนำถ้าใครอยากลดความอ้วนจริงๆจังๆแนะนำให้เข้าฟิตเนสค่ะ ไม่จำเป็นต้องซื้อครอสแพงเป็นหมื่น ออกกำลังกายเองได้ค่ะ เราก็ทำวิธีนี้แหละค่ะ

ครั้งแรกที่เข้าไปตอนต้นสิงหานั้น ไปเจอเทรนเนอร์ แบบบอดี้เฟิส เค้าจะมีเทรนให้ฟรี สามครั้ง เราก็ เอาวะ ไหนๆก็เสียตังมาแล้ว ลองอีกสักตั้ง ต้องไม่ยอมแพ้

ปรากฎว่าไปเจอครูไม่ถูกใจค่ะ ครูผู้หญิง หน้าตาหยิ่งๆ แถมพอเราเล่าให้เค้าฟังว่า เราเลยโยโย่มา 3 ครั้งแล้ว จากอาหาร 1 ครั้ง ยา 1 ครั้ง ขี้เกียจเอง 1 ครั้ง ค่ะ

ครูแกก็แนะนำให้เราซื้อ โปรแกรมค่ะ ขอเรียกสั้นๆว่า PT นะคะ เพราะแกบอกว่า เราจะลดยากแล้ว ซื้อดีกว่า แต่ไม่ซื้อไม่เป็นไรไม่ได้กดดัน เราก็เข้าใจนะคะว่าเขาหวังดีอยู่ (แต่เราไม่ชอบขี้หน้าอะ)

เราก็เลยคิดมากช่วงนั้น ว่าจะซื้อดีไหม ซื้อแบบ 30 ชม.ผ่อนได้ ครูเขาอยู่ระดับ silver 30 ชม. = 18000 กว่าๆ หรือ 20000 นิดๆนี่ละ จำไม่ได้

แต่เราไม่ใช่คนมีเงินอะไรขนาดนั้น งานก็ัยังไม่มีทำ เครียดมากค่ะ อ้วนมากแล้วมันหางานยากจริงๆ ขนาดไปสอบ กพ. ยังไม่มีกระโปรงใส่ไปสอบกับเขา ต้องใส่กางเกงเรียบๆร้อยๆไป จนถูกหักคะแนน (เศร้า)

สุดท้ายไปเจอพี่คนนึง ผู้หญิง คุยกับเขา เขาอยุ่ฟิตเนสมาปีกว่าแล้ว ลดจาก 118 เหลือ 83 ไม่ซื้อ pt ไม่กินยาอะไรเลยค่ะ พี่เขาเลยแนะนำให้เราเล่นเอง เข้าคลาสเอง แค่อาศัยความตั้งใจกับขยันหน่อยแค่นั้นค่ะ

เราเลยโอเค ไม่ซื้อละ ครูผู้หญิงคนนั้นเขาก็ไม่ว่าอะไร ptฟรี ครั้งแรก วันแรก ผ่านไปไม่มีอะไรค่ะ เหนื่อยๆๆๆกลับมานอนบ้านก็หาย อดทนๆๆ

แต่วันที่สองนี่พลาดอย่างแรงเลยค่ะ ครูพาไปเข้าห้องปั่นจักรยาน เราก็ไม่รุ้เรื่องกับเขา เขาปั่นเร็วก็เร็วตาม เขายีนเราก็ยีน สุดท้าย กลับมา กล้ามเนื้อต้นขาฉีกค่ะ ขยับแทบจะไม่ได้ งอขาไม่ได้เลย นอนกลิ้งไปกลิ้งมาได้ก็บุญหนักหนาแล้วค่ะ

ร้องไห้กับแม่เลย ไม่เอาแล้ว ไม่ไปแล้ว ท้อ เจ็บมาก เราเลยโทรไปเลื่อนนัดครูค่ะ ไม่ไปเลย เกือบสองอาทิตย์ น้ำหนักก็ขึ้นลง 91 92 ค่ะ ท้อมาก เจ็บก็เจ็บ ใช้เวลารักษาอาการเกือบสองอาทิตย์ค่ะ ร้องไห้เกือบทุกวัน

ทั้งท้อลดน้ำหนักยากเพราะเคยโยโย่มาบ่อยแล้ว ท้อเพราะเจ็บ เหนื่อย จากการกกำลังกาย ท้อเพราะอ้วน คนอ้วนลำบากมากค่ะ ทำอะไรก็เหนื่อย ง่วงนอนง่ายด้วย แถมหิวบ่อย

จนผ่านไปเกือบเดือน เราเกเรมากค่ะ ไม่ไปฟิตเนสเลย จนแม่ท้อ แม่บ่นว่า เสียตังแล้วทำไมไม่ไป ทำสัญญาไว้แล้วตั้ง 5 เดือน ไม่ไปเลยก็เสียตังฟรี แถมรับปริญญาก็อ้วนฉุ ไม่อายเขาเหรอ

ตอนนั้นเราลังเลค่ะ ไม่รุ้จะไปดีไหม ไม่ไปดี สุดท้ายเกือบต้นกันยา ผ่านไปเกือบเดือนแล้วที่ไม่ไปเหยียบฟิตเนส ครูก็โทรตามๆๆๆ สุดท้ายเลยตัดสินใจไปค่ะ

ครูคนเดิมเห็นเราก็ถามเราอีกว่าสรุปจะซื้อ PT ไหม ไม่งั้นจะลดยากนะ เจ็บตัวแบบนี้แหละ

ตอนแรกๆที่เราเริ่มไป เราไปเต้น คลาสเดียวค่ะ แบบเบาๆ เต้นไม่ค่อยเป็นอะเนอะ เค้าเรียกว่า Body Jam มั้ง เต้นสนุกๆแนววัยรุ่น hiphop ไรงี้ ก็เบาๆ พอเรียกเหงื่อเนอะ คนหนัก 92 อะ ทำไรได้มาก เสร็จแล้วก็ออกมาวิ่งๆๆบนลู่วิ่งได้แค่ประมาณครึ่งชม. ก็กลับไรงี้

ครูเขาเลยแซว (แต่เราคิดว่าดูถูก) ว่า มาแล้วน้องแอมก็ทำแค่นั้น ลดไม่ได้หรอก อย่างมากก็แค่คงที่ อ่ะ

จากนั้นมาเราเลยแค้นค่ะ 5555 รวมความแค้นทั้งหมดในชีวิต ทั้งจากแฟนเก่า ทั้งจากครูที่ดูถูกเรา ทั้งจากสายตาของคนที่เคยเหยียดหยาม ประณามเราด้วยคำพูดต่างๆ

มาไว้ในสมอง แล้วเริ่มลุยเลยค่ะ

เริ่มลดน้ำหนักจริงจังโดยการออกกำลังกาย และ ควบคุมอาหาร (ควบคุม ไม่ใช่ อด นะคะ) เริ่มตั้งแต่ต้นกันยา มาเรื่อยๆ แรกๆจะลงได้น้อยหน่อย เพราะยังเต้น ยังทำอะไรไม่ค่อยเป็น พอเริ่มเข้ากลางตุลา พย. ธค. เริ่มโอเคแล้วค่ะ ปั่นจักรยาน Body Jam Pump Combat ได้หมด

ตั้งแต่ต้นกันยา 92 มาจนถึง กลางธันวา 74 เลยค่ะ ดีใจมากๆๆ

เราเป็นคนโครงร่างใหญ่ค่ะ สูง170 น้ำหนักที่เหมาะสมของเราคือ 63-65

ลดได้โดยแค่ออกกำลังกาย เล่นเวตเพิ่มกล้ามเนื้อและ ควบคุมอาหาร โดยให้กินของที่ชอบบ้าง ไม่ใช่อดเลย (เดี๋ยวจะโยโย่อาหารเหมือนเราตอนแรกค่ะ)

แค่นี้ น้ำหนักก็ลดแล้วค่ะ

จนตอนนี้ปัจจุบัน เหลือ 70 อะค่ะ ช่วงหลังลงยากมากก ยิ่งใกล้ถึงน้ำหนักขีดสุดของเรายิ่งยาก ช่วงนี้ กระชับอย่างเดียวค่ะ น้ำหนักไม่ค่อยลงแล้ว แต่มีคนทักตลอดว่าผอมลงๆๆ คงเป็นเพราะกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมาทำให้ดูกระชับด้วยค่ะ

ครูเทรนเนอร์บอกว่า หากเราได้น้ำหนักที่เราต้องการแล้ว เราควรประพฤติปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นกินอาหาร หรือออกกำลังกายอย่างนั้นแบบเดิมอีก 3 เดือน แล้วหลังจากนั้นประมาณ3เดือนก็ค่อยๆผ่อนลง เบาลงค่ะ จนครบประมาณ 6 เดือนแล้ว รูปร่างจะคงอยู่แบบนั้น แบบที่เราต้องการค่ะ

ลดครั้งแรกเราสามารถทำได้แค่เพียง 3 เดือน จากนั้นมาก็ปล่อยตัว เลยอ้วนขึ้นเหมือนเดิมค่ะ แถมตอนนั้นไม่มีความรุ้เรื่องออกกำลังกายเลยสักนิด พอมาเข้าฟิตเนส ถึงได้รู้จักเทคนิคต่างๆมากมาย

ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ

อยากฝากบอกทุกคนไว้ว่า ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดค่ะ

สุขภาพดี + รูปร่างดีถาวร ไม่ไปไหนหรอก

อย่าอ้างว่าไม่มีเวลาเลยค่ะ วันวันนึง เพียงแค่ ออกกำัลังกายสัก 1 ชม. ก็โอเคแล้วค่ะ

การออกกำลังกายต้องทำให้ได้ 30 นาทีขึ้นไปนะคะ ถ้าแค่ 30 นาที หยุด นั้นแค่การเริ่มต้นค่ะ จะไม่ช่วยอะไรในการลดน้ำหนักของเราเลยเพราะหลังจาก 30 นาทีเป็นต้นไป ร่างกายจะเริ่มเบิร์น เปลี่ยนแปลงไขมันเป็นกล้ามเนื้อแล้วค่ะ

สถาบันลดน้ำหนักต่างๆก็เช่น เข้าไป 60 ออกมา 50 มวลไขมันในร่างกายลดลง ใช่ค่ะ มวลไขมันหายไป รูปร่างผอมลง

แต่สิ่งที่ไม่ได้เลยคือ กล้ามเนื้อค่ะ หากเรากลับไปกินเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมแม้เพียงนิด ก็มีสิทธิ์กลับมาอ้วนได้ค่ะ เสียตังฟรีปล่าวๆ

สิ่งที่สำคัญคือ กล้ามเนื้อจากการออกำลังกายค่ะ ยิ่งมีกล้ามเนื้อมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญดีเท่านั้น ยิ่งเฟิร์มมากเท่านั้น

ขอจบไว้แค่นี้นะคะ อยากเตือนสติทุกท่านที่คิดจะกินยาลดความอ้วนค่ะ มันไม่มีประโยชน์จริงๆ อาจดีช่วงแรก แต่ผลข้างเคียงต่อไป ความแข็งแรงของร่างกายเป็นยังไง เราไม่อาจจะทราบได้นะคะ

ปล. ช่วงที่เราลด เรากิน เนสเล่โกโก้เชป เกือบทุกเช้าค่ะ ก่อนอาหาร วันละซอง มันจะช่วยให้ขับถ่ายดีและอิ่มไวขึ้นค่ะ แต่ตอนนี้เลิกทานมาได้สองเดือนแล้ว ก็ไม่มีผลข้างเคียงอะไรนะคะ

อีกอย่างคือ กิน แอลคาร์นิทีนด้วยค่ะ ของ วิสตร้า อะค่ะ วันละสองเม็ด ก่อนออกกำลังกาย 15 นาที แจ่มแหล่มค่ะ มันช่วยเร่งการเผาผลาญและกระชับกล้ามเนื้อด้วยค่ะ
 อยากกินแต่กลัวอ่าาา แอบอ้วนอยู่ สูง 173 แต่หนักตั้ง 60-61 อยากลดให้ได้ 55 เหมือนกันค่ะ
 @wawarashi เราสั่งในเว็บค่ะ
เหมือนสวรรค์โปรดดดดดดดดดดดด หาซื้อได้ที่ไหนอ่าค่ะ T__T
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ งั้นก้อถั่วต้มละ 555555