รีวิว แป้งลูก เด้งทั้งวันแบบราคาเบาๆ

ยังไม่เบื่อใช่มั้ย ค่ะๆทราบแล้วค่ะว่าไม่เบื่อ
อะไรนะ อยากอ่านรีวิวอีกหรอ อ๋อๆ ได้ค่ะ มาแล้ว
นี่คือการเริ่มต้นที่คิดเองล้วนๆจิตนาการเอาว่า มีคนอยากดู ฮ่าๆ 
ขอเกริ่นก่อนนิดนึงนะคะ อะแฮ่มๆ ลีลาเยอะอ่ะ เริ่มหมั่นไส้ตัวเอง
คือตอนแรกเนี่ยนะคะ เราเป็คนที่ไม่ค่อยพิสวาสเครื่องสำอางจากทางญี่ปุ่นเท่าไหร่เลยค่ะ
และโดยเฉพาะเครื่องสำอางเกาหลี คือจะค่อนข้างไม่อ๊าวววววไม่อาววววว เลยทีเดียวค่ะ
มีปัญหากับบีบีครีม กับสีแป้งของทางนั้น เลยแบบ ไม่เอาดีกว่า เลิกๆ
แล้วแป้งตัวนี้เนี่ย เร่มจากที่ได้เห็นรีวิว ไอแรกๆนี่ก็ยังเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไร
เพราะส่วนตัวเป็นคนใช้แป้งฝุ่น ไม่ชอบทาแป้งผสมรองพื้นเพราะว่ากลัวหนักหน้า
แต่แล้ววันนึงไปเดินฟิวเจอร์กับเพื่อน แล้วเจอกระบะๆหนึ่งสีฟ้าๆ วางเด่นเป็นสง่า
มีนางแบบหน้าแป้นแล้นเป็นพรีเซ็นเตอร์ เลยสนใจลองเข้าไปดู อ่ะ อยู่ในช่วงแนะนำ 
ราคาถูกกว่าราคาปกติ 70 บาท ก็เริ่มคิดและ เออ น่าสนใจว่ะ
เพราะเราก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่ยอมรับแต่โดยดีว่า เป็นชะนีที่แพ้คำว่า sale แบบสุดๆ
จริงๆมันไม่เซลล์หรอก แต่มันเป็นโปรแนะนำและเท่าที่ดูรีวิวมา 
ยังไม่เคยเห็นใครบอกว่าไม่ดี หรือบอกว่ามันหมอง หรือบอกว่ามันเป็นคราบเลย
ก็ เอาวะ แล้วในตอนที่กำลังจะหยิบนั้น ก็คิดว่า เออ เดี๋ยวไปเรียนก่อน ค่อยมาซืื้อ มีเรียนคอมด้วย
เรียนไป หารีวิวไป เออ เจริญ 555 ในตอนที่เรียนเนี่ยคือใจเราเวิ่นเว้ออยู่กับแป้ง
ตัวนี้แบบสุดๆ ไม่รู้ทำไม มันเหมือนถูกชะตา หรือตกหลุมรัก ถวิลหา (เว่อร์)
พอบ่ายเลิกเรียนก็ลากเพื่อนขึ้นรถตู้ไปฟิวเจอร์ทันที พอไปถึงก็รีบเดินไปที่วัตสันก่อนเลยทันที 
และพอไปถึงก็ต้องช็อคกับสิ่งที่เห็นอยู๋ตรงหน้า คือว่า ปะปะปะแป้ง 
แป้งหายปายหนายโหมดดดดดดดด ตอนนั้นเสียสิ ใจล่องลอย น้ำลายเริ่มยืด หางเริ่มตก
อ๊ายยย ไม่ใช่แล้ว คือแป้งันหมดค่ะ หมดกระบะจากที่เห็นเมื่อเช้าเลยอ่ะ รู้สึกเสียใจนิดๆ
ทำไมเมื่อเช้ายังมีเต็มอยู่เลย ตอนนั้นในใจกลัวว่าจะเอามาแนะนำแค่นี้ เลลยลองถามพี่บีเอว่า 
โปรของแป้งตัวนี้หมดเมื่อไหร่จะมาอีกมั้ย คำตอบคือพรุ่งนี้ค่ะ 
วันต่อมารีบไปเลยค่ะ ตอนเช้าเย ประมาณ 11โมง เช้าหรอเนี่ย พอไปเห็นแป้งวางอยู่
ก็น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปิติ มือสั่น แล้วหยิบแป้งขึ้นมาแป้งขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา ไม่ใช่ไรนะ หิว
อ่ะ เกริ่นยาวไปและน่าเบื่อเนาะเล่าอะไรก็ไม่รู้
มาเฉลยดีกว่า แป้งตัวนั้นก็คือ คะ คะ คือ

UV Foundation EX

หรือแป้ง เซซาน ของเรานั่นเอง มันอ่านว่า เซซาน นะคะเด็กๆ
อ่ะ ไหนลองอ่ายตามสิคะ  ซ.เอ เซ ซอ-อา-นอ ซาน อ่านว่า เซซาน
ประสานเสียงพร้อมกันดีมาก เก่งจ้ะเก่งๆ (- -') อะไรเนี่ย
ต้องยืมรูปจากเว็บหน่อยค่ะเพราะว่ารูปที่ถ่ายไว้มันใหญ่เกินไป ลงไม่ได้ 
แป้งที่เราจะมารีวิววันนี้คือตลับสีฟ้าค่ะ จริงๆมันจะมีชมพูด้วย 
แต่ว่าเจอแต่สีฟ้าค่ะเลยสอยมา 
ต้องบอกก่อนว่า จขกท.ผิวแห้ง-ผสม ค่ะ ๆม่พ้นจากนี้มันช่วงทีโซน บ้าง
ผิวสองสี โทนเหลืองค่ะ ใช้้แป้งรุ่นนี้เบอร์ 4 ค่ะ
พอได้แป้งตัวนี้มาก็แกะดู แอบรู้สึกว่าตลับมันก๊องแก๊งไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร ข้ามๆไปละกัน 
ครั้งแรกที่ได้ลองนะคะ ก็เอาฟองน้ำชุบน้ำ บีบฟองน้ำให้หมาด แล้วแตะแปง้มาทาลงบนผิว
เอออออ เฮ้ยยย เนียนเว่อร์ ชอบมากกกกก ทาครั้งแรกก็แบบ รักเลยอ่ะ 
มันเนียนจริงๆ แต่หน้าเราไม่ค่อยมีรอยสิว รอยอะไรให้ปิดค่ะ มีจุดสองจุดเท่านั้นเอง
หน้าสว่างขึ้น รู้สึกชอบทันทีค่ะ แต่ว่า วันนั้นทาตอนอยู่ในห้อง ไม่รู้จะทดสอบประสิทธิภาพของมันยังไง
ตอนนั้นประมาณ ตีสองค่ะ อดใจไม่ไหว ลุกขึ้นมาลองแป้ง(บ้า)
เลย ต้องรอวันรุ่งขึ้นที่จะไปทำงาน  งานของเราเนี่ย เชื่อว่าถ้าแป้งหรือผลิตภัณฑ์ ใดๆที่ทำให้หน้าเราเด้ง
หรือยังเนียนอยู่ได้หลังเลิกงาน มันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆงานอีเว้นท์ค่ะ แดด ลม ฝุ่น ตะลอนๆ จัดนั่นจัดนี่
โอ๊ยยย เยอะค่ะ วันนั้นนะคะ เราทาแค่ครีมกันแดด เรามีกันแดดอยู่สามตัวที่รักมากๆ
สลับกันใช้ไป ก็ใช้กับ กันแดดวันละตัวเลยค่ะ  
เราทาครีมกันแดดด แล้วทาแป้งตัวนี้เลยค่ะ ไม่ได้ลงเบสหรืออะไรก่อนเลยนอกจากกันแดดค่ะ
ทาแล้วหน้าเนียนๆ ไม่บางมากค่ะ สำหรับเรานะ เราคิดว่ามันดูหนาๆนิดหน่อย 
วอกๆในตอนแรก สีแป้งค่อนข้างขาว สำหรับเรามันวอกค่ะ ประมาณสักครู่ก็เซ็ตตัว ก็โอเคค่ะเนียนขึ้น
ธรรมชาติดี ชอบ ดูไม่โบ๊ะ ประการแรกนะคะ ให้ผ่านนนน
ออกจากที่พักประมาณ 6.30น.ค่ะ 
วันั้นมีอะไรต้องทำเยอะาก สิ่งที่เราทำนะคือ ไปหาลูกค้าที่เซ็นทรัลลาดพร้าว 
แล้วนั่งรถเมล์แดงไปค่ะ ตอนแรกจะนั่งรถแอร์แต่ก็คิดว่าเอาวะ ไมไ่ด้ๆ เราต้องทดสอบ
ไอแป้งตัวนี้ ไม่เป็นไรร้อนช่างแม่ง ลมพัดวื่อๆ ผมปลิวสไวจนสางแทบไม่ออก พันกันเหมอนสังกะตัง 
อ๊ะๆ แต่ประเด็นของเราไม่ใช่ที่ ผมจ้ะ  แต่มันอยู่ที่หน้าเรา เราไม่ส่องกระจกเลยยยยย ตั้งแต่ทาออกมา
พอหาลูกค้าเสร็จรู้สึกว่าพอออกจากแอร์ก็ร้อนมากเหงื่อเต็มหน้าย้อยลงมาเป็นเม็ดๆ  รู้สึกหนักหน้านิดๆ
แล้วในตอนนั้นเรามีความรู้สึกอยากจะลบเครืองสำอางบนหน้าเราทิ้งไปให้หมด เพราะรำคาญ
จะเอาแขนเสื้อเช็ดปื้ดๆ ก็ไม่ได้ เลยได้แต่เอาทิชชู่ซํบๆเอา อ่อะ โอเคหาลูกค้าเสร็จ
ไปจัดงานต่อ จัดที่ลานหน้าห้างใหญ่แห่งหนึ่ง วิ่งวุ่นทั้งวัน
ปีนบันได ไปติดลูกโป่ง ปีนไปติดสายไฟ จัดเวที ทำซาวเช็ค เรียกว่า
 ทน ถึก และบึกบึน นี่คือสโลแกนของเราค่ะ หลังจากวุ่นวายแบบสุดๆผ่านไป ช่วงเย็น 
เวลาประมาณบ่ายสองงานเริ่ม ค่ะ ก็เป็นสตาฟ วิ่งหลังเวทีบ้าง หน้างานบ้าง
แล้วแต่เค้าจะใช้ เยี่ยงทาสอ่ะค่ะ ทำทู้กกกกอย่าง ดูแลคิว ดูแลคนร่วมงาน โอ๊ยยย เหนื่อยค่ะ
ขนาดมืดๆแล้วยังเหงื่อออกเลยค่ะ งานเสร็จตอนประมาณ 1 ทุ่มค่ะ เคลียร์ของ 
อะไรเสร็จ ตอนประมาณ สามทุ่ม แล้วไอ้ช็อตเด็ดมันอยู่ตรงนี้ค่ะ
พี่หัวหน้าทีม เค้าเรียกประชุม บอกว่าาให้กลับบ้านใครจะกลับบยังไงแกก็ถามๆ
พี่แกเป็นผู้ชชายนะ พอแยกย้ายประชุมเส็รจ แกก็เรียกเราแล้วพูดว่า
เฮ้ย ไอฟ้า งานยุ่งขนาดนี้ เอ็งแอบไปแต่งหน้าตอนไหน สวยกว่าพี่ๆเค้าแล้ว
อ๊ายยยยยยย เริ่ดอ่ะ พอได้ยินแบบนั้นโห แทบลอย บอกพี่เค้าไปว่า
หนูทาแต่เช้าแล้วพี่ 
หน้าบานเลยค่ะ ฮึ่ยๆ ยิ่งตอนกลับที่พัก เพื่อนที่กลับด้วยกันบอกว่า 
วันนี้ร้อนเนาะ เหงื่อออกเยอะมากกกก ทำไมหน้าแกยังเนียนอยู่อ่ะ 
เลยถามเพื่อนว่ามันยังโอเคใช่ป้ะ เพื่อนบอกว่า โอมากกกกก
โอ๊ยยยยประทับใจอ้ะ  กลับถึงหอเจอเพื่อนถามเพื่อนว่าแป้งยังอยู่ป่าววะ เพื่อนบอกว่า ยังอยู่ 
แต่ไม่เด้งเท่าเมื่อเช้า แต่ยังเนียนอยู่ ดูดีอยู่ อ๊ากกกก เริ่ดอีกแล้วชอบๆๆๆๆๆ กรี๊ดๆๆๆ ส่องกระจกๆๆ
ไม่อยากจะลบออกเล้ยยยยย แต่ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวสิวขึ้น 
วันรุ่งขึ้นค่ะ ยังมีพอมีเวลา ลงบีบีครีมที่ใช้อยู่ก่อนค่ะ แล้วตาใแป้งตัวนี้ คือมันจะดูหนาๆอ่ะ 
ค่อนข้างลอยแต่ก็คิดว่ามันคงเซ็ตตัวแบบวันก่อนก็เลยไม่ได้ใส่ใจ อะไร ไม่เป็นไร
แล้วทำานก็เหมือนเดิมค่ะ คงคอนเซ็ปต์ อีถึก ทำทู้กกกกกกกอย่างเยี่ยงทาส
ตอนนั้นภูมิใจหน้าตัวเองต้องมีคนทักอีกแน่ๆ หึหึ และแล้ว เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น
เสียงของเพื่อนเราเอง
ฟ้า พอได้ยินเราก็หันไปหาเพื่อนอย่างเสนอหน้าเต็มที่ จะชมกุล่ะสิ หึหึ 
เพื่อนบอกว่า 
วันนี้มึงโบ๊ะไรนักหนาวะ หน้าลอย แถมเป็นคราบด้วย 
อ๊าวววว อ๊าววววว ไมทักงี้อ้ะะะะะะเลยถามว่า
มันรุนแรงขนาดนั้นเลยหรอวะ 
เพื่อนบอกว่า เออดิ มึงไปลบออกเหอะเป็นมาตั้งแต่กลางวันและ
เออ ช่างมัน กุจะกลับและค่อยไปล้าง 
เสียเซลฟ์อ้ะะะะะ มันทักแบบนี้ อ่ะไม่เป็นไร อาจเป็ที่ บีบีครีมของเราเอว
ลองเปลี่ยนอันอื่นดู ปรากฏว่าเพื่อนบอกแบบวันก่อนเด๊ะเลยค่ะพอเห็นหา้ตัวเองแล้วช็อคคือมันลอย หนา โบ๊ะ
หน้าขาววววลอย เหมือนจะไปเล่นงิ้ว เป็นคราบ เป็นหย่อมๆ อ่อะ พอและ บรรยายมากมันน่าเกลียด
หมดและะะะะะะะมาดูข้อดี ข้อเสีย สรุปกันดีกว่าค่ะ

ข้อดี 
ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติ 
ติดทนนนาน 
ไม่หนา(ถ้าใช้กับครีมกันแดด)
ปกปิดดีมากค่ะ
ปริมาณเยอะ  อัดแน่น ตกไม่แตก 
กระจกยาวมากๆสะใจ ส่องทีส่องได้ไกลถึงบ้านป้าเหงี่ยม
คุมมันดี มันนิดหน่อย ไม่เยิ้มค่ะ
ข้อเสีย 
ถ้าใช้กับบีบีครีม มันจะหนาและลอย แนะนำว่า ใช้กับกันแดด หรือเบส แล้วลงแป้งตัวนี้จะเวิร์คกว่าค่ะ
แต่บีบีครีมที่เราใช้ ไม่ได้หนาเลยนะ บางมากๆๆๆด้วยซ้ำ ยังเป็นคราบเลยค่ะ
มันหนักหน้า
มันลอย
สีแป้งขาวไปหน่อย ขนาดเบอร์ 4 แล้วนะเนี่ย แถมยังมีเข้ามาแค่นี้ โอย อนาถ 
นึกไม่ออกแล้วอ่ะ ถ้านึกจะมาแก้ทีหลังนะคะ
แพ็คเกจ ก๊องแก๊งค่ะ ไม่ได้น่ารักเล้ยยยยย
สรุปนะคะ
ถ้าเต็ม 10 เอาไป 8.5 ละกัน
เพราะว่ามันหนาอ่ะ ลอย แป้งขาวไป แถมใช้กับบีบีครีมแล้วมันเป็นคราบ
แถมหนักหน้านิดหน่อยตอนเหงื่ออออกเยอะๆ 
แต่ถ้าใช้กับครีมกันแดด หรือเบสเวิร์คมากกกกกกก หลงรักเลยนะ
พอและ ยาวมากกกกกอ่ะ มีรูปอันเดียว พิมพ์รีวิวได้เป็นวรรคเป็นเวรเลย
าวไปมั้ยคะ ถ้ารีวิวมันน่าเบื่อหรือว่ามันยาวไป
บอกได้นะคะ ตรงไหนดี ไม่ดี ติชม ได้ค่ะ รีวิวต่อไปจะได้ออกมา