ขอความคิดเห็นชาวจีบันค่ะ ว่าเราควรจะทำยังไงกับปัญหาเรื่องแฟนดีคะ

5

อยากทราบความคิดเห็นของชาวจีบันค่ะ แอบเครียดเหมือนกัน

คือว่า เราคบกันแฟนเราประมาณ เกือบ 3 ปีแล้ว เราก็เลยตัดสินใจบอกแม่ไปว่าเรากับแฟนอยู่ด้วยกันแล้ว แม่ก็ตกใจและก็เครียดมากเลย แล้วแม่ก็อยากให้หมั้นไว้ก่อน อยากให้ทำตามประเพณี ไม่อยากให้แอบอยู่ด้วยกัน ตอนนี้แฟนเราไปทำงานต่างประเทศพอดี เราก็คุยกับแฟน ว่าแม่รุ้เรื่องแล้ว แล้วแม่ก็เลยอยากให้หมั้นไว้ แฟนเราก็บอกว่าได้ ไม่มีปัญหา พ่อแม่ของฝ่ายชายก็ยินดี ก็กะจะมาหมั้นไว้ตอนแฟนกลับมา เราก็คุยเรื่องสินสอดกับแฟน แฟนบอกว่าเราเรียกมากเกินไปเค้าไม่มีเงิน เราก็บอกแฟนไปว่าแค่ลองคุยกันดูว่าแฟนเราจะสามารถให้ได้เท่าไหร่ เพราะเราก็ไม่อยากให้พ่อแม่เสียหน้า ซึ่งเราก็คุยกับแฟนเราทาง msm (เพราะโทรศัพท์แฟนไม่มีสัญญาณ) ให้เคลียร์ก่อนว่าแฟนเรามีให้เท่าไหร่ ไม่ได้บังคับว่าจะต้องตามที่เราบอกเพราะเราก็กะไม่ถูกหรอกก็เลยมาปรึกษาแฟนก่อน แต่แฟนก็กลับมองว่าเราไปโฟกัสเรื่องเงินกับแฟน แล้วแฟนก็บอกว่าเค้าไม่มีเงิน เค้ายังไม่พร้อมหรอก อาจต้องเลื่อนงานหมั้นไปก่อนก็ได้ (เราก็รู้สถานะทางการเงินเค้าดี) เค้ายังไม่พร้อมเพราะตอนนี้เค้าเครียดเรื่องงานมากเลย เค้าบอกว่าถ้ารักกันก็อย่าเพิ่งมากดดันกันตอนนี้ ตอนนี้มีแต่เรื่องเครียด ๆ อย่ามาบีบเค้าเรื่องนี้ แล้วเค้าก็ไม่ตอบอะไรมาเลย เราก็เลยคิดว่าเรากดดันเค้ามากเกินไปหรือเปล่า เราแค่อยากหมั้นให้จบ  ๆ ไปเพื่อให้พ่อกับแม่สบายใจ แต่พอมาเจอแบบนี้แล้วรู้สึกไม่ดีเลย เพื่อน ๆ ชาวจีบันช่วยแนะนะด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

beauty_beauty

beauty_beauty

มั่นใจทำอะไรก็ดูดีจ้า

FULL PROFILE

Discussion (5)

เข้าใจนะคะ เรื่องงานหมั้น  แต่เราว่าเรื่องเงินให้ผู้ใหญ่เค้าคุยกันเองดีกว่าไหมคะ  ให้พ่อแม่ฝ่ายชายมาคุยกับพ่อแม่ฝ่ายจขกท

   ถ้า จขกท คุยเรื่องเงินกับแฟนเองเรียกเงินเอง มันอาจจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่  แฟนคุณน่าจะคิดได้นะคะว่าควรให้อะไรยังไงเพื่อให้เกียรติฝ่ายหญิง  ถ้ายิ่งสถานะการเงินเค้าไม่ค่อยดีก็อย่าพึ่งไปเร่งรัดเค้าเลยค่ะ  แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยเลยอะไรยังไงก็ได้  ลองๆถามเค้าเรื่องเวลา ว่าอีกประมาณไหนถึงจะมาขอหมั้น 

ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นค่ะ จะลองไปคุยกับแฟนค่ะ

เข้าใจคุณเลยอ่ะ เรื่องสินสอดเป็นหน้าตา ก็ต้องไม่ให้น่าเกลียด แต่ขณะเดียวกันต้องระวังความรู้สึกฝ่ายชายด้วย ความเห็นเรา คุณควรรอจังหวะพูดกะเค้าเวลาอารมณ์ดีๆ อย่าเร่งอย่ากดดัน พอได้จำนวนแล้วจึงไปคุยกะพ่อแม่คุณ ช่วงนี้บอกพ่อแม่ไปตรงๆว่าขอเวลานิดนึง เพราะคุณสองคนยังลำบากเรื่องหาเงินก้อนอยู่ แต่แฟนคุณก็เก็บเงินอยู่ แนะนำว่า อย่าไปหวังว่า เงินสินสอดพ่อแม่คุณจะให้กลับคืน อันนี้ต้องระวังความรู้สึกพ่อแม่คุณด้วยนะ ถ้าเค้าไม่เอ่ยให้คืนมาเอง คุณสองคนก็ต้องคิดว่าเป็นเงินที่ให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเพื่อทดแทนบุณคุณที่ท่านเลี้ยงคุณมาและยกคุณให้แฟนคุณ ระวังอย่าให้หมางใจกันเพราะเรื่องนี้ ใจเย็นๆนะคะ
ใช่ค่ะ  เห็นด้วยกับ คห.1  ส่วนมากสมัยนี้เท่าที่เราเห็นเรียกเท่าไหร่เขาจะคืนให้ผู้ชายประมาณครึ่งของค่าสินสอดทั้งหมดค่ะ  หรือ จขกท.  ลองถามแฟนว่าหาได้เท่าไหร่  ถ้าไม่พอตามที่ต้องการก็ลองคุยกับเขาดีๆว่าเท่านี้ได้ไหม  แล้วจะคืนให้ในส่วนที่เราขอเพิ่ม  (สำหรับเงิน)  ส่วนทองก็แล้วแต่อาจจะยกให้เจ้าสาว  ซึ่งก็ตกเป็นของคุณกันเองทั้งคู่อยู่แล้ว  เราคิดว่าน่าจะคุยกันได้นะคะ  อย่างงานที่เราเคยเห็นมาน่ะค่ะ  พ่อ - แม่ เจ้าสาวจะคืนเงินค่าสินสอดให้เจ้าบ่าวครึ่งหนึ่ง  ส่วนทองก็ยกให้ลูกสาวตัวเอง  ซึ่งเขาก็ตกลงกันไว้แล้ว  เพราะทองนั่นก็ของเจ้าบ่าวบ้าง  ยืมญาติๆมาบ้าง  หลังจากเสร็จพิธีสัก 2 - 3 วันก็คืน
 ใจเย็นๆค่ะ เรื่องหมั้นเรื่องเเต่งงานเอาไว้ทีหลัง รอให้เค้าเคลียปันหาเค้าให้ลงตัวก่อนดีไหมคะ
เวลาวันจัดงานจัดพิธี จะได้แฮบปี้กัน
ส่วนค่าสินสอด เอาเป็นแบบ สมมุต เรียก1ล้าน ก๊ให้เค้าออก1ล้าน วางเป๊นพิธี พอเลิกงาน ก๊เอาจริง
มาบางส่วนเท่าที่เค้าจะให้ได้ ไม่รุ้จะเป็นไรไหม แต่เห็นคนสมัยนี้ทำกันเยอะนะคะ