Hit Pan Project : MUFE Duo Mat VS Maybelline Clear Smooth All in one

ตามหัวข้อเลยละกัน วันนี้นำเสนอแป้งผสมรองพื้นที่ใช้แล้วจนหมดจนเกลี้ยงมาบอกเล่าให้ฟัง นั่นคือ

1. Make Up Forever Duo Mat
2. Maybelline Clear Smooth All in One

เอาที่ตัวแรกก่อนละกันนะ ตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นสำหรับคนหน้ามันมากกกกอย่างเรา ส่วนตัวเองมีปัญหากับการใช้แป้งผสมรองพื้นมาก ๆ ก็คือ การเปลี่ยนสีของแป้งระหว่างวัน เราว่าคนหน้ามันมันจะเจอบ่อย ๆ นะ ตอนเช้าสวยเชียว ซักสองชั่วโมง หน้าเทา หน้าส้ม หน้าคล้ำ กันซะงั้น แต่ตัวนี้สำหรับเรา มันคุมมันได้ในระดับที่ดี และพอน้ำมันที่หน้าออก มันไม่ทำให้แป้งเปลี่ยนสี หรือเพี้ยนไป ซับมันออก ก็ยังสีเหมือนเดิม
แล้วอีกอย่างนึงก็คือมีสีที่ตรงกับสีผิวเราด้วย อันนี้ชอบมาก

อีกปัญหานึงที่เราเจอบ่อย ๆ ก็คือ พอหน้ามันมาก แป้งก็มันจะมีลักษณะลอย หรือเลื่อนหลุดให้เห็นเป็นคราบ อันนี้ก็ว่ากันไม่ได้อ่ะนะ พื้นผิวหน้ามันก็มันจะเป็นอยู่บ่อย ๆ พอซับมันด้วยกระดาษซับมัน หรือทิชชู หนักมือไปแป้งก็เลื่อนหลุดไปได้ ตัวนี้ก็เป็นค่ะ แต่น้อยกว่าหลาย ๆ ตัวที่เราใช้มา ปกติแล้วแป้งที่ใช้มาหลาย ๆ ยี่ห้อเมื่อใช้หน้าจะมันหลังจาก 2 ชมไป แต่ตัวนี้สำหรับเรา ประมาณ 3-4 ชั่วโมงถึงจะเห็นความมันขึ้นมาในบริเวณทีโซนค่ะ

เราใช้มาเป็นตลับที่สองแล้ว แล้วก็คงซื้อต่อแน่นอนเพราะยังไม่เจอตัวที่ใช่มากเท่านี้ค่ะ

ตัวต่อไปที่พูดถึงก็คือ Maybelline Clear Smooth All in One รุ่นปรับปรุงแล้วนั่นเอง
เราเคยใช้รุ่นแรก ซื้อตามคำโฆษณาเลยค่ะ แต่สำหรับเราไม่ได้ให้ผลแบบนั้นเลย ได้แค่เนียนขึ้นในการทาครั้งแรก 
แต่ไม่คุมมัน ไม่ปกปิดใด ๆ แถมแตกกระจุยอีกต่างหาย ก็เลยลาขาดกันไป
พอหลังจากเค้ามีการปรับปรุงในรุ่นใหม่แล้ว เราก็ลองซื้อมาใช้อีกรอบ ปรากฎว่าที่เห็นชัดคือ ไม่แตกง่ายแล้ว
และก็คุมมันเพิ่มขึ้น นวลเนียนนานขึ้น แต่ไม่เท่า MUFE ถ้าหมดก็คงซื้อต่อเหมือนกัน

สิ่งที่เราใช้ตอนนี้ก็คือทา MUFE ในตอนเช้าหลังบำรุง และระหว่างวันปัดทับด้วย Maybelline ผลลัพธ์ที่ได้ น่าพอใจมากค่ะ
เพราะบางทีการทาง MUFE ระหว่างวันเรารู้สึกว่ามันหนาและมากเกินไป Maybelline จะทำให้หน้าที่เรา touch up ไม่หนามากและยังคง การปกปิดของ MUFE ได้เหมือนเดิม ทำให้หน้าเราโอเคทั้งวัน ไม่หมอง ไม่ดูโทรมในตอนเย็นค่ะ

ผลลัพธ์ที่ได้ก็ประมาณนี้จ่ะ

ผลของการใช้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลนะจ๊ะ