ฮาดะล่โบ กับ SK II คุณสมบติเหมือนกันป่ะค่ะ

เคยใช้ทั้งสองค่ะ ผิวผสมแบบเลวร้าย ตรงไหนแห้งก็แห้งเป็นขุย ตรงไหนมันก็มันเยิ้มไหลย้อย

ใช้ Haba Labo แล้ว ขวดสีขาวก็พอใช้ได้ค่ะ แต่ก็ไม่เห็นมีความแตกต่างอะไรนอกจากหน้านุ่มๆ แต่เหมือนจะแพ้ เพราะมีจ้ำสีแดงหลังใช้ตลอด แต่ขวดสีน้ำเงินแพ้แน่ ใช้แล้วแสบและหน้าเป็นจ้ำแดงๆ เลยเลิกใช้ไปเลยค่ะ

ส่วนใช้ SK-II ตอนเริ่มใช้นะ เขาบอกว่าให้ชุบสำลีเช็ดหน้า แต่เราชอบใช้แบบ Haba Labo โดยการใช้ 3 หยอดแล้วตบทั่วใบหน้า สองวันแรกหน้าผากกับแก้มด้านนอกจะลอกเป็นขุยเพิ่มขึ้น ก็เริ่มตกใจ ว่าจะแพ้อีกหรือเปล่านะ แต่คิดว่าให้โอกาสใช้ให้ครบสัปดาห์ก่อน เพราะราคาแพงจัด

หลังจากนั้นแค่สัปดาห์เดียว ก็ทำให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเลยค่ะ กรอบหน้าที่โดนแดดจนคล้ำเป็นกรอบก็คือ ผิวที่ลอกออกตอนแรกค่ะ ผิวเรียบเนียนนุ่มขึ้น หน้าใสขึ้น ใช้มือสัมผัสแล้วรู้สึกเลยค่ะ ผิวกระจ่างขึ้น จุดด่างดำ กระ ไม่ได้หายไปแต่เหมือนจะเนียนไปกับผิวค่ะ รอยแดงไม่มีให้เห็น รูขุมขนไม่หายไปแต่ไม่เพิ่มขึ้น ใบหน้าไม่แห้งเหมือนเดิมแล้ว ความมันเยิ้มในส่วนที่เคยมัน ก็เริ่มชุ่มชื้นและมันน้อยลง สุขภาพผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้เปลี่บนแบบเคมีหรือแบบผิดธรรมชาติ ชอบมาก เอามือจิ้มหน้าตัวเองแล้วผิวเด้งๆ นุ่มๆ โดยรวมพอใจมากค่ะ

อีกอย่างนะ เราซื้อขวดใหญ่สุดมา ราคาสี่พันกว่าบาท แต่ว่าใช้มาเกินสามเดือนแล้ว ใช้ทั้งเช้าเย็นและทุกครั้งที่ล้างหน้านะ แต่เพิ่งจะลดไปแค่คอขวดเองค่ะ ลดลงมาไม่ถึงเซนติเมตรเลย คำนวนได้ว่า สี่พันกว่าบาทต้องใช้ได้เกินปีแน่นอนค่ะ ดังนั้นถ้าใช้กันแบบไม่ประหยัดนะ ปีละขวด 4,800/ 12 = เดือนละ 400 บาท = วันละ 13 บาทกว่าๆ ... ก็ถือว่าไม่ได้แพงเลยนะคะ  

เคยใช้ทั้งสองตัวเลยจ้ะ...อยากจะบอกว่ามันขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและสภาพอากาศที่เราอยู่ด้วยนะจ้ะ...

เราเป็นคนผิวหน้าปกติ ไม่แห้ง ไม่มัน ไม่มีสิว แต่มีกระ แล้วมีรูขุมขนตรงแก้มข้างจมูก...
ตอนอยู่ที่ไทยเราใช้ SKII หลายขวด โดยรวมผิวหน้าดูดีขึ้น เรียบแต่ไม่ขาว แต่รูขุมขนยังคงอยู่ เพราะอากาศเมืองไทยร้อนทำให้รูขุมขนขยาย....
พอย้ายมาอยู่ฮ่องกง เราเปลี่ยนมาใช้ Haba Labo หน้าชุ่มชื่นดี รูขุมขนปิดสนิท...แต่เราคิดว่าเป็นเพราะอากาศที่นี่มันเย็น ทำให้รูขุมขนปิดสนิทน่ะจ่ะ.....

จะบอกว่าลองเลือกใช้สักตัวนึง
SKII ก็แพงหน่อย (ไม่หน่อยอ่ะ แพงมากกก)...

หวังว่าข้อมูลคงจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยนะจ้ะ