[Review & Swatch] เปิดกรุลิป Giorgio Armani
wannee2w23ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะใช้หรอกนะ ซื้อแท่งแรกเพราะต้องการให้ครบตามโปรโมชั่น
หลังจากนั้นก็เริ่มสะสมมาเรื่อย ๆ จาก 1 เป็น 2 3 4 ....
จนตอนนี้มีกี่แท่งก็จำไม่ได้ จึงเอามารวบรวมกันไว้
เผื่อใครที่สนใจจะเทียบสี...ก่อนตัดสินใจซื้อ
หลังจากนั้นก็เริ่มสะสมมาเรื่อย ๆ จาก 1 เป็น 2 3 4 ....
จนตอนนี้มีกี่แท่งก็จำไม่ได้ จึงเอามารวบรวมกันไว้
เผื่อใครที่สนใจจะเทียบสี...ก่อนตัดสินใจซื้อ
Gloss d'armani #64 Coral Champagne
เนื้อ ไม่ข้นเหนียว หรือหนัก เมื่อเกลี่ยกลอสลงบนริมฝีปากแล้ว สีจะกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เรียบเนียน ติดทน (ตามแบบของกลอส) ให้ความชุ่มชื่นกับปากได้อย่างดี
แท่ง มีขนาดใหญ่ ประดับโลโก้ GA ที่ตรงกลางแท่ง ความพิเศษของแพ็คเกจรุ่นใหม่ก็คือ "แม่เหล็ก" ที่ฝังไว้ตรงบริเวณด้านหลังของโลโก้ GA แม่เหล็กนี้จะทำหน้าที่ดูดปลอกลิปและตัวแท่งลิปให้แนบสนินติดกันตลอดเวลา
สูตร long-lasting ที่ติดทนได้นานกว่า 8 ชั่วโมง และมีส่วนผสมของ moisturizer ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก
เมื่อ มองด้วยตาเปล่าสีจากแท่งจะค่อนข้างเข้ม และไม่เห็นประกายชิมเมอร์เลย แต่เมื่อทากับริมฝีปาก จะให้สีอ่อนกว่าสีที่เห็นจากแท่งประมาณหนึ่งสเต็ป
เนื้อ ลิปมีความเป็นครีมมี่นะดับนึง เนื้อจะค่อนข้างลื่น และนุ่ม สีที่ได้ก็จะให้ความรู้สึกเบา ๆ วาว ๆ เงา ๆ เมื่อรอให้ลิปเซ็ตตัวเข้ากับริมฝีปากสักครู่ ความวาว ความเงาจะค่อย ๆ หายไป
Rouge d'armani #100
สีนู๊ดอมชมพูน้อย ๆ ไม่มีประกายชิมเมอร์ เนื้อครีมมี่กว่าดีือื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน
Rouge d'armani #102
สีนู๊ดอมชมพูนิ๊ดดดด ๆ อมพีชน้อย ๆ เงา ๆ แวววาว ไม่มีชิมเมอร์
Rouge d'armani #108 Sheer Pink Beige
สีเบจเนื้ออมทองอ่อน ๆ เจือส้มพีชน้อย ๆ ประกายชิมเมอร์ส้มและชมพู ชิมเมอร์ปานกลาง
Rouge d'armani #400
สีแดงปนชมพูบานเย็น ไม่มีประกายชิมเมอร์ ไม่วาวด้วย แต่ก็ไม่ดูว่าแมตต์จนแห้งนะ
Rouge d'armani #404 Coral Red
สีแดงอมส้มหน่อย ๆ ดูสีในแท่งออกจะแดงจัด ลองทาดูแล้วจะเป็นแดงอมชมพูนิด ๆ ไม่จัด
Rouge d'armani #405 Tibetian Orange
สีส้มที่สวยมาก ๆ เป็นส้มที่สว่างและสด
Rouge d'armani #500
สีชมพูอมม่วง ไม่มีประกายชิมเมอร์ ไม่เงาวาว
Rouge d'armani #518
ลิปสติกสีชมพูอมม่วงน้อย ๆ สีหวาน ๆ ใส ๆ น่ารัก ๆ เหมาะกับทุกๆสีผิวและทุกวัย
ลิปสติก ตระกูล SHEER เนื้อบางเบาและมีความแวววาวสูงแบบกลอส เนื้อสัมผัสคล้าย ๆ กับ Chanel : Rouge Coco Shine และ Dior : Serum De Rouge
Sheer Lipstick #36 Coral Flame
สีชมพูอ่อน ๆ อมส้มแดง
Sheer Lipstick #37 Sand Beige
สีส้มพีชนู๊ด ๆ อมชมพูน้อย ๆ
Shine Lipstick ได้รับการพัฒนาคุณภาพโดยเพิ่ม moisturizer เข้าไปในปริมาณสูงมาก ๆ จึงไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง และพัฒนาให้พิกเม้ทน์สีมีความเข้มข้น สามารถกลบสีเดิมของริมฝีปากได้ค่อนข้างดี
ความพิเศษอีกอย่างของ Shine Lipstick คือ ความแวววาวแบบเมทัลลิคและความมีมิติของเหลือบสี ลิปกลุ่มสีชมพูจะมีส่วนผสมของเหลือบสีส้มหรือเหลือบสีทองเจือเข้ามา, ลิปกลุ่มสีส้มคอรัลจะมีส่วนผสมของเหลือบสีชมพูหรือทองเจือเข้ามา ทำให้สีลิปบนริมฝีปากแลดูมีมิติ เวลามองด้านตรงก็จะให้ความรู้สึกว่าเป็นสีนึง เมื่อเอียงใบหน้าหรือมุมตกกระทบของแสงเปลี่ยนไป สีลิปบนริมฝีปากจะเปลี่ยนไปตามเหลือบสีที่เคลือบทับเม็ดสีอยู่
Shine Lipstick #52 Coral Pink
สีชมพูพาสเทลประกายเหลือบเมทัลลิคชมพูทองอ่อน ๆ
Shine Lipstick #57 Peach Coral
สี ส้มพีชอมชมพูประกายเมทัลลิคทองชมพูเยอะ สีนี้เมื่อแล้วจะเห็นความแตกต่างของสีเมื่อตกกระทบไปตามแสงได้มากที่สุด มองมุมตรงจะเห็นเป็นสีโทนส้มนำ มองจากด้านข้างหรือแสงที่เปลี่ยนไป แลดูเป็นสีชมพูจากประกายเมทัลลิคนำมากกว่าสีส้ม
ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ
Discussion (3)