(ไร้สาระ) เครียดเรื่องที่เรียน ตามใจเรา หรือ ตามใจครอบครับ? :( 2

ต่อจากกระทู้ที่เเล้วนะครับ  กระทู้นี้ขอระบายวคามในใจเยอะหน่อย
อาจจะรก ขอโทดนะครับ
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=140058

ที่เรียนที่แม่ให้เรียนตอนเเรก ธัญะ คลอง6  รอประกาศผลสอบ  ศรีปทุม ม.บรูฯ ม.รังสิต ม.เทคโนฯมหานคร


ผมว่าแม่ผมเยอะไปนะบางที
วันนี้เขาบอกว่า เขาคุยกับเพื่อนที่ริษัทมา เขาบอกว่าจะไม่ให้เรียน ม.รังสิตเเล้ว ไฮโซเกิน
คนที่บริษัทเล่าว่า ไฮโซ เด็กปี2ปี3ก็ขับเก๋งมาเรียน
เเม่ผมก็จะให้ไปสมัคร ที่อื่น


ผมเลยไปเปิดดูสมุดพกผมที่มันเขียนบอกรายได้พ่อเเม่ พ่อมีรายได้ มากกวา่3หมื่น แม่มากกวา่3หมื่น
ผมว่าพอที่จะส่งผมเรียน ม.รังสิต เเละซื้อรถให้ผมขับได้นะ


เเต่เขาก็นะ วันนี้จะให้เรียนที่นั่น พุง่ีน้จะให้เรียนอีกที่
ผมเลยบอกไปว่า ทำไมเเม่ไม่ไขลานให้ผมเดินเลยล่ะ เปนตุ๊กตาไปเลย

เครียดนะผมยอมรับ กดดัน เด็กม.6ทุกคน คงเป็นเเบบนี้
อยากเรียนตามใจตัวเอง เขาก็บ่ม ผมไม่รู้จะทำยังไงดีครับ

ที่ ที่เขาจะให้ไปสมัครอีกคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เทอมนึงก็ สี่หมื่น
ผมก็เลยบอกไป ม.รังสืตเถอะ เขาก็ไม่พูดอะไร


เข้าใจว่าอยากให้ลูกได้ดีเเต่ก็นะ
ผมรียนคอมกราิฟฟิก จะให้ผมไปเรียน พวกบริหารธุรกิจ พวกเทคโนโลยีสารสนเทศ
เขาอยากให้เป้นข้าราชการเเบบเขา ไม่อยากให้มเาปิดร้านป้าย อะไรเเบบนี้

ผมจะทำไงดีครับ ลองคุยกับเเม่เเล้ว เขาก็ืบ่นนะ
ตอนนี้ยอมได้คือยอมเรียนคณะบริหารธุรกิจเเบบที่เขาอยากให้เรียน
เเต่มหาลัย ยังมืด8ด้าน


Discussion (15)

ตอนม.4 เราอยากเรียนสายศิลป์เพราะเรารู้เราเกลียดวิทย์
แต่พ่อก็บังคับให้เรียนวิทย์-คณิตเพราะไม่เชื่อในเรา คิดว่าเราอาจจะเปลี่ยนใจ 
เราก็โอเค เรียนให้นะแต่เกรดมันจะไม่ดี สรุป ตอง1 เคมี ชีวะ ฟิสิกส์
แล้วอะไรที่ตามมา เกรดเราไม่ดี สู้คนอื่นไม่ได้เพราะเราไม่รัก

ตอนนี้สถานการณ์เดียวกันเลย คือไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้
เราติด นิติ ม.บูรพา ภาคพิเศษ สำหรับเราๆว่ามันก้ถือว่าโอเค
เพราะเรารู้ตัวว่าเราไม่เก่ง แต่พอติด พ่อแม่เริ่มค้านต่างๆนาๆ
ค่าเทอมแพง(ซึ่งจริงๆมันก็ไม่แพงมาก เทอมละประมาณ 15000 ภาคปกติ 9000)
ไกลบ้านมั้ง ภาคพิเศษไม่ดีหรอกเรียนไปก็สู้คนอื่นไม่ได้
พรุ่งนี้เป็นวันที่ต้องไปสัมภาษณ์ซึ่งพ่อแม่เราไม่ให้ไป
คะแนนโอเน็ตก็ออกมาแล้วห่วยแตกสิ้นดี เค้าก็ยังไม่ให้ไป
ตอนนี้ เราทำได้แค่เลือกแอดในสิ่งที่คิดว่าจะติด
แม้จะไม่ใช่คณะที่ฝันไว้ก็ตาม(ไม่รู้จะติดหรือเปล่าเลย คะแนนเน่าเิกิน)
สู้ๆนะ บางทีเราร้องไห้จนเหนื่อยแต่ก็คิดว่าชีวิตคงมีอะไรมากกว่านี้อีกเยอะ สู้ๆ

พี่คิดว่าควรจะเรียนในสิ่งที่เรารักนะคะ
เพราะว่าสุดท้ายแล้ว เราก็ต้องทำสิ่งๆนั้นไปตลอดชีวิต
อย่างพี่เองตอนแรกก็เลือกเรียนบัญชี แต่ว่ารู้สึกว่ามันไม่ใช่
เลยเอนท์ใหม่เข้าทันตะ แม้ว่ามันจะเรียนยาก แต่พี่ว่ามันใช่มากกว่าที่ผ่านมา (แม้จะแอบๆเหนื่อยบ่อยๆ)
จริงๆพ่อแม่ไม่อยากให้เรียนพวกสายแพทย์หรอก เพราะว่ามันเหนื่อยมันหนัก แต่พี่อยากเรียนไว้ให้เป็นที่อุ่นใจได้ว่าพี่จะได้ดูแลพวกท่านยามแก่ได้

พี่โชคดีที่พ่อแม่ไม่บังคับ .... จริงๆแล้วทำให้ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดีเลยด้วย แอบคิดว่าบังคับหน่อยก็ดีนะ 555

ที่พูดมาทั้งหมดพี่คิดว่าอยู่ที่ตัวน้องเลยว่าจะเลือกอะไร เพราะการทำอะไรที่เรารักมันจะทำได้ดีกว่าทำสิ่งที่คนอื่นรักนะ

พี่ว่าคุยกับแม่ แม่ต้องเข้าใจแน่ๆจ้า สู้ๆนะน้อง
พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เราเรียนจะสามารถหางานทำได้ค่ะ
เป็นวิธีที่เราใช่ในการบอกให้พ่อแม่เรายอมรับในสิ่งที่เราจะเรียน
เราเป็นเด็กต่างจังหวัด พ่อแม่เป็นข้าราชการทั้งคู่ รอบตัวมีแต่ญาติที่ทำงานราชการ
แต่เราก็ไม่ได้ต่อต้านการทำงานราชการนะค่ะ เพียงแค่เราไม่อยากฝืนเรียนในคณะที่เราไม่ชอบ
พ่อแม่เราก็อยากให้ทำงานราชการค่ะ อยากให้เรียนสายวิทย์การแพทย์ เหตุผลก็คือมันมั่นคง และหางานง่าย แต่เราไม่อยากเรียน เรารู้ตัวมาตั้งนานแล้วค่ะ ว่าไม่เรียนสายนั่นแน่นอน เราจึงพยายามเปลี่ยนทัศนคติของพ่อแม่ใหม่ ให้มองเห็นว่าทุกสายงานจบมาก็มีงานทำนะ
เราไม่เคยเถียงพ่อแม่ในสาขาที่เราอยากเรียนด้วยคำพูดหรือกริยาที่รุนแรงนะค่ะ เพราะว่าอย่างไรก็ตาม คนที่สงเสียเราเรียนคือพ่อแม่นะ เราพยายามอธิบายให้ชัดเจนถึงสายงานที่จบไปแล้วเราสามารถทำได้ (เราเลือกเรียนสื่อสารมวลชน มช. ค่ะ) และโอกาศในการหางาน
พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบนะค่ะ ผู้ใหญ่เขาก็แค่อยากให้เราเรียนในสาขาที่มีงานทำ เขาเป็นห่วงอนาคตของเรานะ ยิ่งเราโต้ตอบด้วยอารมณ์ไปมากเท่าไหร่ พ่อแม่ก็จะไม่ยอมฟังเพราะคิดว่าเราไม่มีเหตุผล
ไม่รู้ว่าวิธีของเราจะได้ผลหรือเปล่า เเต่เราทำวิธีนี้แล้วได้ผลดีมากสำหรับเราค่ะ มีความสุขทั้งสองฝ่าย ผ่ายเราที่ได้เรียนในคณะที่ชอบ ฝ่ายผู้ปกครองที่ไม่ต้องกังวลถึงอนาคตของเรา

ยังไงก็สู้ๆนะค่ะ อนาคตเราเป็นคนกำหนดได้ บางคนจบมาไม่ตรงสายงานแต่ก็ได้ทำงานที่ตัวเองรัก เรียนเรียนเป็นแค่ก้าวเเรกของชีวิต อย่าคิดมากเลยนะค่ะ คุยกับผู้ปกครองดีๆ คุยจากใจ เราคิดว่าเขาเข้าใจสิ่งที่เราอยากสื่อนะ


ทำในสิ่งที่เรารักและคิดว่าถนัดค่ะ ไม่อยากให้เป็นเหมือนน้องเรา เรียนในคณะที่พ่ออยากให้เรียน
แต่ตัวเองไม่ถนัด ผลเสียที่เกิดคือไปไม่รอด ชีวิตเรา เราควรจะเลือกเองและควรทำให้สำเร็จ
ตามที่ตั้งใจด้วย 
สุดท้ายทางเดินชีวิตก็อยู่ที่เรา 

เลือกทางเดินไหน ก็ทำให้มันเต็มที่ละกันนะ พี่จะเตือนว่า ถ้าน้องได้คณะที่น้องชอบแล้ว น้องเรียนไม่ดี พี่ว่าน้องอาจจะโดนกดดันจากทางบ้านแน่นอน ประมาณว่า เห็นมั้ย บอกแล้วให้เข้าคณะนี้ ไม่เชื่อ 

เพราะฉะนั้น ถ้าน้องจะเลือกทางไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น ทางที่น้องชอบ หรือ ทางที่แม่ต้องการ

พยายามทำให้มันเต็มที่เข้าไว้นะ ผลลัพธ์มันจะได้ดีตามมาด้วย

มันไม่เหมือนการเรียนมอปลายนะ ที่จะไม่ทำงาน สอบตก อาจารย์ก็ให้ความช่วยเหลือตลอด

แต่มหาลัย ตนเป็นที่พึ่งของตน เท่านั้น เวลาจะเลือกอะไรก็ตาม คิดดีๆนะ
คณะบริหาร ก็มีหลายสาขา ลองศึกษาดูก่อน แต่ถ้าไม่ชอบจริงๆ ก็ลองเลือกที่เราชอบดูนะ 

แม่อาจจะบ่นในตอนนี้แน่นอน แต่ถ้าน้องประสบความสำเร็จแล้ว คำที่แม่น้องเคยบ่นก็จะเปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจแทน

สู้ๆละกันนะ