Review : ผลิตภัณฑ์ลบรอยดำรอยแดง Etude+Skinfood

ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ลบรอยทั้งคู่นะคะ
ที่เนยต้องใช้ก็เพราะว่าหน้าเนยไม่มีสิวแล้วค่ะ
แต่มีปัญหาจากรอยสิวบริเวณข้างแก้มทั้ง 2 ข้างเยอะค่ะ
เพราะเมื่อก่อนเป็นสิวอุดตันแล้วชอบบีบ แคะ แกะ เค้น ค่ะ
พอเป็นแผลก็จะกลายเป็นรอยดำ รอยแดง เต็มไปหมด
ก็เลยต้องหาตัวช่วยกันหน่อยค่ะ

................................................................................................................................

ตัวแรก... "Etude AC Clinic Red Spot Balm + Whitening" 
แกะกล่องออกมาดูข้างในกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ด้านในมี 3 อย่างค่ะ คือ
1.กระปุกแก้ว (ตัวนี้แหละที่ใช้ลบรอยดำ)
2. ที่แต้มสิวค่ะ (ใช้แต้มเฉพาะจุด บริเวณหัวสิว ตัวนี้เป็นของแถมค่ะ)
3. ช้อนตักครีมค่ะ

สรรพคุณที่ระบุไว้ :
เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ป้องกันการเกิดสิว และลดรอยแดงจากสิว
ด้วยสูตร vitamia A เข้มข้น ช่วยรักษาสิวอักเสบและรอยสิวให้จางลง
ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน

ปริมาณ 20 ml. 
ราคา 3xx-4xx บาท


วิธีใช้ : ก็ตักเนื้อบาล์มด้วยช้อนตักที่เค้าให้มานะคะ

จะเห็นว่าเนื้อบาล์มจะคล้ายๆ ยาหม่อง คือไม่ใช่เนื้อครีมค่ะ
ถ้าไม่ใช้ช้อนตักมันจะไม่ติดนิ้วขึ้นมาเลย
มันรวมตัวกันเป็นก้อนๆ อยู่ในกระปุกค่ะ เหมือนยาหม่องนั่นแหละค่ะ

หลังจากนั้นก็เอามาทาบริเวณรอยดำ รอยแดงจากสิวนะคะ

ความรู้สึกหลังใช้ :
ก่อนอื่นเลยคือกลิ่นค่ะ กลิ่นมันออกแนวสมุนไพร คล้ายตะไคร้หน่อยๆ ค่ะ
ตอนแรกก็ไม่ชิน ใช้ไปใช้มาก็หอมดีค่ะ
ตัวนี้เนยใช้เฉพาะก่อนนอนนะคะ เพราะจากที่เห็นเลยคือพอแต้มแล้วมันจะไม่ซึมค่ะ
ถ้าใช้ตอนกลางวันที่คงแต่งหน้าไม่ได้แน่ๆ 555 นี่เนยทาบางแล้วนะคะ
ก็เลยใช้แต่ตอนก่อนนอนค่ะ มันก็คงไปเลอะหมอนบ้างแหละ
ตื่นเช้ามาแก้มจากที่แต้มเป็นจุดไว้ ก็กลายเป็นวงเบ้อเริ่มเลย (สงสัยจะนอนดิ้น)

กระปุกนี้เนยใช้จนเกือบหมดแล้วตอนนี้ ก็ประมาณ 1-2 เดือน ใช้ได้นานอยู่นะ
สรุปว่า...มันทำให้รอยแดงหายเร็วขึ้นค่ะ หายเร็วเลยแหละ (รอยใหม่ๆ นะ)
ส่วนรอยดำ (ซึ่งส่วนใหญ่เนยจะเป็นรอยดำมากกว่า...น้ำเหลืองไม่ดีค่ะ ) ไม่ค่อยหาย
รอยดำก็เลยยังคงอยู่ และมันใช้ได้เฉพาะกลางคืนด้วย ก็เลยอาจจะเห็นผลช้า (มาก)
ควรจะต้องใช้ เช้า-เย็น น่าจะดีกว่าค่ะ 
และตัวนี้เนยใช้แล้วไม่แพ้นะคะ สิวไม่ขึ้นค่ะ


สรุปว่าสำหรับตัวนี้เนยให้ 7/10 แล้วกันค่ะ
ขอหักตรงที่รอยดำไม่หาย (ก็มันชื่อ Red Spot นี่นา)
และเนื้อมันไม่ซึมเข้าผิวค่ะ (ก็เลยไม่รู้ว่ามันไปทำปฎิกริยากับผิวบ้างรึป่าวค่ะ)
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ

..........................................................................................................................

มาต่อกันที่ตัวที่สอง.. "Skinfood Omija Whitening Cheek Mask Sheet" 
เปิดฝาออกมาเพื่อดูด้านในกัน

เหมือนกล่องทิชชู่เลยเนอะ...
ด้านในจะเป็นแผ่นมาส์กแก้มจำนวน 10 แผ่นค่ะ ใส่มาในซองพลาสติกแบบนี้

สรรพคุณที่ระบุไว้ :
เป็นแผ่นมาส์กแก้ม ใช้ผสมกับโทนเนอร์แล้วมาส์กทิ้งไว้ 10 นาที
ให้เนื้อโทนเนอร์ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่

ปริมาณ : 10 แผ่น 
ราคา : 60-100 บาท

วิธีใช้ :
ตัวนี้เค้าบอกว่าใช้ได้กับโทนเนอร์ทุกชนิดของสกินฟู้ดนะคะ
เนยเลยใช้กับโทนเนอร์มะเขือเทศค่ะ
ก็เทโทนเนอร์ลงบนแผ่นมาส์กให้ชุ่ม
จากนั้นก็เอามาแปะที่แก้มทั้ง 2 ข้างนะคะ
รอให้ครบ 10 นาที แล้วเอาออกค่ะ
เนยไม่ไปล้างหน้านะคะ ก็ทาครีมบำรุงตัวอื่นต่อเลยค่ะ

อร๊าย...แอบอายหน้าสด!! ทำใจดูหน่อยละกันนะคะ..หน้าเปลือยมากกกกกก
เนยเทโทนเนอร์จนชุ่มเลย แล้วก็รอให้ครบเวลา

ความรู้สึกหลังใช้ :
ตัวนี้มี 10 แผ่น ก็เลยใช้ได้ 5 วันเองค่ะ น้อยมากๆ
เนยอยากรู้ผลชัดเจนก็เลยใช้ติดต่อกันเลย 5 วันติด
สรุปว่ามันเหมือนเดิมค่ะ...ก็แค่ 5 วันเองอ่ะ..มันก็ไม่น่าจะเกิดผลอะไรอยู่แล้วเนอะ
เอาเป็นว่ามาส์กแก้มขำๆ เพราะว่าตัวนี้ได้มาฟรีค่ะ เป็นของแถมอ่ะ
ก็เลยไม่ซีเรียสอะไร แต่ถ้าให้ซื้อใช้ก็คงไม่ซื้อค่ะ....

สรุปว่าตัวนี้เนยให้ 5/10 แล้วกันนะคะ
มันไม่เห็นผลอะไรเลย เหมือนเดิม!!
ใช้ได้แค่ 5 ครั้งเองด้วย ถ้ามีมากกว่านี้ก็อาจจะเห็นผลอยู่

จบแล้วคร้า...หวังว่าเพื่อนๆ คงได้ประโยชน์บ้างนะคะไม่มากก็น้อย
วันหลังจะเอาของเล่นที่มีอยู่ทยอยเอาออกมารีวิวเรื่อยๆ ค่ะ
รอติดตามด้วยนะคะ
วันนี้ลาไปก่อน...บ๊าย...บายยยยยยยยยยย
^_____________________^