ว่าด้วยเรื่องของมาม่า..

มีความสงสัยว่าทำไมเวลาต้มมาม่าแล้วจึงมีฟองออกมา..
ยิ่งสังเกตเวลาอุ่นในไมโครเวปยิ่งเห็นฟองขาวๆชัดเจนขึ้น..
โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบเส้นมาม่าอ่ะคะ ชอบกินแบบน้ำชูรส แหะๆ..
เอาเป็นว่าวันนี้เอาความรู้เรื่องมาม่ามาฝากก็แล้วกันค่ะ..

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ว่า

จากการสำรวจปริมาณโซเดียมอันตรายที่ซ่อนในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีการเก็บตัวอย่าง จำนวน 32 ตัวอย่าง มาทดสอบโดยสถาบันอาหาร เพื่อหาปริมาณโซเดียมที่มีอยู่ในเครื่องปรุงรส

พบว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่มีปริมาณโซเดียม

ร้อยละ 50-100 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน และมีบางยี่ห้อที่ทำขนาดใหญ่กว่าปกติ ที่เรียกว่าบิ๊กแพ็ค พบว่ามีโซเดียมสูงถึงร้อยละ 112 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคแต่ละวัน





บรรณาธิการวารสารฉลาดซื้อยังกล่าวด้วยว่า

การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่า 1 ซองต่อวัน โดยใช้เครื่องปรุงทั้งซอง จะทำให้ผู้บริโภคได้รับโซเดียมมากเกินไป เพราะแต่ละวันจะได้รับปริมาณโซเดียมจากเครื่องปรุงต่างๆ เช่น ซีอิ๊ว น้ำปลา ซอส เกลือ สูงอยู่แล้ว ที่ผ่านมา เคยมีการวิจัยถึงปริมาณการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยในปี 2548 พบว่า มีมากถึง 120,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 9,500 ล้านบาท

หากจะเทียบกับซองบะหมี่มาตรฐานที่บรรจุซองละ 60 กรัม หมายความว่า

คนไทยบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถึง 2,000 ล้านซองต่อปี โดยปัจจัยสนับสนุนให้คนไทยบริโภคบะหมี่สำเร็จรูปจำนวนมาก น่าจะเป็นเพราะสินค้านี้มีหลายรส หลายระดับราคาให้เลือก ปรุงได้สะดวกรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังเป็นอาหารแก้ขัดในยามขัดสน และเป็นอาหารสุดนิยมที่คนไทยซื้อเพื่อบริโภค รวมถึงบริจาคในยามเกิดภัยพิบัติด้วย

รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล หัวหน้าฝ่ายมนุษย์ โภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า

ปริมาณโซเดียมที่แนะนำไว้ในบัญชีสารอาหาร ที่ควรบริโภคในแต่ละวันสำหรับคนไทย อยู่ที่ 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ขณะนี้การบริโภคเกินกว่ากำหนด และถือเป็นความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งทำให้ เป็นโรคหัวใจ

เพราะฉะนั้น จึงมีการทบทวนปริมาณโซเดียมที่ควรบริโภคต่อวัน

โดยปริมาณใหม่ที่แนะนำให้บริโภคจะอยู่ที่ ผู้ชายควรบริโภค 475- 1,475 มิลลิกรัม ผู้หญิงควรอยู่ที่ 400-1,200 มิลลิกรัม ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำลังทบทวนเพื่อปรับปรุงมาตรฐานการใส่เครื่องปรุงรสในผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ

หัวหน้าฝ่ายมนุษย์โภชนาการฯ กล่าวต่อว่า

หากร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป จะมีผลต่อระบบการทำงานของไต ไตต้องทำงานหนักเพื่อที่จะขับโซเดียมส่วนเกินออกไป หรือคนที่เป็นโรคไตอยู่แล้ว ก็จะเกิดปัญหาการคั่งค้างของโซเดียมอยู่ในร่างกาย

ทำให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูง

ทางที่ดีไม่ควรกินบะหมี่สำเร็จรูปเกินวันละ 1 ซอง และควรต้มให้สุก อย่ารับประทานแบบเปล่า เพราะบะหมี่จะไปพองตัวในกระเพาะทำให้เกิดอาการจุกแน่นได้

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ว่า

จากการสำรวจปริมาณโซเดียมอันตรายที่ซ่อนในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีการเก็บตัวอย่าง จำนวน 32 ตัวอย่าง มาทดสอบโดยสถาบันอาหาร เพื่อหาปริมาณโซเดียมที่มีอยู่ในเครื่องปรุงรส

พบว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่มีปริมาณโซเดียม

ร้อยละ 50-100 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน และมีบางยี่ห้อที่ทำขนาดใหญ่กว่าปกติ ที่เรียกว่าบิ๊กแพ็ค พบว่ามีโซเดียมสูงถึงร้อยละ 112 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคแต่ละวัน

บรรณาธิการวารสารฉลาดซื้อยังกล่าวด้วยว่า

การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่า 1 ซองต่อวัน โดยใช้เครื่องปรุงทั้งซอง จะทำให้ผู้บริโภคได้รับโซเดียมมากเกินไป เพราะแต่ละวันจะได้รับปริมาณโซเดียมจากเครื่องปรุงต่างๆ เช่น ซีอิ๊ว น้ำปลา ซอส เกลือ สูงอยู่แล้ว ที่ผ่านมา เคยมีการวิจัยถึงปริมาณการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยในปี 2548 พบว่า มีมากถึง 120,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 9,500 ล้านบาท

หากจะเทียบกับซองบะหมี่มาตรฐานที่บรรจุซองละ 60 กรัม หมายความว่า

คนไทยบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถึง 2,000 ล้านซองต่อปี โดยปัจจัยสนับสนุนให้คนไทยบริโภคบะหมี่สำเร็จรูปจำนวนมาก น่าจะเป็นเพราะสินค้านี้มีหลายรส หลายระดับราคาให้เลือก ปรุงได้สะดวกรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังเป็นอาหารแก้ขัดในยามขัดสน และเป็นอาหารสุดนิยมที่คนไทยซื้อเพื่อบริโภค รวมถึงบริจาคในยามเกิดภัยพิบัติด้วย

รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล หัวหน้าฝ่ายมนุษย์ โภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า

ปริมาณโซเดียมที่แนะนำไว้ในบัญชีสารอาหาร ที่ควรบริโภคในแต่ละวันสำหรับคนไทย อยู่ที่ 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ขณะนี้การบริโภคเกินกว่ากำหนด และถือเป็นความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งทำให้ เป็นโรคหัวใจ

เพราะฉะนั้น จึงมีการทบทวนปริมาณโซเดียมที่ควรบริโภคต่อวัน

โดยปริมาณใหม่ที่แนะนำให้บริโภคจะอยู่ที่ ผู้ชายควรบริโภค 475- 1,475 มิลลิกรัม ผู้หญิงควรอยู่ที่ 400-1,200 มิลลิกรัม ขณ
โดย: [0 3] ( IP )
แหล่งข้อมูล: http://www.pantown.com/board.php?id=18140&area=3&name=board3&topic=19&action=view


สรุปก็ยังไม่รู่อยู่ดีว่าฟองมาม่ามันมาจากอะไร..
กินแล้วอันตรายไหม??
ใครรู้บอกเล่าให้ฟังก็ดีค่ะ อิอิ..

Discussion (15)

เอาเป็นว่าเวลากินก็ลวกน้ำทิ้งซักก่อนแล้วค่อยต้มใหม่ เป็นการปลอดภัยไว้ก่อน เพราะพี่ชายเรากินมาม่ากับน้ำอัดลมเป็นประจำ ตอนนี้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งลำไส้ อายุเพียง22ปี อันนี้เอามาเตือนกันด้วยความหวังดี....จะได้ไม่ต้องมีใครมานั่งเสียใจภายหลัง สารของเส้นมาม่าที่กินไปอาจจะไม่มีผลในตอนนี้ แต่ถ้ากินเข้าไปมากๆ แล้วมันจะสะสมไปเรื่อยๆ ก็ลองคิดดูนะครับว่าจะเป็นอย่างไร
เคยได้ยินอาจารย์บอกว่า
เค้าจะเคลือเส้นมาม่าด้วยแว๊กซ์ล่ะ
เวลาจะกิน ต้องต้มน้ำทิ้งก่อน 1 ครั้ง

แต่เราก็ลืมทุกที
ถ้ามันอันตรายจิง ก็คงตายไปนานแล้ว
กินมาทั้งชีวิตแล้วนี่
555+
ว้าวผู้รู้จริง ขอบคุณค่ะ เราก้อนึกว่าฟองอันตราย..อิอิ
คิดว่า ขั้นตอนการทำให้เป็นบะหมี่แห้ง คงเกิดการหดตัวของแป้ง และมีช่องว่างเกิดขึ้นภายในเส้น
พอเราเติมน้ำตอนจะทาน น้ำเลยเข้าไปแทนที่ช่องว่างนั้น เกิดฟองอย่างที่เห็นอ่ะ คร้า....

เพิ่ม...ที่ตอนเวฟ มีฟองมาก
น่าจะมีการวิ่งชนกันของโมเลกุลน้ำสูงเพราะเป็นคลื่นอะไรเนี้ยจำไม่ได้
เลยมีการชนของโมเลกุลสูงกว่าน้ำร้อนทั่วไป อ่ะน้า...
ขอบคุณที่เอามาเตือนนะคะ
เพื่อนของน้องคนนึงเสียชีวิตเพราะกินมาม่าคัพ
แว๊กซ์ที่เคลือบอยู่มันไปเคลือบผนังกระเพาะอ่ะ
น่ากลัวจัง