แค่อยากระบาย ว่าสับสน

สวัสดีค่ะ
วันนี้ขอมาระบาย แบบงี่เง่าๆหน่อยนะคะ

เริ่มจาก เราเพิ่งจบตรีมา จะรับปริญญาอาทิตย์หน้าแล้วค่ะ ตอนแรกวางแผนซะดิบดีว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เดินเรื่องมาจนได้ไป
แต่พอไปบอกพ่อ พ่อเรากลับไม่อยากให้ไปซะอย่างงั้น เพราะว่าที่บ้านมีอาม่าค่ะ อาม่าเป็นห่วงมากๆๆๆๆ เค้าแก่แล้วอายุ 75 กว่าๆ

ตลอดเวลาปีกว่ามานี่เราเป็นคนดูแลอาม่าเกือบจะตลอดเวลา ถึงขนาดที่ว่าตกเย็นต้องอยู่ด้วยตลอด เสาร์-อาทิตย์ไม่ได้ไปไหนเลย ถ้าจะไปต้องหาข้ออ้างมาอ้างค่ะไม่งั้นโดนด่า ไม่ได้ไปเที่ยวกะแฟนกะเพื่อนอย่างเปิดเผยเลยค่ะ ต้องอ้างว่าไปเรียน (จนตอนนี้เรียนจบ เลยไม่มีอะไรให้อ้าง)

นอกเรื่องไปเยอะ 55 กลับมาที่เรื่องเรียนต่อค่ะ เราเลือกเรียนต่อโทก็เพื่อไปเอาปริญญากลับมาฝากแม่ อีกส่วนคือไปหาความเป็นตัวของตัวเองค่ะ แล้วยังคิดว่าเผลอๆจะได้ความเป็นผู้ใหญ่ที่มากขึ้นกลับมาด้วย เพราะตอนนี้บอกตรงๆว่าที่บ้านมีอันจะกิน พ่อมีกิจการส่วนตัวเป็นธุรกิจครอบครัว เรามีพี่ร้องทั้งหมด 5 คน เราเป็นคนกลางและเป็นผู้หญิงคนเดียวค่ะ เลยถูกเลี้ยงแบบค่อนข้างประคบประหงมมาก เลยอยากไปหาประสบการณ์ อยากได้อิสระ อยากโตขึ้น แต่พ่อไม่ให้ไปค่ะ แล้วทีนี่เราคิดว่าจะทำงานแต่ก็ไม่อยากทำงานในบบ้านค่ะ อยากไปหางานทำข้างนอก เรียนรู้ชีวิตจริงๆ อยากได้อิสระแบบปกติสุขเหมือนคนอื่น ไม่อยากทำงานเป็นผู้บริหารทั้งๆที่เราไม่รู้อะไรเลย (แล้วเราก็ไม่ชอบงานที่บ้านด้วย) แต่ความคิดส่วนนี้ก็ขัดกับที่บ้านที่อยากให้ช่วยกิจการครอบครัวอีก

เราก็รุ้สึกเห็นใจที่พ่อแม่ อาม่าและญาติอุตส่าเลี้ยงเรามา ดูเเลเราอย่างดี เลยกะว่าจะฝืนทำงานที่บ้านเพื่อให้เค้าสบายใจแต่ข้างในใจมันดันคิดเข้าข้างตัวเองว่าอยากมีชีวิตที่ตัวเองเลือกบ้าง ตอนนี้จิตใจกับการกระทำมันสวนทางกันค่ะ สับสนมากๆ ไม่รู้ว่าจะหาทางไหนที่ทำให้ลงตัวทั้งสองฝ่าย เราเองก็ไม่อยากทำให้ที่บ้านผิดหวัง แต่ก็ไม่อยากเดินในทางที่เราไม่ต้องการ

เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆว่าคิดว่าเรางี่เง่ามั้ยคะ
ตอนนี้อยู่ในช่วงเกลียดตัวเองสุดๆเลยค่ะ

Discussion (16)

เราก็เหมือนกันค่ะ นี่ขนาดเราลูกคนโตนะค่ะ อายุ22ละ พ่อกับแม่เราห๊วงห่วง เหอๆๆๆ ทำใจๆ ลองทำที่บ้านดูก่อน ถ้าไม่ชอบก็ต่อยๆขอลองไปทำที่อื่นดูอะค่ะ บอกเขาว่าอยากลองไปทำที่อื่นดูว่าเราจะทำได้มั๊ย เราเองบางทีก็คิดอะไรงี่เง่าๆเหมือนกันว่าอยากจะได้งานที่อื่นทำ อยากมีอิสระ ก็คนมันไม่เคยมีอะนะ ต้องเข้าใจ แต่ก็ทำๆใจอะจ้ะ - - ช่วยไรคุณไม่ค่อยได้เลยเน้ออ อิอิ เราว่าคุณไมได้งี่เง่าหรอกค่ะ เราเข้าใจ คนเราบางทีก็อยากทำในสิ่งที่เราชอบ จะมามั่วทำตามคนอื่นก็เปนไปไมได้
ชีวิตคนเราบ้างครั้งมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังและอยากได้เสมอไปหรอกจ๊ะ แต่ก็ต้องมีพยายาม ลองหาทางแก้ปัญหา และอยู่ร่วมกันมัน ลองถามพ่อซิจ๊ะ ว่าพ่อกับอาม่าเป็นห่วงเรื่องอะไร เพราะเค้าเห็นว่าเราทำอะไรไม่เป็นรึเปล่าเค้าถึงเป็นห่วง กลัวเราถูกหลอก กลัวเราเสียคน.. เรามีเพื่อนไปเรียนด้วยมั้ย มีคนที่รู้จักอยู่ที่นั่นมั้ย จะไปเรียนรัฐไหน รัฐนั้นอันตรายมั้ย เราพักที่ไหน อยู่หอกับใคร เดินทางไปเรียนยังไง..
จากประสบการณ์ของพี่เอง(อายุ36) พี่เป็นลูกสาวคนเดียวพอเรียนจบไม่ยอมทำกิจการที่บ้าน ไปทำบริษัทส่งออกสารเคมี ได้เงินเดือน12000บาท สมัยนั้นก็เยอะอยู่  แต่กลับบ้านดึก พ่อต้องซื้อมือถือให้สมัยนั้นราคา 70000บาท แล้วพ่อและแม่พี่ตกเย็นมานั่งรอริมฟุตบาทหน้าปากซอยทุกวัน พี่ทำงานได้ 6 เดือนต้องลาออกเลย เพราะสงสารพ่อแม่ อยากให้น้องเอาไปคิดดูดีๆ
พี่เคยมีประสบการณ์คล้ายๆกับของน้องค่ะ ทุกครั้งที่พี่ไม่เข้าใจยาย พ่อมักจะบอกพี่เสมอว่า "ลองคิดดูดีๆว่าเค้าจะอยู่กับเราได้อีกซักกี่ปี" เวลาที่เหลืออยู่ของคนแก่ไม่เยอะเท่าเราแล้วน่ะค่ะ พี่อยากให้น้องค่อยๆคุยกับพ่อแม่ ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่ยังงัยก็ต้องเข้าใจลูกอยู่แล้วค่ะ พยายามหาทางออกที่ตัวน้องเองก็สบายใจด้วยนะคะ เอาใจช่วยค่ะ

พบกันครึ่งทางดีก่ามั้ยคะ
ลองคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของคุณดู จริงๆ พ่อแม่ไม่อยากให้ลูกไปอยู่ไหนไกลๆ หรอกค่ะ โดยเฉพาะลูกสาว อาจจะหางานทำข้างนอก หรือเรียนต่อที่นี่ก่อได้ แนะนำให้ทำงานก่อนค่ะ จะได้รู้จักคนอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนกับตอนเรียนแน่นอน อาจจะได้แง่คิด มุมมองใหม่ๆ จากตรงนี้นะคะ แล้วค่อยตัดสินใจเรื่องเรียนใหม่ ก่อยังไม่สายค่ะ
ส่วนตอนเย็น+วันหยุด คุณก่อจะมีเวลาดูแล อาม่า ของคุณเหมือนเดิม อาจจะน้อยลงบ้าง แต่ก่อยังอยู่ด้วยกันใกล้ชิด ท่านก่ออุ่นใจมากกว่าหลานไปอยู่ไกลๆ นะคะ