ไม่สบายใจเลย ขอความเห็นหน่อยค่ะ
paengrum27วันนี้ไปซื้อเสื้อมาค่ะ
เลือกๆอยู่ชายเสื้อก็เข้าไปพันกะพัดลมที่ตั้งอยู่บนพื้น
เราตกใจมาก เพราะไม่ได้กะจะเอาตัวนั้น ในใจก็คิดว่าตายแล้วช้านนนนน
พัดลมก็หยุดชะงักไป เราก็คิดว่าเอาไงดีหล่ะเนี่ย??
พี่คนขายบอกว่าไม่เป็นไร น้องไม่ต้องซีเรียส (คือพี่เค้าคงเห็นว่าหน้าเราตกใจอ่ะ)
คนซื้ออีกคนก็พูดขึ้นมาว่า สงสัยมันจะขาดแล้วหล่ะ
พี่คนขายก็บอกว่า ไม่ขาดหรอกมันแค่เข้าไปพันเฉยๆ
พี่เค้าก็แงะพัดลมออกมา แล้วก็ดึงเสื้อออกมา สรุปว่ามันขาดอ่ะค่ะ
เค้าดึงออกมาแล้วก็โยนไปไว้ข้างหลัง ท่าทางหัวเสียเล็กน้อย แต่ไม่แสดงอาการอะไรเลย แล้วทุกคนในร้านก็เงียบ
เราทำตัวไม่ถูกเลย ก็เลยเลือกหยิบมาสองตัว คือความจิงก็ชอบด้วยหล่ะอยากได้อยู้แล้ว
ก็ยังมีหน้าไปต่อราคาเค้าอีกอ่ะ ว่าลดได้เท่าไหร่ พี่เค้าก็บอกราคามา 600
เราก็โอเค ไม่กล้าต่ออีกแล้วอ่ะ 600 ก็จ่าย ก็ให้ตังเค้าไป เค้าก็ทอนเงินเรามา
คือเราไม่ได้ดูตังทอนเลย รีบเดินไปเลยอ่ะ ก็ยังเดินซื้อโน่นนี่ต่อไป พอเสร็จ
เรากลับมาที่รถ เปิดกระเป๋าตังค์มา คิดคำนวนของที่ซื้อ คือเงินมันเหลือเกินมา 200 เราก็งง
เพราะปกติคิดแล้ว เงินจะหายไปมากกว่าความจริง เราเลยคิดว่าพี่ร้านที่เราทำเสื้อเค้าขาดอ่ะ
ต้องทอนเงินเรามา 600 แน่เรย แทนที่จะทอนแค่ 400
ที่เราคิดว่าเป็นแบบนั้นก็เพราะทุกร้านเราดูตังทอนหมด เว้นร้านนั้น ค่าน้ามค่าอาหารเราไม่ได้จ่ายเลย เพื่อนออกให้หมด
คือเราอยากเอาเงินไปคืนเค้า แต่เพื่อนบอกว่าไม่เป็นไรหรอก กำไร!!เว้ย
แต่กลับมาบ้านแล้วเราก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี คิดมากเหมือนกานอ่ะ สงสารเค้า เค้าอุส่าไม่เอาเรื่องเราแล้วอ่ะ แต่เราก็ยังไม่เอาเงินไปคืนเค้า
เพือ่นๆว่าทำไงดี 200 ถึงจะไม่มาก แต่มันก็ถือเป็นความผิดใช่ไม๊
เราควรเอาไปคืนเค้าดีไม๊อ่ะ แต่เราคงไม่ได้ไปที่นั้นอีกนานเลยอ่ะ เพราะไม่มีเวลาไปช่วงนี้อ่ะ
เลือกๆอยู่ชายเสื้อก็เข้าไปพันกะพัดลมที่ตั้งอยู่บนพื้น
เราตกใจมาก เพราะไม่ได้กะจะเอาตัวนั้น ในใจก็คิดว่าตายแล้วช้านนนนน
พัดลมก็หยุดชะงักไป เราก็คิดว่าเอาไงดีหล่ะเนี่ย??
พี่คนขายบอกว่าไม่เป็นไร น้องไม่ต้องซีเรียส (คือพี่เค้าคงเห็นว่าหน้าเราตกใจอ่ะ)
คนซื้ออีกคนก็พูดขึ้นมาว่า สงสัยมันจะขาดแล้วหล่ะ
พี่คนขายก็บอกว่า ไม่ขาดหรอกมันแค่เข้าไปพันเฉยๆ
พี่เค้าก็แงะพัดลมออกมา แล้วก็ดึงเสื้อออกมา สรุปว่ามันขาดอ่ะค่ะ
เค้าดึงออกมาแล้วก็โยนไปไว้ข้างหลัง ท่าทางหัวเสียเล็กน้อย แต่ไม่แสดงอาการอะไรเลย แล้วทุกคนในร้านก็เงียบ
เราทำตัวไม่ถูกเลย ก็เลยเลือกหยิบมาสองตัว คือความจิงก็ชอบด้วยหล่ะอยากได้อยู้แล้ว
ก็ยังมีหน้าไปต่อราคาเค้าอีกอ่ะ ว่าลดได้เท่าไหร่ พี่เค้าก็บอกราคามา 600
เราก็โอเค ไม่กล้าต่ออีกแล้วอ่ะ 600 ก็จ่าย ก็ให้ตังเค้าไป เค้าก็ทอนเงินเรามา
คือเราไม่ได้ดูตังทอนเลย รีบเดินไปเลยอ่ะ ก็ยังเดินซื้อโน่นนี่ต่อไป พอเสร็จ
เรากลับมาที่รถ เปิดกระเป๋าตังค์มา คิดคำนวนของที่ซื้อ คือเงินมันเหลือเกินมา 200 เราก็งง
เพราะปกติคิดแล้ว เงินจะหายไปมากกว่าความจริง เราเลยคิดว่าพี่ร้านที่เราทำเสื้อเค้าขาดอ่ะ
ต้องทอนเงินเรามา 600 แน่เรย แทนที่จะทอนแค่ 400
ที่เราคิดว่าเป็นแบบนั้นก็เพราะทุกร้านเราดูตังทอนหมด เว้นร้านนั้น ค่าน้ามค่าอาหารเราไม่ได้จ่ายเลย เพื่อนออกให้หมด
คือเราอยากเอาเงินไปคืนเค้า แต่เพื่อนบอกว่าไม่เป็นไรหรอก กำไร!!เว้ย
แต่กลับมาบ้านแล้วเราก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี คิดมากเหมือนกานอ่ะ สงสารเค้า เค้าอุส่าไม่เอาเรื่องเราแล้วอ่ะ แต่เราก็ยังไม่เอาเงินไปคืนเค้า
เพือ่นๆว่าทำไงดี 200 ถึงจะไม่มาก แต่มันก็ถือเป็นความผิดใช่ไม๊
เราควรเอาไปคืนเค้าดีไม๊อ่ะ แต่เราคงไม่ได้ไปที่นั้นอีกนานเลยอ่ะ เพราะไม่มีเวลาไปช่วงนี้อ่ะ
Discussion (27)
อืม คนทำดีน่าสนับสนุน ทำให้คนดีอยากทำดีต่อไป คืนช้าดีกว่าไม่คืน เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
เพราะว่าแม้เราจะเอาเงินนี้ไปทำบุญ เราได้บุญ แต่เราก็จะได้เจ้ากรรมนายเวรเพิ่มมาด้วยอีกคนนะคะ คือพี่คนนึงเค้าบอกมาอ่ะค่ะ(เค้าเป็นคนที่มีญาณ) ว่าส่วนที่เราเอาไปทำบุณเราก็จะได้บุญ ส่วนที่เราเอาของใครมาก็ต้องไปตามชดใช้กันต่อไป
ปล. การทำบุญยังฝากทำกันไม่ได้เลยนะคะ ใครเป็นคนทำ คนนั้นก็ได้ไป อย่างถ้าเราฝากเงินเพื่อนเอาไปทำบุญ แต่เราไม่ได้สวดอนุโมทนา+แจ้งชื่อไป เราก็จะไม่ได้รับบุญนั้นนะคะ