[REVIEW] เมคอัพที่ใช้เกือบทุกวัน

 มารีวิวแบบยาวๆอีกแล้ว :D 
แต่คราวนี้เป็นเมคอัพ ไม่ใช้สกินแคร์แล้วค่ะ

(ผลิตภัณท์บางอย่างอาจจะหาได้ยากในเมืองไทย ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ราคาที่ใส่ไว้บางอันก็จะเป็นเหรียญสหรัฐ ต้องขอโทษจริงๆ เพราะเราไม่รู็ว่าที่ไทยราคาเท่าไหร่
แต่ใส่ไว้จะได้ประมาณราคาได้ค่ะ 1เหรียญ = ประมาณ 32 บาท
เมคอัพส่วนมากที่เราใช้มีของเอเชียน้อยอ่ะค่ะ เพราะเราอยู่ที่นี่มันหาซื้อยาก T.T )


ไปเริ่มกันเลย :))

*******

1.Primer

Smashbox Photo Finish Light Oil-Free Foundation Primer


เป็นอันแรกและอันเดียวที่เคยใช้ (เพราะมันไม่หมดซักที ><)  ราคาต่างกันไปตามขนาดค่ะ
ช่วยทำให้เมคอัพติดนานขึ้นมากจริงๆ ทำให้เวลาลงรองพื้นแล้วเห็นรูขุมขนน้อยลง ดูเนียนขึ้น
เหมาะกับคนที่หน้ามันและเหงื่อออกเยอะ เพราะเจ้านี้ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน แทนที่จะไหลออกไปกับเหงื่อ
แต่บางวันรีบๆเราก็ไม่ใช้นะ 55 เพราะธรรมดาเราไม่แต่งเยอะมาก
แต่เวลาแต่งหน้าจริงจังเราลงตัวนี้ก่อนทุกทีเลยค่ะ ใช้ครั้งละน้อยมากๆก็ทั่วหน้าแล้ว

--------------


2. รองพื้น + BB ครีม
 
Nanoce BB Moist Cream SPF 30 PA++  890 บาท



อันนี้ซื้อตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ มันลดราคาพอดี และก็ถูกกว่าที่ไทยอยู่แล้ว
เป็นบีบีที่ชอบที่สุดตั้งแต่เคยใช้มา บางยี่ห้อมันทำให้หน้าเทาๆ หรือไม่ก็วอกๆยังไงไม่รู้
แต่ของ Nanoce  ใช้แล้วดูเป็นธรรมชาติมากๆ เนื้อครีมตอนยังไม่ทาจะไม่ค่อยเหลว 
แต่พอทาไปแล้วมันกลืนกับสีผิวดีมากๆเลยค่ะ (เราโทนneutral-เหลือง)
ดูไม่โบ๊ะเลย ดูเหมือนผิวเราดีโดยธรรมชาติ แต่ปกปิดรอยแดงได้ดีนะคะ
แล้วมันก็ไม่ oxidize เหมือนบางยี่ห้อ (คือใช้ไปแล้วเปลี่ยนสีเล็กน้อยระหว่างวัน)
คือตอนทาสีอะไร ตกเย็นมาก็ยังสีนั้นเลยค่ะ แถม SPF ก็สูงด้วย

Lancome Teint Idole Fresh Wear Foundation $34



ไม่แน่ใจว่าตัวนี้เข้าไทยรึเปล่านะคะ เราว่าเหมาะกับคนผิวผสม-ผิวมันมากๆเลย 
คิดว่าเป็นรองพื้นที่เนื้อเหลวที่สุดของlancome แล้ว ข้อดีมีมากมาย

1. ไม่หนา เนื้อรองพื้นบางและเหลวมากๆ ใช้แล้วเหมือนไม่ได้ทารองพื้นเลย
แต่ปกปิดดีนะ อาจจะไม่ดีเท่า Estee Double-Wear หรือ Revlon Colorstay
แต่คือ ดีมาก เมื่อเทียบกับเนื้อครีมที่ไม่หนาเลย   คิดว่าเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยมากๆ
2. ติดทนนานสุดๆ เราทาไปตอนเช้า กลับมาตอนเย็นตอนล้างเมคอัพยังออกมาเยอะอยู่เบย
แล้วเราเป็นคนที่อยู่ในอาคารน้อยมาก ต้องเดินตลอดเวลา ยังติดทนนานขนาดนี้
3. คุมความมันได้ดีมากๆ เค้าเคลมว่า 18-hour shine free ซึ่งเราไม่เคยทารองพื้นนานขนาด 18 ชม.
แต่เราจะบอกว่า มันคุมได้ตลอดวันจริงๆค่ะ
4.  เกลี่ยง่ายมาก เพราะเนื้อรองพื้นเหลว เนียนไปกับผิว
ดูไม่โบ๊ะ พอทาแล้วเหมือนเป็นผิวใหม่อีกชั้นนึงของเราเลย ดูธรรมชาติจริงๆค่ะ
*ถ้าที่ไทยหาซื้อไม่ได้ ใครฝากเพื่อนหรือญาติซื้อจากต่างประเทศได้ แนะนำจริงๆค่ะ
 
Bare Escentuals BareMinerals Matte  $27

รองพื่้นแบบแป้งกันตายของเรา ใช้(เกือบ)ทุกวันมาจะสองปีแล้ว ยังเหลือเยอะมากก
มันเป็นแบบแป้ง เลยติ่ดทนน้อยกว่าแบบเหลว แต่ถ้าลง primer ก่อนก็ทำให้อยู่นานขึ่้นค่ะ
ชอบเพราะมันใช้ง่ายมากๆ ไม่ต้องลงแป้งทับอีกรอบเหมือนตอนใช้รองพื้นแบบเหลว
เราตื่นมาไปเรียนก็ ปัดๆๆ ไม่ต้องเกลี่ยใดๆทั้งสิ้น ประหยัดเวลาจริงๆ
ควบคุมความมันดีมากๆๆ (เราใช้แบบ Matte) ปกปิดรอืยแดงได้ดี แต่รอยดำไม่ค่อยปกปิดค่ะ
เป็น 100% natural ดีต่อผิวค่ะ  ใช้แล้วดูธรรมชาติ ไม่โบ๊ะ  
(สังเกตว่ารองพื้นของเราเน้นความเป็นธรรมชาติ ^^") 

---------------


3. แป้งเซ็ตรองพื้น

Laura Mercier Mineral Finishing Powder $32

ใช้อยู่อันเดียวนี่แหละ ไม่ยอมหมดซักที 555  (แต่เราใช้แค่เวลาลงรองพื้นแบบเหลว)
อันที่เราใช้นี่เป็นแบบ mineral นะ ไม่ใช่แบบ translucent loose powder ที่นิยมกัน
เพราะบางทีผิวเราแพ้ง่าย คนขายเลยแนะนำตัว mineral นี้แทน เพราะจะแพ้ยากกว่า
ใครที่ใช้แบบ translucent แล้วแพ้ ก็ลองใช้ตัวนี้ดูก็ได้นะคะ คิดว่าน่าจะคล้ายกันมากๆ
ใช้แล้วหน้าผ่องดี โกลวๆ ไม่ดู matte เกินไป
แถมอันนึงก็ใช้ได้นานมากจนมันคงหมดอายุไปก่อน 555 คุ้มจริงๆค่ะ

--------------


4. บลัช + ไฮไลท์

MAC powder blush สี well-dressed $20



สีคู่ใจของเรา บลัชสีชมพูอ่อนๆ ระเรื่อๆ  ไม่เว่อร์ ใช้แล้วเหมือนสีแก้มเราตอนแก้มแดงจริงๆเลยอ่ะ ^^
ติดทนนาน เนื้อบลัชก็ไม่เป็นผงๆ ทำให้ตลับไม่สกปรกง่ายค่ะ และใช้ได้นานมากกก
อันนี้เราใช้บ่อยสุดแล้ว เพราะมันไม่มีวิ้งๆแบบเห็นได้ชัดเหมือนของ Nars (อันข้างล่าง)
คิดว่าจะเข้ากับโทนสีผิวคนไทยได้ดีมากเลยค่ะ

Nars Orgasm $28



สีคู่ใจอีกอันหนึ่ง ทุกคนคงรู้จักสีนี้ดี ^^ 
คล้ายๆ MAC อ้ันข้างบน แต่มีวิ้งๆสีทองเล็กน้อย และเข้มกว่า ถ้าใช้มากไปอาจจะดูตลกได้ค่ะ
ติดทนนานมากก แต่มันชอบมีผงๆออกมาบนตลับ
 ตลับบาง พกพาง่าย เวลาไปไหนเราจะเอาอันนี้ไปตลอดค่ะเพราะมันเล็ก
ตอนแรกเราซื้อสี deep throat แต่สีนั้นพออยู่บนหน้าเราแล้วมันส้มเกิยไปอ่ะ เลยเอาไปเปลี่ยน

Canmake Cream Cheek


อันนี้เป็นบลัชแบบครีม ชอบเพราะเราคิดว่าครีมบลัชทำให้ดูธรรมชาติกว่าแบบpowderนะ
สีสวยดี เราใช้สี 02 ติดนานดีเหมือนกัน แต่ไม่นานเท่าแบบ powderค่ะ
ถ้าอยากให้ติดนานขึ้นต้องเอา powder blush ลงทับอ่อนๆนิดหน่อย

Benefit Coralista $28





บลัชอันนี้เป็นสีชมพูอมส้มนิดๆค่ะ เราใช้บ่อยน้อยกว่าอันอื่น เพราะธรรมดาเราชอบชมพูๆ
แต่วันไหนเบื่อมีชมดู ก็เอาชมพูส้มอันนี้ออกมาใช้ เปลี่ยนบรรยากาศดีเหมือนกัน 
สีกำลังดี ไม่ส้มจนเกินไป ติดนาน มีวิ้งๆนิดหน่อย ทำให้แก้มดูโกลวๆค่ะ 


[  คิดว่าชีวิตนี้เราคงไม่ต้องซื้อบลัชไปอีกนานน 555 ที่มีอยู่นี่ก็ใช้จะไม่หมดอยู่แล้ว
บางทีไปชอปปิ้งเห็นสีสวยๆแปลกๆเราก็อยากได้นะ แต่พอนึกถึงที่มีอยู่ที่บ้านแล้วขอไม่เอาดีกว่า ^^" ]

MAC Mineralized Skinfinish สี soft and gentle $29




ใช้มานานมากกกก ตั้งแต่เริ่มแต่งหน้า ก็ยังใช้ไปไม่ถึง 20%
ชอบมากเลย เพราะมันทำให้หน้าเราดูสว่างขึ้น แล้วก็โกลว แต่ไม่ดูสกปรกหรือก็มีวิ้งๆทั่วหน้า
แถมใช้ได้เร็วอีก แค่ปัดข้าวละสองสามทีก็เสร็จแล้ว 
เราใช้ตรงจมูกนิดหน่อยด้วยค่ะ ทำให้ดูมีดั้งขึ้น 
ถ้าใครกำลังมองหาไฮไลท์เราแนะนำสีนี้นะ เพราะมันเป็นคล้ายๆสีเนื้ออ่ะค่ะ 
เลยไม่เพิ่มสีให้กับหน้า เป็นแค่ให้แสงเฉยๆ

-----------

5. Eye Primer/ Cream Shadow


Urban Decay Eye Primer Potion  $20



คงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว เราใช้สี original นะ เพราะคิดว่ามันไม่เพิ่มสีให้ตาเรา 
ช่วยให้อายแชโดว์ติดดีมาก สีสดขึ้น แชโดว์ไม่ตกร่องเปลือกตา
ตัวนี้ถ้าเราแต่งตาเมื่อไหร่เราขาดไม่ได้เลยค่ะ
เราเป็นคนเปลือกตามันมาก ถ้าไม่ลงตัวนี้ก่อน สีแชโดว์มันจะออกหมดเลย 
ได้ยินมาว่า Nars Eye Primer ก็ดีสำหรับคนเปลือกตามันเหมือนกัน 
เดี๋ยวตัวนี้หมดแล้วเราจะลองดูค่ะ

MAC Paint Pot สี Bare Study  $17.50





เราใช้อันนี้วันที่ขี้เกียจแต่ง แต่รู้สึกอยากให้ตามีสีนิดๆ
สีมันจะคล้ายๆสีเนื้อแบบแววๆ แต่มีวิ้งเบาๆสิทองนิดหน่อยอ่ะค่ะ
สีสวยมากเลย ทำให้ตาดูสว่างขึ้น จะใช้เป็นเบสแล้วลงแชโดว์สีอื่นทับก็ได้ค่ะ
(แต่เป็นเบสจะไม่ดีเท่า urban decay potion)

-----------------

6. Eye Shadow

อายแชโดว์อันเดียวที่เลือกมานี่คือแบบที่เราใช้ได้ทุกวันนะคะ  (ลุคเบาๆ ตามสไตล์เรา)
เพราะสีค่อนข้างสุภาพ, neutral และไม่เว่อร์เกินไป
เวลาแต่งตามากๆเราก็จะใช้สีจากพาเลทอื่นค่ะ

Lancome Color Design Quad สี Haute Sunset $43






ราคาค่อนข้างแพง แต่ซื้อนานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อน Naked 1 ออก
เอาไปด้วยทุกที่เลย สีสุภาพมากๆ เรียบๆ ใช้ได้ทุกโอกาส
ใช้ได้ทุกวันแบบไม่เบื่อค่ะ เพราะแต่งได้หลายลุค สีทุกสีเอามาใช้โดดๆก็ได้
ส่วนมากเราจะใช้ สีครีม น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม
ส่วนสีชมพูเราใช้เวลาอยากเปลี่ยนลุคค่ะ
สีชมพูในquad นี้เป็นสีที่สวยมากๆ แบบเอาใจเราไปเลย ไม่เข้มจนเกินไป
มีวิ่งๆสีเงินละเอียดมาก ทำให้ตาดูโรแมนติดๆ
สีครีมก็มีวิ้งสีเงินแบบละเอียดมาก ทำให้ตาดูสว่างขึ้น
ส่วนสีน่้ำตาลอ่อนนี้อ่อนกำลังดี เอาไว้เน้นตรงหางตานิดหน่อย หรือจะไว้คัดเบ้าก็ยังได้ค่ะ
สีน้ำตาลเข้มบางทีเราใช้เป็นไลน์เนอร์เลย เพราะทำให้ได้ลุคที่ซอฟมากๆ
นี่เป็นquad ที่เราลังเลอยู่นานมากกว่าจะซื้อ เพราะมันแพง แต่ซื้อมาแล้วใช้ได้คุ้มตามคาด
ไม่เคยเบื่อสี่สีนี้เลยค่ะ สีเรียบๆ แต่มีวิ้งเล็กน้อย ใช้ได้ทุกโอกาสจริงๆ พกไปด้วยได้ทุกที่

-------------

7. Eye Liner

MAC Fluidline สี Dipdown $15


ไลนเนอร์แบบเจลอันแรกที่ซื้อ เจลไลน์เนอร์เรารู้สึกว่าติดทนนานกว่าแบบLiquidนะ และใช้ได้นานกว่าด้วย
ตอนฝึกเขียนตาใหม่ๆเราใช้ไลนเนอร์แบบเจลกับangled brush ที่เอาไว้เขียนคิ้วอ่ะค่ะ 
คิดว่าทำให้เขียนตาได้ง่ายขึ้นเยอะเลย ธรรมดาเราเป็นคนมือไม่นิ่งอยู่แล้วด้วย
ที่เรามีเป็นสีน้ำตาล เพราะบางทีคิดว่าสีดำมันทำให้เราดูดุไปหน่อย 555
สีเข้มและติดทนดีมาก ใช้มานานเป็นปีแล้วที่เหลืออยู่ยังไม่แห้งไปไหนเลยค่ะ สียังชัดเหมือนเดิม
เคยใช้ของ maybelline eye studio แต่อันนั้นพอผ่านไป 4-5 เดือนแล้วมันแห้ง สีก็ไม่ค่อยออกแล้ว
ของแมคอันนี้ คิดว่าหมดแล้วก็จะซื้ออีกค่ะ แพงกว่ากันหน่อยแต่อยู่นานจริงๆ

Majolica Majorca Automatic Eye Liner  480 บาท



คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าเขียนง่ายและติดทนนานขนาดไหน ชอบที่มีกลิตเตอร์ด้วย ทำให้สีไม่ดำเกินไป
เราเป็นคนมีปัญหากับการใช้ liquid liner มาก เพราะมือไม่ค่อยนิ่ง แต่อันนี้ทำให้เขียนง่ายขึ้นเยอะ
หัวปากกามันไม่งอไปงอมาอ่ะค่ะ ค่อนข้างตรงๆเลย ทำให้บังคับง่ายขึ้น
แต่ถ้าใครมีliquid liner อันไหนที่เขียนง่ายกว่านี้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

แบบดินสอ  Make Up For Ever Aqua Eyes  $16





เป็นไลน์เนอร์แบบดินสอที่ติดทนดีมาก
เราใช้แค่สีครีมนะคะ เอาไว้เขียนขอบตาล่าง ทำให้ตาดูโตขึ้น ตื่นขึ้น (เพราะตาเราชอบดูเหนื่อย)
เขียนไปยังไง กลับมาตอนเย็นยังอยู่เหมือนเดิมเป๊ะเลยค่ะ 
 
  -------------

8. Mascara


Rimmel London Sexy Curves Waterproof  $8






มาสคาร่าที่เราใช้ เราเลือกแบบที่ทำให้ขนตางอนอ่ะค่ะ
เราเป็นคนขนตาค่อยข้างยาวอยู่แล้ว เลยไม่อยากได้ความยาวมากขึ้นไปอีก ^^"
แต่ขนตาเราไม่งอนเลย แบบมันทิ่มออกมาข้างหน้าอย่างเดียว
มาสคาร่าแบบvolumeบางตัวเวลาใช้แล้วทำให้ขนตาเราตก
เพราะขนตาเรามันยาวอยู่แล้ว พอมีน้ำหนักมากขึ้นอีกมันเลยตกเลย
แต่ตัวนี้ ทำให้ขนตางอนอยู่รูปปหลังจาดดัดขนตาแล้ว 
ช่วยเพิ่มdefinition ให้ขนตาเรามากขึ้น ทำให้ขนตาไม่จับกันเป็นก้อนค่ะ
คล้ายๆกับ Fairy Drops Scandal Queen mascara เลยค่ะ แต่อันนั้นแพงกว่าสามเท่า ><

************

หมดแล้วค่า ผิดพลาดยังไงขอโทษด้วยนะคะ 
ขอบคุณรูปจาก google ค่ะ

แนะนำ ติชม ด้วยค่ะ :))








 

Discussion (13)

 น่าใช้ทั้งนั้นเลย
สนใจ บีบี ครีมมากเลยค่ะ เห็นในวัตสันก็มีขายแล้วด้วย ><
 @laviesublime  เพิ่งรุ้นะเนี้ยว่า rimmel ไม่มีที่ไทย จริงๆความรู้เรื่องเมคอัพที่ไทยเราน้อยมากก เพราะตอนอยู่ไทยยังไม่แต่งหน้า ^^"
อยากให้ rimmelมาขายเมืองไทยจังค่ะ
T T

มันถูกแล้วก็ใช้ดีด้วย ติดใจเหมือน cover girlเลย