สอบถามเรื่องกฎหมายหน่อยค่ะ

1.กรณีถ้าไม่ไปชำระ  
              คดีนี้ฟ้องศาลแล้ว แสดงว่าเจ้าหนี้เค้าเลื่อนนัดให้เราไปชำระหนี้ หากเราไม่ไปเจรจาหรือขอประนอมหนี้ก่อนขึ้นศาลนัดต่อไป หรือภายในวันที่ 28/05/2555 ซึ่งเจ้าหนี้กำหนด และวันนัดที่จะถึงไม่ไปศาลไม่ไปยื่นคำให้การ ศาลจะถือว่าขาดนัด และพิพากษาตามฟ้องค่ะ ส่วนจำนวนเงินที่จะต้องชำระนั้น ต้องดูคำสั่งศาล(คำพิพากษา) เนื่องจาก ศาลอาจลดดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมศาล ให้อีก  ..ดังนั้น หากเพื่อนคุณไม่คิดจะไปไกล่เกลี่ยหรือชำระหนี้ตามวันนัด ต้องรอศาลพิพากษาก่อนค่ะ ถึงจะรู้ว่าเราควรชำระหนี้เท่าไหร่ ซึ่งถ้าเป็นคดี ผบ.(ผู้บริโภค) ศาลจะพิพากษาไปฝ่ายเดียวในวันนั้นเลยค่ะ

2. หากไม่ต้องการให้ศาลพิพากษา ให้ไปเจรจากับเจ้าหนี้ก่อนวันนัด ว่าจะขอยืดระยะเวลาอีก ถ้าเจ้าหนี้ยินยอม เจ้าหนี้จะไปขอเลื่อนคดีที่ศาลเองค่ะ

3. หากหาเงินชำระได้ทัน เจ้าหนี้จะยื่นคำร้องขอถอนฟ้องภายในวันนัดค่ะ 

หมายเหตุ. ถ้าเราขอผ่อนชำระและตกลงได้ เจ้าหนี้จะไม่ถอนฟ้องนะคะ แต่จะทำเป็นสัญญายอม (ประนีประนอมยอมความ) และศาลจะพิพากษาตามสัญญายอมนี้ ซึ่ง เจ้าหนี้จะคิดมูลหนี้เต็มตามฟ้อง
 แต่ถ้าเราให้ศาลพิพากษาแบบธรรมดาเลย ศาลอาจใช้ดุลยพินิจลดดอกเบี้ยอีกค่ะ 
 

แสดงว่าตอนนี้ ยังไม่ได้จ่ายหรือจ่ายไม่ทันตามกำหนดแน่ๆ เหรอคะ ทางที่ดีลองให้ลูกหนี้ คือเพื่อนคุณ เจรจากับผู้ฟ้องคดีก่อนนะคะ ถ้าตกลงกันได้ก็ดีไป ลองอธิบายเหตุผล ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือไม่ยอมพูดกันก็ไปศาลเพื่อไกล่เกลี่ยดีกว่าค่ะ เพราะถ้าชำระหนี้ไม่ทันตามกำหนดก็ต้องเสียดอกเบี้ยอยู่แล้ว สรุปว่า คือยังไงก็ต้องเสียค่าดังกล่าวเหมือนกัน