สืบเนื่องจากกระทู้ "เพิ่งจะรู้ค่ะ เกี่ยวกับคอนแทค"

สืบเนื่องจากคราวที่แล้ว เพิ่งจะรู้ค่ะ เกี่ยวกับคอนแทคเลนส์ อรเห็นว่ามีหลายคนเหมือนกันค่ะ ที่ไม่ทราบเรื่องค่า B.C. (เหมือนกะอร ^^")
อรเลยลอง search ข้อมูลในเน็ต จะได้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องกันค่ะ

สิ่งที่ต้องรู้เมื่อจะซื้อ contact lens

เลนส์ชนิด Disposable  หมายถึงเลนส์ที่ใช้แล้วไม่ต้องล้างเลย
ใช้แล้วถอดทิ้งเหมือนเราใช้กระดาษทิชชู
และ Planned  Replacement หมายถึงเลนส์ที่ใช้แล้วใช้ซ้ำอีกได้
แต่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ มีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น ทุก 2-4 สัปดาห์

มีความเข้าใจผิดของผู้ใช้อยู่เสมอว่า  เลนส์พวกนี้เป็นเลนส์ Free size

ดังนั้นเมื่อไปหาซื้อเลนส์ ผู้ใช้มักบอกคนขายแต่เพียงว่า ต้องการ ACUVUE เบอร์  -3.00 หรือ
ต้องการ FOCUS
เบอร์ -4.75 เท่านั้น  และ คนขายก็มักหยิบเลนส์มาให้ได้เสียด้วย

ที่จริงแล้ว บนหน้าซองบรรจุเลนส์ คุณจะเห็นว่านอกจากค่ากำลังของเลนส์ หรือ power -3.00 D หรือ -4.75D
แล้วยังมี
ตัวอักษร B.C. 8.8 หรือ B.C. 8.6  กำกับมาด้วย  ให้คุณแน่ใจได้เลยว่า นั่นย่อมไม่ได้หมายความว่าเลนส์ชิ้นนั้น
ผลิตขึ้นก่อนคริสตกาล
แต่ มันสำคัญอย่างไรด้วยหรือ  หรือฝรั่งทำเกินมา เฉยๆ


ค่า B.C. ย่อมาจาก Base Curve หมายถึงรัศมีความโค้งด้านหลัง
ของเลนส์ชิ้นนั้น ซึ่งเป็นด้านจะต้องสัมผัสกับดวงตาของเรา
เลนส์ที่มี B.C. 8.8 มิลลิเมตร หมายถึงเลนส์ชิ้นนั้น แบนกว่าเลนส์ที่มี  B.C. 8.4 มิลลิเมตร
ซึ่งจะทำให้ เลนส์ 8.4 ติดแน่น บีบรัดดวงตามากกว่า
ส่วนเลนส์ 8.8 จะรู้สึกหลวมเลื่อนได้มากกว่า

แต่การเปลี่ยนค่า Base Curve ขอให้เป็นหน้าที่ของจักษุแพทย์นะครับ 
เพราะการใส่เลนส์คับหรือหลวมเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ 
ควรซื้อเลนส์ Base Curve เดิมเสมอ ห้ามเปลี่ยนเองครับ

โดย นพ.คำนูณ อธิภาส  จักษุแพทย

ที่มาจาก http://www.thaiclinic.com/contactlens.html
สามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ



พอดีค้นไปค้นมาไปเจออันนี้เข้าค่ะ ระวังกันด้วยนะคะ

สิงคโปร์-ฮ่องกงสั่งเก็บน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์รุ่นดัง"เรนู" หลังพบผู้ใช้ติดเชื้อราที่กระจกตาอย่างน้อย 19 ราย ในนั้น 3 รายต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเฉียบพลัน ตัวแทนผลิตภัณฑ์บอช แอนด์ ลอมบ์ บินด่วนมาจากสหรัฐมาวิเคราะห์น้ำยาหาสาเหตุร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์ดวงตาสิงคโปร์ พร้อมประกาศเตือนลูกค้าทั่วสิงคโปร์ที่คาดว่ามีถึง 1.5 แสนคน ให้หยุดใช้ชั่วคราว ด้านอย.ไทยเก็บตัวอย่างส่งกรมวิทยาศาสตร์ฯตรวจแล้ว เตือนระวังอย่าใช้มั่วต้องปรึกษาหมอ อาจทำให้ตาบอดได้ และช่วงว่ายน้ำไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เพราะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. หนังสือพิมพ์ไชน่าโพสต์และแชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า บริษัทบอช แอนด์ ลอมบ์ ผู้ผลิตคอนแทคเลนส์และน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์รายใหญ่ของโลก ตัดสินใจสั่งเก็บผลิตภัณฑ์น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ รุ่นยอดนิยม "เรนู" (Renu) ออกจากตลาดในประเทศสิงคโปร์ ภายหลังจากนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เรนูแล้วเกิดอาการติดเชื้อราที่กระจกตา (Fungul Corneal Infections) อย่างน้อย 19 ราย และมี 3 ราย ต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเฉียบพลัน

รายงานข่าวแจ้งว่า หัวหน้าฝ่ายการแพทย์ของบอช แอนด์ ลอมบ์ เดินทางด่วนจากสหรัฐอเมริกามายังประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมกระบวนการนำน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์เรนูมาตรวจวิเคราะห์พร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์ดวงตาแห่งชาติของสิงคโปร์ นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขยังประกาศเตือนให้ชาวสิงคโปร์ระงับการใช้น้ำยาเรนูชั่วคราว จนกว่าผลการทดสอบจะเสร็จสิ้น พร้อมกับเปิดเผยตัวเลขว่า ผู้ป่วยตาติดเชื้อทั้ง 19 ราย ใช้คอนแทคเลนส์แบบใช้แล้วทิ้ง ในจำนวนนี้ 18 ราย ใช้น้ำยาเรนูล้างคอนแทคเลนส์ คาดว่าทั่วทั้งสิงคโปร์มีผู้ใช้น้ำยาเรนู 120,000-150,000 คน

ด้านศูนย์สุขภาพของเกาะฮ่องกง เริ่มสั่งเก็บตัวอย่างน้ำยาเรนูมาตรวจวิเคราะห์ว่าอาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้ใช้เกิดอาการติดเชื้อราที่กระจกตาเช่นเดียวกันกับที่สิงคโปร์หรือไม่ โดยในส่วนของฮ่องกงนั้นมีผู้ป่วยกระจกตาติดเชื้อราเดือนละ 2-3 คน จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยบางคนใช้น้ำยาเรนูด้วย

น.พ.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ยี่ห้อต่างๆ โดยเฉพาะยี่ห้อบอช แอนด์ ลอมบ์ รุ่นเรนู ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ส่งวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อติดตามความปลอดภัย และได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งเตรียมศึกษาข้อมูลการใช้น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์อย่างปลอดภัยในไทย

ทั้งนี้ การใช้คอนแทคเลนส์และน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ จะเกิดอันตรายได้มากหากเกิดการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา โดยเฉพาะถ้าเป็นเชื้อราจะมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง รักษาหายยาก ถ้าวินิจฉัยไม่ถูกหรือรักษาไม่ทัน อาจทำให้สูญเสียการมองเห็น จึงขอแนะนำผู้ที่จำเป็นต้องใช้คอนแทคเลนส์ว่า ไม่ควรเลือกซื้อเลือกใช้เอง ควรได้รับการตรวจจากจักษุแพทย์ก่อน เพื่อให้ได้เลนส์ที่พอดีกับตา
เพราะหากไม่พอดีอาจทำให้เกิดแผล และติดเชื้อ จนถึงขั้นตาบอดได้
นอกจากนี้ ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ขณะว่ายน้ำ เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และหากใส่คอนแทคเลนส์แล้วมีอาการระคายเคืองต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ที่มาจากหนังสือพิมพ์
มติชน

เอามาจากที่นี่อีกทีค่ะ
http://www.thaicabincrew.com/webboard/viewtopic.php?p=137048&sid=85d7864272ea8269bc50ac19edff36bd

อ่านแล้วแอบสยองค่ะ เพราะใช้อยู่ - -" ทั้งน้ำยาล้าง ทั้งน้ำตาเทียมเลยค่ะ
สงสัยต้องรีบเปลี่ยนแล้ว = =
 

Discussion (14)

แย่เลย ที่บ้านมีอีกตั้งหลายขวด แล้วจะใช้ยี่ห้อไรดีเนี้ย
ขอบคุนนะคะที่มาบอกข่าว ถ้าไม่งั้นแย่เลย
ขอบคุณนะคะที่เอามาฝากกัน
แต่ก่อนก็ใช้ น้ำยายี่ห้อนี้แหละ แล้วเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้ออื่นแล้ว อิอิ

ขอบคุณค่ะ ขวดที่มีอยู่จะหมดพอดี
เปลี่ยนยี่ห้อด่วนๆ

ตะก่อนใช้เหมือนกัน พอมีข่าวดังมากตอนนั้น ย้ายค่ายไป alcon เลย อิอิ
แว๊ก เพิ่งสอยบอชแอนลอม มาเยยอะ

แล้วอีกอย่าง ปรกติว่ายน้ำ เราใส่เลนส์ตลอด ไม่งั้นจะทำไงดีมองมะเหนจิ