[นอกเรื่อง]โลกเราชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน

 สวัสดีค่ะ
วันนี้ขอรบกวนพื้นที่ระบายหน่อยนะคะ - - ช่วงนี้จิตตก หลายเรื่องรอบตัวมาก
ไม่รู้ว่าดวงตกหรืออะไร - - จะทำอะไร ไปไหน ก็แลดูมีเรื่องตลอด
ใครเจอเหตุการณ์ประมาณนี้ ลองมาแชร์กันดูนะคะ 

เหตุการณ์ที่ 1 

พอดีอยู่กับเพื่อน อีก 2 คน(รวมเป็น3) เลยชวนกันไปทานไดโดมอนที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
ก็ขึ้นรถเมล์สาย 40 คันใหญ่ แถวบ้าน
เราขึ้นไป ก็จ่ายเงินปกติบอกไปเซ็นทรัล ค่ารถคนละ 12 บาท (แต่จ่ายแยกกัน)
เราจ่ายเงินเสร็จ พนักงาน(ผญ)ทอนเงินให้เราปกติ
 
แล้วเพื่อนอีกคนก็จ่ายเงิน พนักงานมันก็นับ ๆ แล้วก็ยื่นเงินคืนให้  
เพื่อนเราก็รับกลับมาสงสัยนับผิด แล้วมันก็นับผิดจริง ๆ คือ มีเหรียญ 25 สตางค์ติดไปด้วย 1 เหรียญ 
(เท่ากับจ่ายไป 12.25 บาท) มันก็ไม่อะไรเก็บเหรียญ 25 สตางค์ใส่กระเป๋า แล้วส่งให้ใหม่

เสร็จ พนักงานก็เอาไปนับ แล้วก็ยื่นคืนกลับมาอีกครั้ง!! พร้อมพูดว่า ช่วยนับเงินใหม่ด้วย!! เสียงแบบเหยียด ๆ
เพื่อนเราก็รับเงินคืนมา!! หน้างง ๆ 2 รอบแล้ว!! มันก็นับใหม่อีก ก็ถูกแล้วนี่!! เราก็เลยบอกเพื่อนว่า มา!!เรานับเอง!!

เราก็หยิบเลยค่ะ!!  5 6 7 8 9 10 12 ( เหรียญ5 1 เหรียญ เหรียญบาท 5 เหรียญ เหรียญ 2 บาท สีทอง 1 เหรียญ )
คือ นับแบบเด็กประถมเลยค่ะ จากมือนึงใส่อีกมือนึง ก็ถูกแล้วนี่!!  12 บาท

ก็ส่งให้พนักงานใหม่ ก็ถูกแล้ว - - พนักงานมันก็รับเงินแล้วมองหน้าเรากับเพื่อน พร้อมบอกว่า 
เมื่อกี้เงินไม่ครบ  เราก็เลยพูดไปว่า  ไม่ได้ใส่เงินเพิ่มเลยนะคะ (น้ำเสียงปกติสุด ๆ)
มันก็ชักสีหน้า บ่นพึมพำ ๆ ให้คนได้ยิน เราก็ไม่อยากอะไรมากเพราะเคยเจอคลิปที่ กระเป๋ารถเมล์ตบคุณป้าคนนึง ทำร้ายร่างกาย ถึงขั้นเอาหัวโขกฟุตบาต เหตุเพราะค่ารถ 10 บาท แต่จ่ายแบงค์ 100!!

เรากับเพื่อนก็นั่งเงียบ ๆ มาตลอดทาง ตลอดทางพนง.ก็ชอบเดินมาตรงที่เราแล้วมองหน้าหาเรื่องเรากับเพื่อน
ลงรถมา - - ก็นอยซ์ ๆ กันไปแบบว่าเป็นอะไรมากไหม? คือ ถ้าเงินขาดบาทนึง ก็พูดมาเลยว่า ขาดไปบาทนึง จบ!!
นี่ ไม่พูด เอาเงินคืน แทบจะเขวี้ยงใส่มือ 2 รอบ แล้วประเด็นคือเงินไม่ขาด!!
ก็จบเรื่องนี้กันไปเพราะ ถือว่า เค้าไม่มีการศึกษา นับเลขเลยผิด ๆไปบ้าง ไม่งั้นเค้าคงไม่มาเป็นกระเป๋ารถเมล์


เหตุการณ์ที่ 2 

วันเดียวกันเลยค่าา = =! กินไดโดมอน มันปรับปรุงร้านใหม่ อาหารเปลี่ยนเมณูหมด เปลี่ยนการตกแต่งร้านหมด 
แถมราคาก็แำพงขึ้นกว่าเดิมอีกคนละ 50 - 60 บาท เป็นคนละ 269 หรือ 279 เนี่ยแหละ แล้วจำกัดเวลา 1.30 ชม.ด้วย
ก็เอาวะ!! ไหน ๆ ก็มาถึงนี่แล้วก็เข้าไปกิน เดี๋ยวนี้เค้าให้หยิบอาหารเอง ตักเอง  ทำเองหมด  

ประเด็นมันเกิดตอนเช็คบิล!!
คือ เราต้องเอาใบเสร็จไปจ่ายเองที่เคาเตอร์ เราก็เป็นคนเอาไปจ่าย
(ตอนนั้นกลุ่มลูกค้าหลายกลุ่มออกจากร้านไปหมดแล้ว เหลือโต๊ะเรากับโต๊ะมุมอื่นอีก 2 โต๊ะ) 
แคชเชียร์(เป็นผู้หญิงอายุ 30 กว่าๆ) มันก็ตะโกนหาพนักงานในร้านว่า ของเหลือเยอะไหม? 
พนักงานคนนั้นบอกไม่รู้หรืออะไรเนี่ยแหละ ฟังไม่ค่อยออก - -

ป้าแคชเชียร์ ก็เดินออกจากเคาเตอร์เลย ไปดูที่โต๊ะเราทันที!!
แบบตอนเดินออกไปนี่ท่าทางแบบหาเรื่องมากอ่ะ - - 
เสร็จ มันก็เดินกลับมา แ้ล้วพูดว่า

แคชเชียร์ :  คิดค่าทานเหลือ 3 ที่นะคะ!!  อาหารเหลือเยอะ!!  
เรา :  พี่ !! คิดค่าทานเหลือ 3 ที่เลยหรอ อาหารหนูแทบไม่เหลือเลยนะ 
แคชเชียร์ : อาหารเหลือเยอะ!!   
เรา  : อะไรมันเหลือหรอคะ? มีแค่ผัก ของปิ้ง ๆก็ทานหมด
แคชเชียร์ :  มันก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แล้วพูดว่า.......ของทอดเหลือเยอะ 
เรา : หืม ?? ของทอดเหลือเยอะ?  พวกหนูทานหมดเลยนะ มีเหลือแต่ หมูที่ปิ้งไหม้ อยู่ 4 ชิ้น
กับผักกะหล่ำปลี เหลือ อันนี้ยอมรับ คิดค่าปรับแค่คนเดียวก็พอมั้งคะ 

แล้วแคชเชียร์ ก็มองหน้าเราแบบไม่พอใจ  แล้วมันก็คิดค่าปรับเรา 50 บาท  (แบบยังไงก็จะปรับเราให้ได้)
พอเราจ่ายเงินเสร็จก็เดินไปหาเพื่อนที่โต๊ะ แล้วรีบเดินออกมา คุยกันเลยว่า ร้านมันปรับนะ 50 บาท กินเหลือ 
เพื่อนอีก 2 คน ก็ งง กินเหลือ !! คือ อาหารที่หยิบมา กินหมด - - แล้วไม่ได้เหลือแบบน่าเกลียดเลย แค่เศษผักกะหล่ำปลี แค่นั้น แล้วปริมาณ - - ให้เต็มที่ค่ะ ไม่ถึง 1 ขีด มันยังปรับ
เลยคุยกันว่า ไม่กินอีกแล้ว ไดโดมอน - - เข็ด 

(ก่อนหน้านี้ เพื่อนคนนึงไปกิน hot pot สาขา ราม1 มันก็โดนปรับเหมือนกัน กินหมดเหมือนกัน เหลือเศษๆนิดนึงเหมือนกัน เพราะคงไม่มีใครมานั่งซดทุกหยด ทุกเม็ด ตอนเช็คบิล พนักงานเล่นเดินมาที่โต๊ะ แล้วตักของในหม้อสุกี้ ใส่ถ้วย แล้วพูดว่า นี่ไงคะ เหลือตั้ง ถ้วยนึง!! เอิ่มมม ผักต้มเละๆ ริ้วๆ กับเศษหมู ริ้วๆ อยู่ในหม้อ ใครมันจะไปควานหา!! พูดง่าย ๆ  มันจะปรับตังให้ได้) สาขานี้ เลิกกินอีกเหมือนกันค่ะ!!


 

เหตุการณ์ที่ 3 

รถเมล์สาย 40 อีกแล้วค่ะ อยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิม จะไปสยามกัน 3 คน
ก็ขึ้นรถแถวบ้าน (ไม่ใช่คันเดิมกับเหตุการณ์บนนะคะ) ก็ถึงเวลาจ่ายค่ารถค่ะ
เราก็บอกกระเป๋ารถเมลล์ (ผู้หญิงอีกแล้ว) ว่าไป สยามพารากอน 
กระเป๋าก็บอกว่า คนละ 14 บาท ก็จ่ายกันไปค่ะ จนจะถึงสถาณที่หมาย
ป้ายรถเมล์ จอดที่ สยามเซ็นเตอร์ คนก็ลง ๆ กันไป พวกเราก็นั่งกันอยู่ค่ะ เพราะกะจะลงป้ายหน้า จะไปพาราก้อน
ป้ายนั้นมันใกล้กว้า (ตั้งใจไปธนาคารกรุงเทพ ประตูนั้นใกล้กว่า)
รถมันก็เริ่มเคลื่อนตัวเพราะคนลงเสร็จแล้ว เท่านั้นล่ะค่ะ !!!

กระเป๋ารถเมล์ : จอดๆๆๆ !!!!
(เสียงดังลั่นรถเลย  คนทั้งรถหันไปมองกระเป๋าว่าเกิดรัยขึ้น คนขับก็เบรคเอี๊ยอดดด!!)
แล้วกระเป๋ารถเมล์  ทำหน้าถมึงทึง เดินไปเดินมาหันหน้ามาทางเรา แล้วตะคอกขึ้นมาว่า 
กระเป๋ารถเมล์ : ถึงแล้วสยาม!! ลงได้แล้ว!! จะโกงกันหรอไง!!
พวกเรานั่งกันอยู่ก็หน้าเหวอ ๆ ก็ตอบไปว่า
เรา : จะไปพาราก้อนค่ะ กะจะลงป้ายหน้า  (เรากับเพื่อน ๆ ก็รีบลุกจากที่นั่ง)
กระเป๋ารถเมล์ : ป้ายหน้ามัน วัดปทุม!! อย่ามาโกง!! 

พวกเราก็รีบลงรถมา - - ก็หน้าเอ๋อ ๆ กันแบบ อะไรวะ!! พูดดี ๆ ก็ได้ แค่ป้ายเดียว ใครจะไปคิดโกง
ทุกทีลงป้ายนั้นก็ไม่เห็นเป็นไร แล้วมันก็ 14 บาทเท่ากัน!!  
แบบอายมาก ๆค่ะ เพราะป้าแกเล่นด่าไล่หลัง คนมองกันหมด จนรถขับออกไปก็ด่าต่อบนรถ  เพราะป้าแกเล่นมองออกมาชี้หน้าด่าไม่เลิก  เป็นอะไรมากไหมเนี่ย??

เดี๋ยวนี้คนเราใจร้อน เห็นแก่ตัว แล้งน้ำใจกันจัง 
ล่าสุด มีพวกมือดี ยิงน้ำกรดใส่คนไม่เลือกที่อีก โอยยย  สังคมไทยเราชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว 
ไปไหนมาไหน นอกจากจะต้องคอยระวังพวกมิจฉาชีพ ยังต้องมาระวังสุขภาพจิตเสียอีก

ขอบคุณพื้นที่เล็ก ๆ ที่ให้มาระบายนะคะ - - แบบไม่ไหวจริง ๆค่ะ ไม่อยากออกไปข้างนอกเลย กลัวสุขภาพจิตเสื่อม