ทำอย่างไรดี เมื่อลูกชายทำผู้หญิงท้อง ตอน 2 !!!

ไคที่ตามในตอนแรกก้คงพอจะเข้าใจเหตุการ์ณบ้างแล้วนะคะ เมื่อตอนเยนที่ผ่านมาพี่ได้โทหาลูกชาย เค้าได้บอกกับพี่ว่าตอนนี้แม่ของผู้หญิงได้พาลูกเค้าไปคุยข้างนอก ส่วนลูกพี่ก้รออยู่บ้านเพื่อน ระหว่างรอคำตอบนั้นพี่ก้เลยตัดสินใจโทไปหาแม่พี่ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่พี่ฟัง แม่พี่ก้บอกให้เก็บเด็กไว้เหมือนกัน แกยินดีและเต็มใจที่จะเลี้ยงเด็กที่กำลังจะเกิดมา พี่ดีใจมากที่เรื่องมันลงเอยได้ดี ที่เราจะมีคนมาดูแลเด็กแล้ว แต่ผลปรากฏว่าพอแฟนลูกชายกลับมา เค้าได้ตกลงกับแม่ของเค้าว่าจะเอาเด็กออกค่ะ !!!! พี่ได้ยินแล้วเสียใจมาก รู้สึกหดหู่อย่างที่สุด พร้อมกับขอสายผู้หญิง พยายามโน้มน้าวให้เอาเด็กไว้ พูดต่างๆนานา ตอนนี้อยากร้องให้ค่ะ ที่ความพยายามของเราไม่ได้ผล พูดอะไรไม่ออก เหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ทางตัวผู้หญิงเองก้อยากเอาลูกไว้ แต่ขัดแม่เค้าไม่ได้ เค้าจะพากันไปเอาเด็กออก วันอาทิตย์นี้ค่ะ อยากจะภาวนาให้เค้าคุยกับแม่ของเค้าอีกครั้งนึงด้วยเถอะค่ะ พี่เองก้โทหาแม่ของฝ่ายหญิงหลายรอบแล้ว แต่เค้าไม่ยอมรับสายเลยค่ะ นี่พี่จะทำอะไรไม่ได้เลยจิงๆเหรอค่ะ มันสุดแขนที่พี่จะยื้อไว้แล้วใช่ไม๊ค่ะ !!!

Discussion (27)

 ไม่ได้สนับสนุนการทำแท้งคะ แต่เคยมีคนรู้จักในกรณีที่ 1.เอาเด็กออกแล้วชีวิตดีขึ้น และ 2.เอาเด็กออกแล้วชีวิตตกต่ำ(ก็ไม่ได้ตกต่ำมากแต่ทำสิ่งใดก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ)

คือ ในกรณีที่ 1 ช ญ คู่นี้ยังเรียนมัธยมอยู่ แล้วบังเอิญตั้งครรภ์ ทั้ง 2 เป็นเด็กเรียนดีมาก(เกรดเฉลี่ย 4.00 เลยทีเดียว)แต่เรื่องแบบนี้ไม่เข้าใครออกใคร และหาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจเอาเด็กออก (โดยที่พ่อแม่ไม่ทราบ...ก็เป็นทางออกที่ไม่ดีนัก) แต่ก็ทำให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าพวกเค้าต้องร่วมกันรับผิดชอบในสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิต ต่างพากันมุ่งมั่น ตั้งใจเรียนและทำงาน จนมาถึงปัจจุบันนี้  ฝ่ายชายเป็นวิศวกร และฝ่ายหญิงเป็นพยาบาลค่ะ แต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่นน่ารัก และกำลังจะมีน้องด้วยกันแล้ว

และในกรณีที่ 2 ฝ่าย ญ พลาดท่าตั้งท้องขณะเรียนมหาวิทยาลัย เนืองจากใช้ชีวิตวัยรุ่นที่ผิดพลาด นี่ก็พ่อแม่ไม่ทราบ และดิ้นรนทำการเอาเด็กออก(เอง)จนสำเร็จในเดือนที่ 6 (อนาถใจมากคะ) ฝ่ายชายไม่รับผิดชอบใดๆ (หวังว่าน่าจะได้รับกรรมในซักวัน) ส่วนฝ่าย ญ จมทุกข์คะ จนฝ่าฟันชีวิตมาได้จนถึง ปัจจุบันเรียนจบ มีงานทำ แต่ชีวิตมักจะติดขัดอยู่เสมอ ครอบครัวก็ไม่ได้สุขสบายเสียที พ่อแม่แก่เฒ่าแต่ชีวิตก็ยังต้องดิ้นรนทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ และส่วนน้อง คนนี้ตอนแรกมีงานทำดี ดูจะมีอนาคตที่ดี เจอคนดีๆ แต่กะจะไปต่อโทต่างประเทศแต่เกิดปัญหาติดขัด ไม่ได้ไป  เลิกกับแฟน และตอนนี้ตกงานคะ  ชีวิตลุ่มๆดอนๆ ไม่มีความสุขเลย

ดิฉันก็ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับบาป บุญ คุณ โทษ กรรมเก่า หรือกรรมใหม่ที่ต่างฝ่ายต่างสร้าง ก็ไม่อาจรู้ได้ ก็ได้แต่เอาอุทาหรณ์เหล่านี้มาเตือนใจตัวเองคะ อย่างน้อยก็สะท้อนชีวิตในแง่มุมต่างๆได้เป็นอย่างดี 

และที่สำคัญคือ "ไม่สร้างกรรมดีที่สุดคะ" 

ฝากเตือนใจใครหลายๆคน ให้เลือกทางเดินชีวิตและแก้ปัญหาให้ถูกต้องด้วยนะคะ  ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้มากๆเลย แต่หากสุดท้ายเราทำสิ่งใดไม่ได้และมันเป็นการตัดสินใจของฝ่ายนั้น เราก็คงต้องปล่อยให้ บาป บุญ คุณ โทษต่างๆ ส่งผลด้วยตัวของมันเองคะ แนะนำได้อย่างเดียวคือ ในช่วงถอยห่างให้ฝ่ายหญิงตอนนี้ไปวัดแผ่เมตตาทำบุญๆๆๆ ให้ฝ่ายหญิง ทั้งตัวแม่ ตัวน้อง (ช่วยในด้านจิตใจของเราได้คะ บางทีผลบุญอาจไปช่วยทำให้เค้าเปลี่ยนใจ ) หรือหากมันทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ต้องทำบุญให้น้องตัวน้อยอโหสิให้เราและลูกชาย มากๆ เลยคะ 

ถ้าไปที่เชียงใหม่ วัดเยอะมากคะ เช่นวัดพระสิงห์ (พระอารามหลวงชั้นเอก) หรือวัดพระธาตุดอยสุเทพ(พระอารามหลวงชั้นโท) ก็ได้คะ ไปง่ายและสะดวกมาก  

สู้ๆนะคะคุณแม่ 



อ้อ ลืมบอกไป แจ้งตำรวจไปก็เท่านั้นค่ะ
ทางฝ่ายชายผิดตลอดอย่างแน่นอน เผลอๆคุณแม่ฝั่งนั้นจะแจ้งความกลับว่าไปข่มขืนลูกสาวเขาอีก
และการเอาเด็กออก ไม่ว่าโรงพยาบาลไหนก็ทำได้ค่ะ ขอแค่ผู้ปกครองเซ็นยินยอม
คุณคงต้องยอมรับค่ะว่า การมีลูกชาย หากไปทำสาวคนไหนท้อง ร้อยทั้งร้อยผิดตลอดค่ะ
เราคิดว่า คนเป็นแม่ย่อมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกสาวของตัวเองค่ะ
คุณจะมามองว่าทางฝั่งนู้นเขาใจร้ายก็ไม่ถูกหรอกค่ะ
คิดดูนะคะ มันไม่ใช่แค่อุ้มท้องเก้าเดือน เอาเด็กไปให้แม่คุณเลี้ยงแล้วเรื่องจะจบ
ระหว่างเก้าเดือนนั้นล่ะคะ พ่อแม่เขาจะทำยังไง ถ้าใครเห็นลูกสาวเขาก็จะถูกเอาไปนินทาเสียชื่อ
การถูกนินทาอาจดูเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดมา
แต่คุณต้องมองในมุมกลับกันบ้างค่ะ ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนอยากให้ลูกสาวเจอเรื่องแบบนั้น
ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน เพื่อนที่โรงเรียน ไหนจะโรงเรียนอีกล่ะ ดร็อปมาอุ้มท้อง ฯลฯ
มันเยอะมาก.... มากจริงๆค่ะ เหตุผลที่ฝั่งนู้นไม่อยากให้เก็บไว้
บอกตรงๆ เลิกหวังเถอะค่ะ
คุณไม่มีวันโน้มน้าวใจคนเป็นแม่ที่ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่"คิด"ว่าที่ดีสุดสำหรับลูกสาวของตัวเองได้หรอกค่ะ

ที่พูดมา อาจฟังดูใจร้าย
แต่เป็นประสบการณ์ตรงที่เราพบมา ไม่ได้เกิดกับเราเอง แต่เกิดกับเพื่อนสนิทของเรา
แต่แม่เขาใจแข็งกว่ามากค่ะ เอาออกในวันถัดไปเลย
และไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกผิด ทุกวันนี้ก็ยังไปนั่งสมาธิทำกรรมฐานให้น้องเขาอยู่

เด็กที่เกิดมาไม่ผิดหรอกค่ะ... แต่ผิดที่เกิดมาไม่ถูกเวลา
จังหวะไม่ดี.... สังคมเรามันก็แบบนี้แหละค่ะ
ชื่อเสียง หน้าตา ใครบอกว่าไม่สำคัญ
ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองถูกตราหน้าไปตลอดชีวิตหรอกค่ะว่า
"ท้องก่อนแต่ง ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ"
เหมือน คห.2 ค่ะเคยใช้วิธีนี้กับแฟนเก่ามาแล้ว(เพราะแฟนเก่าเราทำผู้หญิงท้องแล้วจะให้ไปทำแท้งเพื่อที่จะคบกับเราเหมือนเดิม) อย่างเดียวที่ทำได้คือขู่ไปเลยค่ะ คนแบบนี้กลัวเสียหน้ามากกว่ากลับบาป แต่ถ้าใช้กฎหมายแบบนี้รับรองได้ว่าเค้าคงกลัวมากกว่า เพราะถ้าเรื่องถึงตำรวจความเสียหน้าจะมีมากกว่าเป็นร้อยเท่าค่ะ ปัญหาตอนนี้สำหรับทางนั้นมันคือเรื่องอายทางผู้หญิงเค้าคงไม่อยากให้เก็บไว้ เพราะเด็กผู้หญิงต้องอยู่ที่นั่นถ้าพี่ทำใจยอมรับได้ในเรื่องของภาระที่จะเอาเด็กผู้หญิงมาอยู่กับพี่จนกว่าจะคลอดแล้วก็เอาเด็กที่เกิดมาไว้ที่ กทม. จะดีไหมคะ พี่ลองให้ข้อเสนอนี้กับทางนั้นดูนะคะ..แต่ถ้าเค้ายังดึงดันที่จะทำอยู่เราคงต้องมาหาทางออกกันใหม่ เรายังพอจะมีเวลาจนกว่าจะถึงวันอาทิตย์ไม่ใช่หรอคะ ---อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ สู้ๆๆๆค่ะ ^^ 
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ..ลองเกลี่ยกล่อมแฟนลูกอีกครั้ง คุยกับแฟนลูกอย่างเดียวเลยพูดเน้นถึงบาปบุญ
เวรกรรม เอาหนังสือเรื่อง ริวจิตสัมผัสดู คุณริวจะเน้นเกี่ยวกับเรื่องนี้มากๆ  
พยายามโน้มน้าวใจแฟนลูกให้ได้มากๆนะค่ะ ถ้า แฟนลูกเค้าเข้มแข็งก็น่าจะมีแรงต้านมากขึ้น ...
...แล้วก็ อย่าถึงขั้นไม้แข็งเลยค่ะ อย่าให้หนีตามกันไป เดี๋ยวมีปัญหาทางกฎหมาย ถึงแม้จะอายุ 20 แล้วก็ตามค่ะ