รีวิว หลังจากไปต่อผมมา ดูไว้เป็นทางเลือกได้น๊า

หลังจากที่เราสืบ เสาะ เจาะ ค้นหาร้านต่อผม จากการถามคนรู้จักที่เคยมีประสบการณ์และรีวิวต่างๆจากหลายๆเว็บ จะบอกว่าเราหาข้อมูลเยอะจิงๆ หาอยู่ประมานเดือนนึงอ่ะ ที่หานานและเยอะขนาดนี้เพราะเราต่อผมครั้งแรกในชีวิต เพราะเราผมสั้นมาตลอดเกือบ10ปี (ตอนนี้อายุเรา22 --" แก่จิงจัง!! ) ขนาดขึ้นปี3แล้วยังผมสั้นเป็นเด็กมัธยมอยู่เลย TT อันที่จิงก็อยากไว้ผมยาวเหมือนกัน แต่คงมีหลายๆคนที่เป็นแบบเราคือ พอมันเริ่มยาวแล้วรู้สึกอึดอัด รู้สึกหนักหัวและรำคาญผมตัวเอง ก็เลยจัดการหั่นมันซะเลย เราทำเป็นแบบนี้อยู่นานหลายปีเลยทีเดียว จนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไปเลย5555
จนวันนึงก็คิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่เราจะหาทางลัดให้ผมมันยาวทันใจ แล้วเราก็นั่งหารีวิวจากเว็บต่างๆนาๆแต่ก็ไม่ได้จิงจังอดหลับอดนอนหา ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมพอดีเลยมีโอกาสเล่นคอมทุกวัน พอว่างจากการดูทีวี เล่นเกมส์และกินแหลกลานจนอ้วนเป็นหมูTT ก็searchร้านต่อผมและวิธีการต่อผมในกูเกิ้ล พอมีโอกาสเจอเพื่อนเจอพี่เจอน้องก็ถามเค้าว่าเคยต่อผมมั๊ย ต่อแล้วเป็นยังไง ต่อร้านไหนดี และแล้วเราก็เจอร้านที่น่าจะโอเคกับเราและน้องเงินในกระเป๋าของเราด้วย โฮะ โฮะ^^" เพราะบางร้านดูจากรีวิวแล้วดีจิงแต่ราคาแบบว่าต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะปล้นร้านทองร้านไหนดี--" คือแพงเกินเด็กที่ยังขอตังพ่อตังแม่แบบเรา
แต่เราก็หารายได้พิเศษในช่วงปิดเทอมเพื่อต่อผมโดยเฉพาะเลย เพราะเกรงใจพ่อกะแม่จิงจัง --" แหล่งที่เค้าว่าดีและราคาโอเคก็จะอยู่ตรงแฟชั่นมอล์(อนุสาวรีย์ชัย) ชั้น2 ร้านจะเยอะมากกกกก!!! ขอบอกว่าเยอะจิงๆ ร้านมันจะอยู่ติดๆกัน ถ้าใครบังเอิญเดินผ่านแถวนั้น ร้านต่อผมเกือบทุกร้านแทบจะดึงเราเข้าไปในร้านเลยทีเดียวและอีกที่นึงคือแถวเดอะมอลบางกะปิ(อันนี้เพื่อนหลายๆคนบอก)แต่ร้านมันจะกระจายๆกันอยู่ เราก็ไม่รู้ว่าร้านมันอยู่ตรงไหนมั่งเพราะเราไม่ค่อยได้ไปแถวนั้นแล้วมันก็ไกลจากบ้านเรามากกกกก ประมาณต้นเดือนพฤษภา เราก็ได้ฤกษ์ไปต่อผมซักที หลังจากที่ขี้เกียจมานาน อิอิ ร้านที่เราไปต่อผมชื่อร้านพี่วี (ลองsearchดูในกูเกิ้ลว่า ร้านพี่วี มันจะขึ้นมาเยอะพอดูเลยแหละ) บรรยากาศข้างในจะเป็นสีชมพู เค้าว่ากันว่าต้องโทไปจองเพราะคนจะเยอะมาก เราก็จัดเลย โทไปประมาณ9โมงเช้า เสียงพี่เค้างัวเงียมาก** น่าจะนอนยังไม่ตื่น แต่พี่เค้าก็ไม่ได้ด่าเราที่โทไปปลุกเค้า (อาจจะด่าในใจรึป่าว ประมาณว่าอิเด็กปลวกนี่โทมาไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องTT)เราก็บอกพี่เค้าว่าจะไปช่วงบ่ายๆ พี่เค้าก็โอเค
พอไปถึงโชคดีมากที่มีลูกค้ากะลังต่อผมอยู่แค่คนเดียว เราไปนั่งรอประมาณ10นาทีก็ได้ต่อผมเลย จะบอกว่าผมเราเยอะมากกกกกกกกกก!!! เยอะจนพี่เค้าตกใจ555 ผมที่เราต่อยาว24นิ้ว ราคา2300 (เราดูในเว็บที่ลูกค้ามารีวิวร้านพี่วีเค้าบอก24นิ้ว2400 หวานหมูเลยเรา อิอิ)พี่เค้าไม่พูดพร่ำทำเพลง เลือกผมต่อมาเทียบกับสีผมเรา ผมเราเคยทำสีแล้วก็ดัดมาก่อน(ผมสั้นแล้วกระแดะดัดอีก--")แต่ย้อมและดัดมาเกือบ2ปีแล้ว เชื้อมันก็ใกล้หมดแล้วเหลือแค่ปลายๆ เราก็เลยเลือกสีเดียวกับปลายผมคือสีมันจะน้ำตาลอ่อนๆหน่อย และก็ต่อแบบผมตรง จากนั้นพี่เค้าจัดการต่อผมให้เรา ก่อนต่อผมเราบอกพี่เค้าว่าเอาแน่น อ้อ!!ลืมบอก เราต่อแบบกิ๊ฟนะเพราะมันน่าจะโอเคที่สุดและ
พอพี่เค้าต่อเสดพี่เค้าก็ให้เราสำรวจด้านหน้าด้านหลังว่าโอเคมั๊ย เราว่ามันก็โอเคแหละ ก็ไม่เคยผมยาวอ่ะเน๊อะ555 เลยดูแปลก แต่พี่เค้าต่อเนียนมาก แล้วเราก็ถามพี่เค้าว่าไอ้ผมต่อเนี่ยมันดูแลยังไง ลืมบอก!!!เราเป็นคนที่ชอบสระผมแล้วก็สระทุกวัน พี่เค้าบอกว่าก็ดูแลปรกติ สระผมทุกวันได้ ย้อม ดัด อบไอน้ำทำได้หมดเลย แต่ถ้าสระผมเสดแล้วใช้ไดร์เป่าจี้ตรงโคนผมที่เป็นที่เชื่อมระหว่างผมเรากับผมปลอมนั่นแหละ เพราะถ้ามันไม่แห้งแล้วเราทิ้งไว้ให้มันแห้งเองมันอาจจะเป็นเชื้อที่หนังหัวเราก็ได้(แอบน่ากลัวว!!)
แล้วเราก็ถามพี่เค้าว่า พี่ต่อให้หนูกี่ชั้นคะ พี่เค้าบอก6ชั้น!!!เพราะผมน้องเยอะมาก ขนาดพี่ซอยเอาไปบ้างแล้วนะ 555 แล้วเราก็จ่ายตังพี่เค้า ก่อนจ่ายเราก็ใช้ความแอ๊บแบ๋วที่มีอยู่ต่อราคาพี่เค้า(พี่เค้าคงอยากถีบเราออกจากร้าน555 ต่อให้6ชั้นแล้วมาต่อราคาอีก อีเด็กเวนนี่!!!!) แต่พี่เค้าใจดีมากกกก ลดให้เรา100บาทไทย รวมค่าเสียหายของเราในวันนั้นเป็นเงิน2200บาทไทย ก่อนจาก พี่เค้าบอกว่าถ้าผมหลุดก็ให้มาหาพี่เค้า พี่เค้าจะต่อกลับให้ฟรี แต่ต้องเอาผมที่หลุดมาด้วย(พี่เค้าใจดีจังงง อิอิ แอบเกรงใจ^^)

 

อันนี้ถ่ายตอนอยู่ปี3เทอม2 ช่วงกลางๆมกรา 2555 (หน้าปัญญาอ่อนอย่าว่ากันน๊า TT)

รูปนี้ถ่ายก่อนสงกาน 2555 (ผมเริ่มยาวเดิมกว่าหน่อยนึง)

รีวิว หลังจากไปต่อแล้ว (รุสึกหน้าตัวเองแปลกหน่อยๆ)

หลังจากต่อผมมาเราก็สระไดร์ๆๆทุกวัน แล้วก็ใช้พวกเซรั่มบำรุงผม ทรีทเม้น (ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยใช้เนี่ยแหละ--") เพื่อนที่เคยไปต่อผมมันแนะนำมาว่าผมต่อมันจะแห้งเสียง่ายมากเพราะมันไม่มีรากผมเหมือนผมในหนังกระบาลของเรา ฉะนั้นต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เอิ่มมม-- ขนาดผมที่อยู่บนหนังกระบาลของเราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากว่า22ปี มันยังไม่เคยได้สัมผัสของบำรุงผมอะไรพวกนี้เลยแล้วอิผมต่อมันวิเศษมาจากไหน!!! มันเพิ่งมาอาศัยได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องดูแลมันเยี่ยงเจ้านาย ถ้าผมมันมีชีวิตจิตใจมันคงงอลน่าดูTT แต่ถึงผมเรามันโดนดัดโดนย้อมมาสาระพัด อีกทั้งยังโดนชะล้างและโดนเป่าร้อนทุกวัน มันก็ไม่เค้ยยย ไม่เคยแตกปลายหรือแห้งเสียให้เราต้องหนักใจ เราโชคดีมากที่ผมเรามันไม่เคยมีปัญหาจุกจิก ไม่เคยแพ้แชมพูนู้นนี่เลย  


เราสระทุกวันๆตั้งแต่ต่อผมมาประมาณ1อาทิตย์ เราสังเกตว่าผมมันเริ่มแข็งกระด้าง ลมพัดก็ไม่ค่อยไปตามลมเหมือนตอนต่อมาแรกๆ อ้อ!!! เราลืมบอกไปว่า ร้านที่เราไปต่อผมมาเนี่ยพี่เค้าใช้ผมแท้แน่นอน เราเคยเข้าไปอ่านในเว็บๆนึง จำชื่อไม่ได้ละว่าเป็นเว็บไหน เค้าบอกว่าถ้าเป็นผมจิงผสมกับผมสังเคราะห์ที่ทำจากเส้นไหม เวลาสระหรือลมพัดมันจะยุ่งเอาการเลยแหละ ใครที่จะหาร้านต่อผมก็ถามเจ้าของร้านด้วยนะคะว่าใช้ผมแท้รึป่าว เพราะบางร้านแอบย้อมแมวเอาผมสังเคราะห์มาผสม ที่เราค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นผมแท้100% ก็เพราะผมมันไม่ค่อยพันกัน อาจจะมีพันกันบ้างช่วงสระผมเสร็จใหม่ๆ วิธีแก้ไขผมต่อพันกันหลังจากสระผมเสดใหม่ คือเราต้องหวีๆๆๆๆ หวีให้มันเลิกพันกัน ค่อยๆหวีนะจ๊ะ ไม่อย่างงั้นผมต่อมันจะหลุดไวกว่าเดิมแล้วก็อยู่กับเราได้ไม่นาน(อันที่จิงก็ เสียดายตังที่ไปต่อมาอ่ะนะ แหะ แหะ) ก็ต้องดูแลรักษามันดีๆหน่อย พอเริ่มสังเกตว่าผมต่อมันเริ่มกระด้างแล้วก็แตกปลายเยอะมากกก เราเหนแล้วตกใจมาก เพราะผมเราไม่เคยแตกปลาย เราก็หากรรไกรมาเลมๆๆ เอาผมแตกปลายออก แล้วก็เริ่มตระหนักแล้วว่าต่อมาได้อาทิตเดียวเอง TT มันจะไปจากเราแล้วอ่อTT หลังจากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลการบำรุงผมต่ออย่างจิงจังอีกครั้ง บางคนก็ว่าผมที่ต่อถ้ามันแห้งเสียแล้วถึงเราจะบำรุงแค่ไหนมันก็ไม่กลับคืนมาปลิวไสวเหมือนธงชาติไทยเหมือนเดิม บางคนก็ว่าเล็มผมที่แตกปลายไปเรื่อยจนจะถึงผมจิงๆอยู่แล้ว!!! ว๊ากกกก!! ยิ่งอ่านยิ่งจิตตก ใจแป้ว ทำหน้าหมาหง๋อยเหมือนไม่ได้เจอเจ้าของมาสามปีกว่า แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ ไม่หงไม่หามันละไอ้วิธีการบำรุงผมต่อเนี่ย เราเลยทำการปฎิวัติด้วยตัวเองซะเลย ไม่ง้อทฤษฎีใครด้วย!!! (อันที่จิงก็แอบหวั่นว่าจะรอดมั๊ยเรา--") เรายอมทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาตลอด22ปี คือสระผมวันเว้นวันนน TT (คนที่สระผมทุกวันคงเข้าใจความรู้สึกของเราใช่มั๊ย แงแง) หลังสระผมทุกครั้งเราจะหมักผมด้วยทรีทเม้นตลอด 

ทรีทเม้นทุกยี่ห้อเราว่ามันก็ดีทุกยี่ห้อนะ แต่เราใช้ทรีทเม้นของโลแลนที่เป็นกระปุกสีเขียวๆอ่ะ หาซื้อได้ตามเซเว่นหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป ที่เลือกใช้อันนี้ก็เพราะมันหาซื้อง่ายดี แล้วก็ราคาไม่แพง ประมาณ50มั๊ง ไม่เกินนี้ กลิ่นไม่ฉุนธรรมชาติดี หมักทิ้งไว้ประมาณ2นาทีแล้วก็ล้างออก หลังล้างทรีทเม้นออกหมดแล้วผมมันจะลื่นๆไม่ค่อยกระด้างแบบเดิมละ แล้วประเด็นสำคัญเวลาหมักทรีทเม้นให้เน้นช่วงกลางจนถึงปลายผมเท่านั้น!! ห้ามหมักทั้งหัว เพราะถ้าหมักทั้งหัว กิ๊ฟที่ต่อผมมันจะลื่นแล้วก็หลุดได้ง่าย

รีวิวครีมหมักผมโลแลนกระปุกเขียว

หลังจากล้างทุกสัพสิ่งเสดสิ้นแล้วก็บิดผมเบาๆ ค่อยๆบิดนะคะ เพราะถ้าเราบิดแรงๆสารบำรุงที่ผมควรจะได้รับมันไหลออกไปพร้อมกับน้ำ น้ำจะช่วยให้สารบำรุงผมที่มาจากแชมพูแล้วก็ทรีทเม้นที่เราหมักไปตะกี๊ซึมเข้าเส้นผม ฉะนั้นค่อยๆบิดนะจ๊ะ 


พอบิดผมให้หมาดๆแล้วเอาผ้าขนหนูซับ ย้ำ!!! ซับนะจ๊ะ อย่าถูๆสีๆ ไม่เช่นนั้นเกร็ดผมจะเปิดได้ง่ายกว่าเดิม พอเราไดร์ผมไอ้ความร้อนที่เป่ามันจะทำลายผมเต็มๆ เพราะเกร็ดผมถูกเปิดออกหมด ไม่มีอะไรมาเคลือบผมชั้นใน 
จากหวีๆๆๆๆ ตรงไหนที่มันพันกันก็หวีให้มันคลายจากกันให้หมด อย่างหลงเหลือไว้ จากนั้นเราก็ใช้เซรั่มของโดฟ 

เซรั่มของโดฟตัวนี้มันจะช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม (ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้ทำไม 5555) ที่ใช้ก็เพราะพี่สาวของเพื่อนเอามาฝากเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีขายตามห้างร้านทั่วไปรึป่าว ยังไงก็ไปสอยมาลองดูได้ ราคาก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ เพราะได้มาฟรี อิอิ ได้มาแล้วก็ต้องใช้เดี๋ยวเสียของ 5555 แต่ใช้แล้วผมมันนุ่มลื่นขึ้นนะเออ ทำเป็นเล่นไป ไม่เหนียวเนอะเหมือนน้ำมันใส่ผมด้วย (ส่วนตัวแล้วไม่ชอบเอาอะไรมันๆมาใส่หัว เพราะรู้สึกเหมือนไม่ได้อาบน้ำ ผมมันจะมันๆเงาเหมือนไม่ได้สระผม อันนี้คิดไปเองนะ 5555) ยังไม่หมดแค่นั้น เราก็ต่อด้วยเซรั่มอีกตัวมันชื่อยี่ห้อชิ้ลกี้ลักษณะมันก็จะเป็นขวดยาวๆสีเขียวๆ

ตัวนี้แอบเอาของยายมาใช้ พอดียายเราเค้าเปิดร้านเสริมสวย เลยมีของบำรุงผมเยอะแยะเต็มไปหมด บางอันก็ใช้มั่งไม่ใช้มั่ง บางตัวก็สิบปีใช้ที(ไม่ถึงสิบปีหรอก พูดเว่อร์ไว้ก่อน 555) แต่เราก็เพิ่งมายุ่งกับร้านของยายก็คราวนี้แหละ เพราะไม่เคยเรียกร้องขอสินค้าตัวไหนจากยายเลย ก็เลยได้เครดิตของฟรี(อีกแล้ว)นิดหน่อย ไอ้ตัวนี้มันเป็นสาหร่ายทะเลสบายรูสิท่า เย้ยย!! สาหร่ายทะเลเฉยๆ555 มันจะช่วยปรับสภาพผม ทำให้ผมนุ่มมีน้ำหนัก ป้องกันเส้นผมจากแสงแดด สรรพคุณที่กล่าวมาจากข้างขวดล้วนๆ อิอิ ตัวเซรั่มมันจะเป็นน้ำเขียวๆเหมือนขวดเลย

ตัวนี้กลิ่นค่อนข้างแรงหน่อยแต่ไม่มาก ใช้น้อยๆตามรูปก๊พอ เนื้อครีมมันเข้มข้นอยู่แล้ว ใช้นิดเดียวก็ทั่วหัว เราใช้แล้วรู้สึกผมมันจะนุ่มขึ้นมาอีกนิด แล้วเราก็จะเน้นตรงปลายๆผม เรารู้สึกว่าตัวนี้มันช่วยให้ปลายผมต่อมันไม่แตกปลาย แต่ก็ยังมีแตกปลายอยู่บ้างแต่ไม่เยอะมหาศาลเหมือนก่อน ราคาไม่แน่ใจ แต่น่าจะมีขายตามร้านทั่วไป แต่เซเว่นไม่มีนะ

เอ้อ!!จะบอกว่าเซรั่มหรือของประทินผมทุกอย่างยกเว้นแชมพู คือใส่ของบำรุงผมให้มันห่างๆจากไอ้ตัวกิ๊ฟที่ต่อผมประมาณ1นิ้วครึ่ง ไม่ต้องขนาดเอาไม้บรรทัดมาวัดเปะๆนิ้วครึ่งก็ได้ กะเอาโดยเอามือเราเนี่ยแหละรวบผมไปข้างหลัง จากมือเราถึงปลายผมนั่นแหละคือส่วนที่เราจะใช้ของบำรุงมัน ส่วนที่อยู่เหนือมือก็ปล่อยไหล แค่สระให้มันสะอาดก็พอ

ตัวสุดท้ายแล้ว(เหมือนจะเยอะ แต่เพื่อความอยู่รอดของผมต่อ เรายอมTT) ตัวนี้ได้มาจากร้านยายอีกเช่นกัน ยี่ห้อมันคือเพียวเต้ (เพิ่งเคยได้ยินชื่อยี่ห้อนี้เหมือนกัน) ไม่แน่ใจว่ามันมีสีอะไรมั่ง แต่ที่ใช้อยู่เป็นขวดสเปรย์สีส้ม

มันเป็นอาหารผมสูตรน้ำผึ้งผสมโยเกิร์ต เราชอบตัวนี้มากกก วันนึงจะฉีดประมาณ2ครั้งเพราะฉีดแล้วรู้สึกดี 555 เราว่ากลิ่นมันเหมือนสเปรย์จัดแต่งทรงผมอ่ะ ส่วนตัวแล้วรุสึกมันเหนียวนิดนึง นิดเดียวจิงๆ อ่านสรรพคุณมันแล้วก็เวิร์คดีอ่ะ มันจะช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสียจากการไดร์ รีด ความร้อน ย้อม ดัด สารพัดสารเคมี(อันนี้เติมเอา) และที่สำคัญที่เราอ่านแล้ว รู้สึกเออ!น่าลองหว่ะ คือช่วยปิดเกล็ดผมให้เรียบสนิท เย้ยย!! อะไรมันจะขนาดนั้น แต่ใช้แล้วมันโอเคเลยอ่ะก็คือเวลาเราไดร์ผมเสดใช่ป่ะ แล้วมาลูบผม มันไม่แข็งทื่อเหมือนก่อนแหะ เวลาฉีดเราก็จะฉีดกลางๆผมแล้วก็ขยำๆ ฉีดขยำๆประมาณ3ที แล้วก็จะเน้นตรงปลายผม


เสร็จสิ้นพิธีการซะที--" แอบเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย แต่เวลาทำจิงๆก็รู้สึกสงบเหมือนกันนะเนี่ย(เง้อออ!! ไม่เกี่ยวเลย555) ส่วนใหญ่เราจะสระผมตอนกลางคืนเพระาสะดวกสุด แต่ข้อเสียก็มีบ้าง คือบางวันขิเกียจ ง่วงนอนจัดๆ ก็จะเป่าผมตรงโคนแห้งไม่สนิทแล้วก็นอนเลย เสี่ยงเหมือนกันแต่โชคดีที่เชื้อรายังไม่ถามหา แต่ถ้าวันหยุดเสา อาทิต หรือไม่มีเรียนก็จะสระช่วงเช้าผมจะได้แห้งทั้งหัว

วิธีการเลี่ยงไดร์ร้อนๆของเราก็คือ ตอนที่เรากำลังละเลงเซรั่มทั้งสามหน่อทีละตัว เป็นขั้นเป็นตอน เราก็จะเปิดพัดลมจ่อหนังหัวไปด้วย ผมมันก็จะค่อยๆแห้งไปในตัว แต่ก็ไม่แห้งสนิทหรอก ก็ต้องใช้ไดร์เป่าอยู่ดี วันไหนว่างๆก็ใช้ไดร์ที่ความร้อนไม่มากเป่าย้ำๆแค่โคนผม ส่วนกลางผมจนถึงปลายผมเราก็จะใช้พัดลมเป่าเพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยTT แต่ถ้าวันไหนรีบๆก็แอบไดร์ทั้งหัวเหมือนกัน 

หลังจากที่เราได้ผ่านร้อนผ่านหนาวกับการปฎิวัติเพื่อความอยู่รอดของผมต่อมาเกือบสามสัปดาห์ ใครจะเชื่อว่าผมต่อที่มันเกือบสิ้นชีพไปแล้วกลับมาพริ้วปลิวไสว นุ่ม ลื่น อาจจะไม่เท่าตอนที่ต่อมาวันแรก แต่ก็ดีขึ้นจากวันที่จิตตกเยอะอ่ะ ตัวช่วยพวกนี้มันช่วยได้นะเออ ใครที่ท้อแท้ หมดหวังกับผมต่อก็ใช้วิธีเดียวกับเราก็ได้น๊า ไม่คิดตัง อิอิ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณเหมือนของเราเป๊ะๆเลยก็ได้ ใครที่มีของที่เจ๋งหรือสรรพคุณมัน เออ!!น่าลองซักกึ๊บ หรือว่าใครที่ใช้ผลิตภัณที่เจ๋งๆอยู่แล้วก็แชร์กันได้ค่ะ จขทก.จะได้ไปหามาลองใช้มั่ง เผื่อจะเวิร์คกว่าเดิม อิอิ