--*RV*-- DHC vs Neutrogena Cleansing Oil
PlA*44Cleansing Oil ดูเป็นหนทางในการล้างหน้าแบบสะอาดล้ำลึก สำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็ว
วันนี้ปลามีโอกาสลองผลิตภัณฑ์ของ DHC ค่ะ
ทั้ง Cleansing Oil และ Eyelash Tonic
ก็เลยถือโอกาสรีวิวเปรียบเทียบ Cleansing Oil
ระหว่าง DHC vs Neutrogena ซะเลย
เกริ่นวิธีการ + ข้อดีของ Cleansing Oil
วิธีการ:
-กดปั๊ม 1-2 ครั้งลงบนฝ่ามือในขณะที่มือยังแห้ง
-นวดเบาๆ ลงบนใบหน้าในขณะที่หน้ายังแห้ง เช่นเดียวกัน
-นวดๆ วนๆ จนเครื่องสำอางค์เริ่มหลุดออก
-ควักน้ำเบาๆ จนกลายเป็นน้ำนมสีขาว
-แล้วนวดต่ออีกสักพัก แล้วค่อยล้างออกตามปกติ
ทั้งนี้จะใช้โฟม/เจลที่ใช้อยู่เป็นประจำหรือไม่ อย่างไร?
แล้วแต่ความรู้สึก และความต้องการของแต่ละบุคคล
แต่สำหรับปลา รู้สึกว่า Cleansing Oil ตัวเดียว ก็เอาอยู่แล้วค่ะ
ข้อดี:
-ลดการเสียดสีที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ ของสำลีกับใบหน้า สำหรับคนที่ใช้ออยรีมูฟเวอร์
-ประหยัดสำลีไปได้เยอะมากจริงๆ ค่ะ
-ประหยัดเวลา รวดเร็ว ทันใจ แต่สะอาดล้ำลึก
วิธีการ:
-กดปั๊ม 1-2 ครั้งลงบนฝ่ามือในขณะที่มือยังแห้ง
-นวดเบาๆ ลงบนใบหน้าในขณะที่หน้ายังแห้ง เช่นเดียวกัน
-นวดๆ วนๆ จนเครื่องสำอางค์เริ่มหลุดออก
-ควักน้ำเบาๆ จนกลายเป็นน้ำนมสีขาว
-แล้วนวดต่ออีกสักพัก แล้วค่อยล้างออกตามปกติ
ทั้งนี้จะใช้โฟม/เจลที่ใช้อยู่เป็นประจำหรือไม่ อย่างไร?
แล้วแต่ความรู้สึก และความต้องการของแต่ละบุคคล
แต่สำหรับปลา รู้สึกว่า Cleansing Oil ตัวเดียว ก็เอาอยู่แล้วค่ะ
ข้อดี:
-ลดการเสียดสีที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ ของสำลีกับใบหน้า สำหรับคนที่ใช้ออยรีมูฟเวอร์
-ประหยัดสำลีไปได้เยอะมากจริงๆ ค่ะ
-ประหยัดเวลา รวดเร็ว ทันใจ แต่สะอาดล้ำลึก
เรามาเห่อผลิตภัณฑ์ 2 ชิ้นนี้ก่อนค่ะ
DHC Cleansing Oil & Eyelash Tonic
ได้แต่ใดมา?? --- ญี่ปุ่น ทั้งสองชิ้นเลยค่ะ
DHC Cleansing Oil
กล่องกระดาษเรียบๆ สีขาวมิ้นท์
สลักรายละเอียดด้วยภาษาญี่ปุ่น ...อ่านออก แต่แปลไม่เข้าใจ ..ผ่าน~!
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการป้องกันคนแกะขวดไป
แอบชื่นชอบสไตล์ Packaging ของประเทศญี่ปุ่น เป็นการส่วนตัวค่ะ
รู้สึกว่าเค้าใส่ใจในรายละเอียดที่คนส่วนใหญ่มองข้าม
ดึงขวดออกมาเป็นขวดใส่ สีเหลืองเข้ม (ไม่ต้องคิดต่อว่าสีเหมือนอะไรนะคะ 555)
ปริมาณบรรจุภัณฑ์ 200mL.
DHC Eyelash Tonic
กล่องกระดาษสีขาวเรียบๆ ธรรมดา ที่เห็นครั้งแรกก็งง ว่า มันคืออะไรหว่า??
แกะออกมาเป็นมาสคาร่า เนื้อเจสใส มีกลิ่นอ่อนเบาๆ
ด้วยแปรงปัดสีใส สะอาดตา น่าใช้และน่าเชื่อถือ :)
Eyelash Tonic ขอทำเฉลยและรีวิวแยกอีกกระทู้นะคะ
เพราะต้องใช้เวลาพิสูจน์กันนิดนึง :)
เรามาเปรียบเทียบ Cleansing Oil
'' Neutrogena vs DHC ''
เพราะต้องใช้เวลาพิสูจน์กันนิดนึง :)
เรามาเปรียบเทียบ Cleansing Oil
'' Neutrogena vs DHC ''
ผู้เข้าแข่งขันในศึกครั้งนี้
Neutrogena - Deep Cleansing Oil (ปริมาณ 200mL.)
DHC - Deep Cleansing Oil (ปริมาณ 200mL.)
เนื้อผลิตภัณฑ์
สี - เหลืองอ่อน
กลิ่น - กลิ่นคล้าย Lemon มะนาวๆ (ออกทางเปรี้ยวๆ)
ปริมาณ - 200mL.
กลิ่น - กลิ่นคล้าย Lemon มะนาวๆ (ออกทางเปรี้ยวๆ)
ปริมาณ - 200mL.
เนื้อผลิตภัณฑ์
สี - สีใสแจ๋ว
กลิ่น - กลิ่นหอม นุ่มๆ นวลๆ เหมือนกลิ่นแป้ง
ปริมาณ - 200mL.
สี - สีใสแจ๋ว
กลิ่น - กลิ่นหอม นุ่มๆ นวลๆ เหมือนกลิ่นแป้ง
ปริมาณ - 200mL.
สมมติว่าเราล้างหน้าของเราด้วยเครื่องสำอางค์ที่จัดเต็ม
(กันแดด รองพื้น บลัช อายไลเนอร์ มาสคาร่า กาวติดขนตาปลอม ปาก)
เลยเขียนด้วยอายไลเนอร์ Lifeford ที่ว่าทนหนักทนหนา
ทนน้ำ ทนเหงื่อ ดำสนิท
ดูสิ!!! จะเป็นไง!
ฟาดออยล์ลงไปทั้งสอง ในขณะที่ผิวและมือของเรายัง "แห้ง"
ด้วยวิธีการ "วนๆ"
ไม่ใช่การถู!! นะคะ
วน วน วน วน
ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการล้างหน้าแบบถนอมผิวค่ะ
แน่นอนว่า เมื่อ Cleansing Oil โดนน้ำ จะกลายเป็นน้ำนมสีขาวๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิวเอาไว้
สังเกตได้ว่า DHC (ซ้าย) สีของน้ำนมค่อนข้างจางๆ แต่ในขณะที่ Neutrogena น้ำนมชัดเจนมากๆค่ะ
(ตัวอักษรลางๆ นั้น ปลาจงใจให้เห็นนะคะ ไม่ตกใจไปว่าเอ๊ะ ทำไมไม่สะอาด)
สรุป
*ผิวหน้าของปลา
เป็นคนผิวผสม ทั้งมันและแห้ง (มีขุยๆ ด้วย) , ไม่มีรอยแดง ด่าง ดำ, สิวขึ้นบ้าง 1-2 จุดตามอารมณ์
เป็นคนผิวผสม ทั้งมันและแห้ง (มีขุยๆ ด้วย) , ไม่มีรอยแดง ด่าง ดำ, สิวขึ้นบ้าง 1-2 จุดตามอารมณ์
*ราคา - DHC น่าจะประมาณ 1,300 บาท (ไม่แน่ใจค่ะ ซื้อที่ญี่ปุ่น)// Neutrogena - 600 บาท
*สี - DHC สีเหลือง// Neutrogena สีใส๊ใส
*กลิ่น - DHC กลิ่นออกมะนาว เลม่อน// Neutrogena กลิ่นหอมๆ นุ่ม เหมือนแป้ง ชวนเพลิน~
*เนื้อผลิตภัณฑ์ - DHC น้ำค่่อนข้างเหลวกว่า// Neutrogena น้ำเหลวหนืดกว่า DHC
*ปริมาณ - 200 mL. เท่ากันทั้งสองขวด
*ความสะอาด - ให้ความสะอาดเท่ากันค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่เวลาของแต่ละคน ว่าจะนวดนานแค่ไหน
*ความชุ่มชื่น -
DHC - ให้ 4/5 เพราะ (หลังล้างหน้า แบบไม่ใช่โฟม/เจลล้างต่อ) รู้สึกผิวค่อนข้างตึงเล็กๆ ต้องรีบทามอยซ์เจอไรซ์เซอร์ต่อทันที ...เข้าใจว่า การที่มีน้ำนมน้อย หรือไม่เข้มข้น ทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื่นไม่เพียงพอ + กลิ่นไม่ค่อยหอมด้วย..
Neutrogena - ให้ 5/5 เพราะ (หลังล้างหน้าแบบไม่ใช่โฟม/เจลล้างต่อ) รู้สึกผิวนุ่ม ลื่นๆ (ครั้งแรกที่ใช้อาจรู้สึกว่า เหมือนล้างไม่สะอาด) จนตอนนี้ใช้จะหมดขวดแล้ว ก็รู้สึกว่าผิวดีขึ้น ละเอียดขึ้น (มีคนทักด้วย!) อาจเป็นเพราะความเข้มข้นของน้ำนมที่มีมาก ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ค่ะ
*เนื้อผลิตภัณฑ์ - DHC น้ำค่่อนข้างเหลวกว่า// Neutrogena น้ำเหลวหนืดกว่า DHC
*ปริมาณ - 200 mL. เท่ากันทั้งสองขวด
*ความสะอาด - ให้ความสะอาดเท่ากันค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่เวลาของแต่ละคน ว่าจะนวดนานแค่ไหน
*ความชุ่มชื่น -
DHC - ให้ 4/5 เพราะ (หลังล้างหน้า แบบไม่ใช่โฟม/เจลล้างต่อ) รู้สึกผิวค่อนข้างตึงเล็กๆ ต้องรีบทามอยซ์เจอไรซ์เซอร์ต่อทันที ...เข้าใจว่า การที่มีน้ำนมน้อย หรือไม่เข้มข้น ทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื่นไม่เพียงพอ + กลิ่นไม่ค่อยหอมด้วย..
Neutrogena - ให้ 5/5 เพราะ (หลังล้างหน้าแบบไม่ใช่โฟม/เจลล้างต่อ) รู้สึกผิวนุ่ม ลื่นๆ (ครั้งแรกที่ใช้อาจรู้สึกว่า เหมือนล้างไม่สะอาด) จนตอนนี้ใช้จะหมดขวดแล้ว ก็รู้สึกว่าผิวดีขึ้น ละเอียดขึ้น (มีคนทักด้วย!) อาจเป็นเพราะความเข้มข้นของน้ำนมที่มีมาก ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ค่ะ
การรีวิวของปลาในวันนี้ก็จบแล้วจ้าา
หวังว่าเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอให้มีผิวสวยผิวใสกันถ้วนหน้าจร้าา
ขอบพระคุณค่ะ
หวังว่าเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอให้มีผิวสวยผิวใสกันถ้วนหน้าจร้าา
ขอบพระคุณค่ะ
Discussion (4)
@TUL - โอ้้ ขอบพระคุณมากค่ะ
มีขายที่วัตสันด้วยค่ะ :)
นูโทรจิน่ามีขายในวัตสันหรือบูทมั้ยคะ
ไม่ลังเลแล้วค่ะ ไปจัดมาเลยดีกว่าาาา