ถ้าจะลดน้ำหนักจำเป็นต้องกินให้ถึงค่า BMR ด้วยเหรอคะ

จขกทมีค่า BMR ประมาณ 1500ค่ะ และออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานทุกวัน วันละ 50นาที

การจะกินให้ถึงค่า BMR มันอยากมากเลยค่ะเพราะอาหารที่จขกทกินแคลอรี่มันไม่เยอะเลย จขกทไม่ชอบทานข้าวอยู่แล้ว

มือเช้า ปลานึ่งครึ่งตัว โกโก้ชงเองไม่มีน้ำตาล ซีเรียลบาร์ 2แท่ง

เที่ยง ผักต้ม ปลานึ่ง แตงโม โค้กซีโร่ ช๊อกโกแล็ต 2-3ชิ้นเล็กๆ

เย็น ปลานึ่ง ต้มจืด ผักต้ม แอปเปิ้ล โกโก้ชงเองไม่มีน้ำตาล

ซึ่ง แคลอรี่มันไม่น่าจะถึง 1500แน่นอนค่ะ แต่จขกทก็อิ่มมากมาย  ถ้าไม่กินให้ถึงค่า BMRนี่จะโยโย่เหรอคะ  ถ้าอย่างนั้นเรายัดพวกขนม ช๊อกโกแล็ตให้มันเกินค่า BMR ได้มั้ยคะ

Discussion (6)

ไม่ต้องหรอกค่ะ 


_________________________________________________________
ปล.รู้สึกว่ามาช้าไป
เท่าที่เคยอ่านมานะคะ.. ค่า BMR จะเป็นพลังงานที่ร่างกายเราใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ตลอดทั้งวันซึ่งขึ้นอยู่กับกิจกรรมและงานที่ทำอยู่ด้วย อย่างเช่น คน2คนที่ นน ส่วนสูง และอายุเท่ากัน คนนึ่งทำงานออฟฟิตนั่งโต๊ะเป็นส่วนใหญ๋ กับอีกคนทำงานที่ต้องเดินทั้งวัน ค่า BMR ของคนที่เดินทั้งวัน จะมากกว่า แต่ทั้งนี้ ถ้าเราต้องการลด นน เราต้องจำกัดจำนวน แครอรี่ ที่เข้าไปในร่างกายให้น้อยกว่า ค่า BMR เพื่อให้ร่างกายไปดึงไขมันตามหน้าท้องแขนขาออกมาใช้ ส่วนเรื่อง โยโย่ เรามักจะพบกันในกลุ่มคนที่กินยาลด นน เนื่องจากยากกลุ่มนี้มักจะมีสารที่กดการทำงานของสมองที่ควมคุมเรื่องการหิว ซึ่งในช่วงแรกที่เรากินยาลดความอ้วนไป จะไม่ค่อยรู้สึกหิว แต่หลังจากเลิกกินยา ต่อมหิวที่ถูกกดไว้ จะโตขึ้น หรือ ทางการแพทย์เรียกว่า duplicate ขึ้น จึงทำให้เราหิวหนักกว่าเดิมอาจเพิ่มเป็น 2 เท่า เราจึงพบเห็นได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้น้ำหนักตัวจะเบิ้ลขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยส่วนตัว มองว่า การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่สำคัญควรหาข้อมูลมากกว่าข้อคิดเห็น และให้เป็นวิธีการที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ไม่ฝืนการใช้ชีวิต เพราะสุดท้ายเราจะหยุดการลดน้ำหนักทันทีที่รู้สึกว่า ทำให้ชีวิตเราลำบาก ยังไงขอเป็นกำลังใจให้กับ ทุก ๆ ความพยายามและการเอาชนะใจตัวเองในทุก ๆ วันนะคะ....คนเคยอ้วน

เห็นด้วยกับความเห็นที่ 3 ค่ะ โยโย่จะไม่เป็น ถ้าค่อยๆลดน้ำหนักช้าๆ อย่าฮวบฮาบ และต้องไม่ใช้ตัวช่วย เช่น ยาลดความอ้วน ดักไขมัน ชากาแฟลดอ้วน สามารถทานทุกอย่างที่เคยทานได้ค่ะ แต่ทานอย่างมีสติ และไม่มาก ไม่ต้องกังวลกับ BMR หรือ BMI หรอกค่ะ ควบคุมอาหาร ออกกำลัง พักผ่อนให้พอ ถ้าวิธีการเหมาะกับเรา เราจะรู้สึกสดชื่น ตัวบางลง กระปรี้กระเปร่าค่ะ  พยายามต่อไปนะคะ

BMR ,มันเป็นค่าแคลอรี่ที่เราใช้ในแต่ละวันใช่เปล่าคะ ถ้าอยากลดก็ต้องกินให้น้อยกว่าค่าBMRของตัวเอง เพื่อที่มันจะไปดึงไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงานแทนค่ะ 


ส่วนโยโย่นี่ ไม่ได้เกิดจากการที่เราทานไม่ถึงนะคะ แต่มันเกิดจากการที่เรางดอาหารไปเลย น้ำหนักมันก็จะลงไปอย่างรวดเร็วค่ะ แต่พอเรากลับมากินในปริมาณเท่าเดิม มันก็จะพุ่งขึ้นมา เลยเป็นโยโย่ค่ะ


หากไม่อยากเกิดโยโย่ ก็ให้ควบคุมอาหารติดต่อกันประมาณ3-4เดือนขึ้นไป เพื่อปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของตัวเอง และปรับกระเพราะให้มันเล็กลงค่ะ คราวนี้พอเราเริ่มกินเยอะ มันก็จะจุก รับไม่ไหว แล้วก็จะไม่กลับมาอ้วนอีกค่ะ

พยายามกินเช้า กับเที่ยง เย็นก็เลี่ยงหน่อยค่ะ