HOW TO:: มาแต่งเล็บด้วยฟีโม่กันค่ะ

วันนี้จัดหนักให้ตั้งแต่เริ่มล้างเล็บกันไปเลยหลังจากทำเป็นมินิฮาวทูไปคราวที่แล้ว แต่ไม่มีภาพอาจจะเข้าใจยากเลยกลับมาขยายความค่ะ


ความเดิมตอนที่แล้ว

http://www.jeban.com/viewtopic.php? 


 


เครื่องไม้เครื่องมือค่ะ




  • น้ำยาล้างเล็บ
  • สำลีแบบแผ่น
  • Base Coat
  • ยาทาเล็บ
  • Top Caot
  • ฟิโม่ที่ตัดเอาไว้แล้ว
  • แหนบ

ตอบคำถามเรื่องฟิโม่




จขกท.ซื้อแบบแท่งมาตัดเอง ราคาต่อแท่งมีตั้งแต่ 8 บาท 9 บาท จนถึง 25 บาท 30 บาท แล้วแต่ร้านค่ะ


บางร้านที่ขายถูกก็จะชาร์จค่าส่งแพงมาก (ที่เจอคือ EMS 80-100 บาท T__T ส่งได้ 3-4 รอบเลยนะนั่น...)

ร้านที่ขายแพงก็ชาร์จบ้างไม่ชาร์จบ้าง


เวลาจะซื้อลองคำนวนจากจำนวนที่เราจะซื้อ + ค่าส่งแล้วหารดูก่อนจะดีกว่าตัดสินใจซื้อทันทีนะคะ


ส่วนสถานที่ซื้อนั้น จขกท.ซื้อจากในเน็ตเอาค่ะ แต่ที่สำเพ็งก็มีขายนะคะ ใครขยันๆเดิน บ้านใกล้ ไปบ่อยก็ลองดูค่ะ


วิธีตัดก็ง่ายมากคือหามีดคมๆจะเป็นคัตเตอร์หรือมีดโกนก็ได้ค่ะ ฝานเอาบางๆ ถ้าขี้เกียจตัดก็ซื้อแบบตัดเรียบร้อยแล้วก็ได้ค่ะ จากที่เห็นก็มีราคาตั้งแต่ 5-20 บาทต่อ 1 ลาย ลายละ 10-20 ชิ้น แบบตลับ 12 หลุม หลุมละ 10 ชิ้นก็อยู่ที่ 70-100 บาทค่ะ


ขอไม่ตอบคำถามว่าซื้อที่ไหน เว็บไหน สนใจเปิด google แล้วพิมพ์คำว่า ฟิโม่ ติดเล็บ เท่านี้ก็ขึ้นมาให้เลือกเพียบแล้วค่ะ (ออกมาพร้อมๆกับฟีโน่ 5555)




การล้างเล็บ


จขกท.ใช้น้ำยาทาเล็บของ Cleotra Nail ซึ่งล้างยากมากกกกกกกกกกกกกกก เลยสรรหาวิธีมาสารพัดสิ่งแล้วแต่มาจบที่วิธีนี้ค่ะ การล้างแบบนี้นอกจากจะล้างสีออกหมดแล้วยังสามารถล้างเกล็ดอัญมณีออกไปได้มากกว่า 90 เปอร์เซนต์อีกด้วย


นอกจากจขกท.จะใช้ยาทาเล็บที่ล้างอภิมหายากแล้ว ยังติดฟิโม่เยอะมาก ทำให้ต้องเคลือบน้ำยาหนามากกกก ยิ่งล้างยากกันเข้าไปใหญ่


และมันก็เปลืองน้ำยาล้างเล็บมาก TvT


สภาพเล็บก่อนล้างค่ะ




เผลอล้างไปก่อนแล้ว 2 นิ้ว รวมทั้งแซะฟโม่ออกหมดแล้ว




ยังไม่ได้ล้าง สภาพฟิโม่จัดเต็ม ยกเว้นนิ้วก้อยที่หลุดไปเรียบร้อย




เทน้ำยาล้างเล็บใส่สำลีให้ชุ่ม




พับครึ่งตามด้านยาวแล้วแปะลงบนเล็บ




พันรอบเล็บให้แน่น




ทำจนครบ 10 นิ้วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีค่ะ




เอาออกแล้ว ฟิโม่ที่ติดไว้ก็สามารถดึงออกได้เลยค่ะ




ทำซ้ำอีก 1 รอบ คราวนี้ทิ้งไว้ซัก 30 วิพอแล้ว




เสร็จแล้วก็เช็ดให้สะอาดค่ะ


เท่านี้เล็บเราก็พร้อมที่จะทำขั้นตอนต่อไปแล้วค่ะ




Reused Fimo


เนื่องจากว่า หลายๆครั้ง ฟิโมจำนวนมากจะเหลือรอดจากสมรภูมิค่ะ (ฮา)


ดังนั้น จขกท.ที่งกมากถึงมากที่สุดก็เลยหาวิธีเก็บกลับมาใช้ใหม่ค่ะ


(งกจริงๆ 555)




เตรียมน้ำยาทาเล็บราคาถูกๆหน่อยกับตลับเปล่าใบเล็กๆเอาไว้ค่ะ




ใส่ฟิโม่ที่ต้องการจะทำความสะอาดลงไป เสร็จแล้วใส่น้ำยาล้างเล็บลงไปให้ท่วม




ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที


เตรียมสำลีที่ชุบน้ำยาล้างเล็บเรียบร้อยแล้วเอาไว้ 1 แผ่น


เสร็จแล้วใช้แหนบคีบฟิโม่ขึ้นมาเช็ดบนสำลีค่ะ




เรียบร้อยแล้ว เท่านี้ฟิโม่ของเราก็สามารถกลับมาใช้ได้อีกรอบแล้วค่ะ


แต่พวกที่ติดบนสีสดๆนี่สียาทาเล็บซึมเข้าไปหมดเลยทำให้เป็นรอยแดงๆหมด TvT


แนะนำให้เก็บไว้เยอะๆแล้วค่อยทำจะได้ไม่เปลืองน้ำยาล้างค่ะ 555




การทาเล็บ


การทาเล็บเราต้องแบ่งออกเป็น 3 จังหวะ คือ ให้เริ่มทาจากกลางเล็บก่อน ทาขอบด้านซ้ายและขวาค่ะ และอย่าทาหนา


ถึงแม้สีทาเล็บของเราจะบางก็ให้ทาบางๆรอบแรกก่อนแล้วค่อยทาซ้ำรอบที่ 2 หรือ 3 เอาก็ได้ค่ะ




เริ่มจากทาเบสโค้ท จขกท.ใช้ของ Skinfood ดีและราคาถูกค่ะ




เสร็จแล้วทาสีพื้น




จขกท.ตกแต่งสีเพิ่มเติมด้วยสีทองค่ะ




การติดฟิโม่


เมื่อเราทาสีเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องรอจนแห้งสนิท เอาแค่พอหมาดๆก็พอค่ะ เราก็มาเริ่มตกแต่งฟิโม่กันเลย




ทา Top Coat 1 รอบค่ะ




ไม่ต้องรอจนแห้งนะคะ เริ่มเรียงฟิโม่แถวที่ 1 ก่อนค่ะ


ถ้าฟิโม่บางมันจะกระดกค่ะ ให้เอาแหนบกดเอาไว้ก่อน 




ถ้ามีที่ซ้อนทับ ให้รอจนชั้นแรกหมาดๆแล้วทา Top Coat ทับแล้วค่อยติดซ้อนลงไปค่ะ




พึงพอใจแล้วก็ทา Top Coat เลยค่ะ รอจนแห้ง ทาทับหลายๆรอบก็ได้ค่ะ


ถ้าอยากให้อยู่นานๆทา Top Coat บ่อยๆ มันจะหนาจนเหมือนเคลือบแก้วเลยค่ะ สวยมาก


(แต่ล้างยากมากกกก)




ติดจนครบ 10 นิ้วก็สวยงามเช่นนี้ค่า (คิดไปเองว่าสวย 555)


หมดแล้วค่ะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ ^^


Discussion (8)

ทำไงไม่ให้ฟีโม่งออ่ะคะ ติดทีรัยมันงอทุกที ไม่สวย คือแบบว่าซื้อมาแบบตัดสำเร็จรูปแล้วค่ะ
ชอบเหมือนกันเลยค่ะแต่ของเราสั่งซื้อจากอีเบย์อเมริกาค่ะเพราะเราไม่ได้อยู่เมืองไทย ในอีเบย์คนขายของแต่งเล็บส่วนใหญ่เป็นคนฮ่องกง เราเดาเอาเองว่าเค้าคงเข้าไปซื้อที่เซิ่นเจ้นไม่ก็กวางโจวแล้วเอามาขายที่บ้านเค้าที่ฮ่องกง ราคาที่เราซื้อส่วนใหญ่จะส่งฟรีค่ะ ราคาเมื่อแปลงเป็นเงินไทยแล้วออกจะถูกกว่านิดหน่อยส่วนใหญ่จะซื้อกันดีเดียว 50/100 แท่งค่ะ ราคาตกประมาณ 150-180บาทสำหรับ 100 แท่งค่าส่งฟรีค่ะ ตอนแรกเราก็คิดนะว่าทำไมคนไทยไหมขายส่งออกมาบ้าง แต่พอเราไปดูราคาส่งพัสดุไทยแล้ว ถ้าส่งออกมาขายข้างนอกหากำไรไม่เจอเลยค่ะเพราะค่าส่งไปรษณีย์ไทยแพงเวอร์ ตัวอย่างเช่น rhinestones 1000 เม็ด 12 สีขายกันที่ 29-50 บาท (USD $0.99 - 1.98) ค่าส่งฟรี ค่าส่งจากทางฮ่องกงมาแคนาดาตกประมาณ $2.5 HKD ซึ่ง $USD 1 = $ HKD 7.5 กำไรเห็นๆค่ะเพราะวันหนึ่งๆถ้าขายไม่แพงมาก วันหนึ่งจะขายได้อย่างน้อย 200คนต่อวัน กำลังซื้อต่อคนประมาณ $ 2-3 USD คิดดูซิคะกำไรวันละเท่าไร เค้าซิ้อราคาขายส่งจากบ้านเค้าซึ่งถูกมากค่าส่งออกนอกประเทศ สองดอลล์ฮ่องกง ขายได้อันนึงก็ได้สิบห้าดอลล์ฮ่องกง วันๆไม่ต้องทำอะไร เดินไปสำเพ็งเมืองเค้าแล้วเเพ็คขาย คนทางนี้ก็เต็มใจจะซื้อเพราะเงิน $USD 1-3 ก็หาซื้อไม่ได้ตามร้านขายปลีกในอเมริกาหรือแคนาดาค่ะ น่าเสียดายที่อัตราไปรษณีย์ไทยแพงเกินไปเหมือนเป็นการตัดช่องทำมาหากินของผู้ขายรายปลีกที่ส่งของออกนอกประเทศไปด้วย

ขอบคุณค่ะ

จะลองวิธีล้างเล็บค่ะ  แค่พวกกากเพชรก็ล้างไม่ค่อยออกแล้ว  เลยไม่อยากทาเลย  


ต้องลอง

ชอบจังค่ะ...อยากทำมั้งแต่ต้องรอเล็บแข็งก่อน>____<

แอบเวิ่นลายผลไม้เบาๆ