[นอกเรื่อง]ทำอะไรดีค่ะ?

    เราเป็นคนชอบภาษาอังกฤษมาก อาจจะไม่ได้เก่งเว่อๆ แต่ก็พอคุยกับชาวต่างชาติรู้เรื่อง คิดว่าถ้าทุ่มเททางด้านภาษาอีกหน่อยก็คงไปได้สวย เพราะใจรักอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าเป็นเด็กสายวิทย์ ก็เลยไม่อยากให้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาสูญเปล่า ตอนแรกอยากเป็นแอร์ พอเห็นว่าสายการบินในประเทศไทยเข้มงวดเรื่องส่วนสูง(เค้าเอา160ขึ้น เราสูง157เราวัดเมื่อสามปีที่แล้ว)และเราก็ไม่ค่อยอยากจะแบบเป็นคนแคระที่สุดในหมู่แอร์ ก็เลยหาข้อมูลสายการบินของต่างประเทศ เพราะฝรั่งเค้าไม่เข้มงวด แต่ว่าพอหาไปหามาเค้าก็บอกว่าไปเป็นแอร์ที่เมืองนอก ไม่ได้ดูดีเหมือนในเมืองไทย แอร์ในต่างประเทศก็คือกรรมกรใช้แรงงานดีๆนี่เอง ฝรั่งเค้ามองแบบนั้น เค้าไม่ได้สนใจเรื่องรูปร่างหน้าตา ภาษาด้วยซ้ำ เราก็เอ่อ...นะ ก็เลยมองหาอาชีพอื่นๆอยากมีเป้าหมายไว้เลยจะได้เบนเข็มไปถูกทาง เมื่อก่อนพ่อแม่ลุงป้านาอาบอกให้เป็นหมอ ลุงบอกว่าถ้าเราเป็นหมอได้ลุงจะภูมิใจมากๆ แต่ใจเราไม่ได้รักทางนี้ เราเป็นคนรักความแปลกใหม่ แม่เราเป็นหัวหน้าพยาบาล ทำเคสพวกผ่าตัดหัวใจ ภาพที่เราเห็นมาตลอดสิบกว่าปีคือ เช้าไปโรงบาลเย็นกลับบ้าน บางวันก็ต้องเข้าเวรตอนกลางคืน ซึ่งเราคิดว่าเราคงใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเราพยายามอ่านหนังสือทั้งวัน เราว่าเราก็สามารถเป็นหมอได้นะ เราเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นหมอได้ แค่มีใจรักและมีความพยายาม แต่เราไม่ได้รักทางด้านนี้ มันเลยไม่มีแรงกระตุ้น ในทางกลับกันที่เราชอบภาษาอังกฤษเพราะว่าเราอยากไปเมืองนอกแล้วคุยกับฝรั่งรู้เรื่องด้วยตัวเองไม่ต้องให้พี่ค่อยแปลให้หรือต้องพึ่งล่าม และเราก็ชอบเพลงสากลชอบนักร้องชอบดาราฝรั่ง มันก็เลยเป็นแรงกระตุ้นให้อยากเก่งภาษอังกฤษ 

    ตามที่เล่ามาช่วยแนะนไทีค่ะว่า เราควรจะเบนเข็มไปทางไหนดี ขอบคุณฮ้า ;;)

Discussion (6)

 ถ้าน้องคิดว่าอาชีพบุคคลากรทางการแพทย์ไม่ใช่สิ่งที่น้องต้องการแน่ๆ

ก็เริ่มมองหาเป้าหมายที่ใช่ค่ะ 


แต่อันที่จริงน้องสามารถเรียนสายวิทย์ในขณะเดียวกันก็ฝึกฝนทักษะทางภาษาได้นะ

เพราะภาษาที่สองหรือสามจะช่วยให้น้องโดดเด่นเหนือเด็กสายวิทย์คนอื่นๆ


การที่เราชอบภาษาอังกฤษมาก คุยกับฝรั่งรู้เรื่อง

และมีความสุขที่ได้พบปะผู้คนนั้นไม่ได้หมายความว่าเราควรจะเรียนด้านภาษาศาสตร์

เพราะภาษาศาสตร์เรียนลึกเข้าไปถึงโครงสร้างและรากของภาษานั้นๆ

ซึ่งบางทีถ้าน้องมาเรียน น้องอาจจะไม่ชอบก็ได้นะคะ เพราะมันก็คือวิชาการล้วนๆนั่นเอง


น้องลองถามตัวเองดูก่อนดีมั้ยคะ ว่าน้องชอบวิชาสายวิทย์มากมั้ย

อาจเป็นทางวิศวกรรม หรือย้ายมาทางเศรษฐศาสตร์หรือบริหารก็ได้นะ

แล้วเรียนเป็นพวกภาคภาษาอังกฤษ น้องจะได้ใช้ความรู้ทางสายวิทย์

และในขณะเดียวกันก็มีโอกาสฝึกฝนภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย


เมื่อน้องเข้ามหาวิทยาลัย มันจะมีวิชาเลือก (Free elective)

ซึ่งเราจะสามารถเลือกเรียนวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาขาของเราก็ได้ (ในกรณีที่เค้าไม่ได้มีพวกวิชา pre-requisit อะไรนะคะ) 


อ้อ.. ไอ้เจ้าวิชาที่ว่าเนี่ยคือวิชาที่เค้าบังคับให้เรียนก่อนเรียนตัวนั้นๆน่ะค่ะ 

ขอโทษจริงๆค่ะพี่นึกชื่อมันเป็นภาษาไทยไม่ออกจริงๆ 

น้องอาจจะเลือกวิชาเลือกด้านภาษา แล้วน้องจะได้ค้นพบว่าจริงๆแล้วตัวน้องชอบมันรึเปล่า

ตอบยาวมากๆ โทษทีนะจ๊ะ
ยังไงก็อวยพรให้น้องสมหวังและเลือกหนทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้น้า...

จะทำอาชีพอะไรก็แล้วแต่

ขอให้ทำแล้วชอบค่ะ

เพราะถ้าเป็นสิ่งที่ทำแล้วไปชอบ

ทำได้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนงาน

ยูเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนอยากเห็นลูกทำงานเลี้ยงตัวเอง

ก็พอแล้ว พิสูจน์ให้เค้าเห็นค่ะว่าทางที่เราเลือกมันเป็นทางที่เหมาะกับเรา

หาค่ะ หาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขแล้วอยู่กับมัน

ดีที่สุด


พ่อแม่เราอยากให้เป็นผู้พิพากษา

แต่สุดท้ายเราก็เรียนภาษาอยู่ดี

เราไม่ได้เก่งแต่ชอบที่ได้เรียนนะ


ตอนนี้งานที่ทำก็ไม่ได้ดี แต่เพราะรัก

เลยพยามฝึกฝนอยู่ เงินไม่ได้เยอะ แต่มีความสุขค่ะ

เดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษ พูดได้คล่องก็งั้นๆแล้วค่ะ...

ต้องได้ภาษาที่สามอย่างค่อนข้างดีด้วย... profile ถึงจะน่าสนใจ

(อันนี้พูดถึงคนที่จะเบนเข็มไปทางภาษา หรืองานอะไรที่ต้องใช้ภาษานะคะ)


เรื่องเป็นหมอ เห็นด้วยค่ะ ใครๆก็เป็นได้...

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสุขกับการเป็นหมอ...

เข้าหมอได้ว่ายากแล้ว การเรียนหมอนั้นยากกว่า และการจบมาทำอาชีพหมอให้ดีได้นั้นยากที่สุด...

ถ้าไม่ได้ชอบหรือคิดว่าอยากเป็นมากๆ อย่าเลยค่ะ... หาเรื่องเหนื่อยให้ตัวเองโดยใช่เหตุ


แรงบันดาลใจเรื่องภาษาเป็นสิ่งที่ดีค่ะ... แต่เราว่า ไม่พอให้ไปเรียนภาษา...

แค่อยากได้ภาษาอังกฤษ อยากคุยกับฝรั่งรู้เรื่อง เรียนที่ไหน นอกเวลาก็ได้ค่ะ...

คณะภาษา เหมาะกับเรียนอะไรลึกๆในเชิงภาษาศาสตร์มากกว่า... ไม่ใช่เรียนเพื่อให้พูดได้

แรงบันดาลใจที่คิดไว้ มันอ่อนไปสำหรับคนๆนึงจะมาเลือกเรียนอักษรอ่ะค่ะ


แต่ถ้าบอกว่า อยากเรียนอักษร เพราะชอบภาษามากๆ 

อยากเรียนภาษาในเชิงลึก อยากรู้ศิลปะ วัฒนธรรม ลักษณะและรากเหง้าของภาษา

(และอยากเป็นแอร์ด้วย)... เลยอยากเลือกเรียนภาษา...

อันนี้โอเคค่ะ...


ต้องลองหาสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ใช่จริงๆ...

อะไรที่เรามองภาพอนาคตไว้ แล้วเราอยากเป็นแบบนั้น อยากจะทำอาชีพนั้น


อย่าไปคิดว่าเรียนสายวิทย์มาแล้วเสียดาย...

ถ้าสุดท้าย เราอยากเห็นภาพตัวเองได้เป็นแอร์โสเตส... อยากทำอาชีพนี้

เราก็เลือกเรียนภาษาไปเถอะค่ะ... เรียนภาษาที่สามไปด้วยเลย... 

(แต่จริงๆ แอร์ฯ จบคณะอะไรก็ได้นะคะ... แค่ได้ภาษา ส่วนสูงผ่าน แล้วก็ไปสอบเป็นแอร์ได้เลย)


ค่อยๆค้นหาตัวเองไป... 

อย่าเรียนในสิ่งที่เราไม่ได้รัก และอย่าทำในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบค่ะ

 เราคิดว่าภาษาอังกฤษอย่างเดียวเนี่ย อยู่ยากค่ะ ต้องเสริมอย่างอื่นด้วย


อย่างเช่นการท่องเที่ยว-การโรงแรม บริหาร Organize ฯลฯ


แล้วแต่ว่าชอบด้านไหนน่ะค่ะ ยังไงถ้าได้ทำงานกับบริษัทที่เค้า Co, กับต่างชาติ ก็ได้คุยภาษาอังกฤษอยู่แล้ว

เพื่อนเราสูง 165 อยากเป็นแอร์ แต่รูปร่างอวบระยะสุดท้ายค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ 

เธอชอบภาษาอังกฤษมาก เลยวางแผนว่าควรจะเลือกภาษาที่สามให้ตัวเองเพื่ออนาคต

สุดท้ายเธอเลือกที่จะสนใจภาษาญี่ปุ่น


เธอไปหาเรียนพิเศษเพิ่มเติมก่อนแอด 1 ปี 

สุดท้ายไ้ด้เรียนสายศิลป์ภาษา เอกญี่ปุ่น

ตั้งใจเรียนหนักๆเข้าก็ได้เกียรตินิยม


ตอนนี้เป็นพนักงานฝ่ายเซอร์วิส ติดต่อกับลูกค้าชาวต่างชาติในโรงแรม

เงินเดือนสูงเหมือนกันนะคะ รู้สึกว่าสตาร์ทที่ 20,000

ตอนนี้ทำมา 2 ปี เงินเดือนเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้