Jeban's talk พูดคุยเรื่อง น้ำปรุง (น้ำหอม) นั้นสำคัญไฉน
coolgalz41สวัสดีค่าสาวๆจีบัน วันนี้ปอจะมาพูดคุยเรื่องน้ำหอมนะคะ
พอดีเห็นมีกิจกรรมที่ให้พูดคุยเรื่องน้ำหอม ไอ้เราก็เป็นคนที่ไม่ค่อยใช้น้ำหอมซะด้วย แต่ชอบดมนะ ได้กลิ่นคนฉีดน้ำหอม หอมๆ แล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ก็เลยฉุกคิดขึ้นมาว่า เห้ยยยย ย เราเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้น้ำหอม แล้วน้ำหอมมันสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรอ ??
เลยรีบจัดแจงหาข้อมูลเลยค่ะ ว่าน้ำหอมนั้น สำคัญไฉนนนนน น*
เริ่มจากที่มาของน้ำหอมก่อนเลยละกันนะคะ
ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ต้นกำเนิดของ "น้ำหอม" อยู่ที่ประเทศอียิปต์โบราณ แต่ในสมัยนั้นเรียกว่า "เครื่องหอม" จะดีกว่า คงยังไม่ใช่น้ำหอมเสียทีเดียว โดยชาวอียิปต์ใช้เครื่องหอมเหล่านี้ในพิธีบูชาเทพเจ้า วิธีการของพวกเขาก็คือ นำพวกพืชที่มีกลิ่นหอมมาเผาให้เกิดควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ต่อมาชาวกรีกได้รับอิทธิพลนำมาประยุกต์ใช้ในการอาบน้ำ กล่าวคือมีการนำน้ำมันและขี้ผึ้งมาทาตัวหลังอาบน้ำเสร็จ นอกจากนี้ในพิธีศพยังมีการใช้เครื่องหอมทาตัวผู้ตาย และนำน้ำหอมส่วนตัวของผู้ตายไปฝังพร้อมกับร่างอันไร้วิญญาณของเขาด้วย ชาวโรมันเองก็รับเอาธรรมเนียมการใช้น้ำหอมมาปฏิบัติด้วย มีการพัฒนาส่วนผสมของน้ำหอมแต่ละชนิดเพื่อใช้ในพิธีต่าง ๆ เช่น พิธีทางศาสนา พิธีฝังศพ หรือใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
วิวัฒนาการด้านการปรับปรุง "น้ำหอม" เริ่มเป็นที่แพร่หลายในยุโรปช่วงต้นศตวรรษที่ 14 ในยุคเรเนสซองส์วัฒนธรรมการประพรมน้ำหอมถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชนชั้นสูงในราชสำนัก และพวกที่มีฐานะทางสังคม เมื่อวันเวลาผ่านไปมนุษย์มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีมากขึ้น การใช้ "น้ำหอม" ได้แพร่หลายไปสู่สามัญชน อุตสาหกรรมน้ำหอมเกิดขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 18 และแหล่งกำเนิดก็ไม่ใช่ที่ไหน หากแต่เป็นประเทศฝรั่งเศสที่เรารู้จักเป็นอย่างดีนั่นเอง เมืองกราสซ์ในแคว้นโพรวองซ์ ของฝรั่งเศส ถือเป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตน้ำหอมที่ขึ้นชื่อที่สุดในโลก และจวบจนกระทั่งปัจจุบันฝรั่งเศสก็ยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำหอมของโลกอยู่ ตลาดน้ำหอมในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงขึ้น หลาย ๆ ประเทศในยุโรปอย่าง อิตาลี เยอรมนี รวมถึงอเมริกา และออสเตรเลีย ต่างก็พยายามแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด แล้วก็มีแบรนด์ดังจากประเทศเหล่านี้จำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
โดยส่วนใหญ่แล้วน้ำหอมขวดหนึ่งจะประกอบไปด้วยน้ำ และแอลกอฮอล์ เป็นหลัก แต่ที่สำคัญคือหัวน้ำหอม โดยหัวน้ำหอมนี่เองที่เป็นตัวจำแนกประเภทของน้ำหอม ซึ่งหลัก ๆ แล้วมีอยู่ 4 ประเภท
1. Perfume จะมีหัวน้ำหอมประมาณ 20 ถึง 40%
2. Eau de Parfum จะมีหัวน้ำหอมประมาณ 10 ถึง 20%
3. Eau de Toilette จะมีหัวน้ำหอมประมาณ 5 ถึง 10%
4. Eau de Cologne จะมีหัวน้ำหอมประมาณ 2 ถึง 3%
อย่างปอเองเคยไปงานสวดศพของศาสนาคริสต์น่ะค่ะ เค้าก็จะให้เราเอาน้ำที่มีเครื่องหอม มีดอกไม้ พรมลงบนโลงศพของผู้ตายด้วยล่ะค่ะ เรามาว่ากันต่อถึงเรื่องประโยชน์ของน้ำหอมกันต่อเลยดีกว่านะคะ
ตลอดวันเช้าและเย็นในช่วงชีวิตของเรา, เราได้ดมเอากลิ่นต่างๆโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เราหายใจเข้าออกเป็นประจำ ซึ่งดูดรับเอาโมเลกุลของเคมีซึ่งมีปฎิกิริยาต่อตัวรับกลิ่นของเรา เราจะรู้สึกถึงกลิ่นหอม, เหม็น หรือกลิ่นฉุนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในการที่เราได้รับรู้ถึงกลิ่นที่ว่า ทำให้เกิดการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ต่างๆว่า เราดมได้อย่างไร ทำไมกลิ่นและน้ำหอมจึงมีผลต่อเรา? ทำไมเราถึงพึ่งจะศึกษาสิ่งเหล่านี้?
ภาพ และเสียงจะถูกศึกษาและวิจัยเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อปี 1983 ได้มีการทดสอบและวิจัยขั้น พื้นฐาน ของการสัมผัสกลิ่นของคนเราโดยNational Institutes of Health (NIH)ซึ่งก็ไม่ได้รับทุนในการวิจัย มากพอควร ซึ่งจากที่ Dr. Solomon H. Snyder, นักวิทยาศาสตร์ทางด้านประสาท สัมผัสที่ Hopkins University school of medicine ว่าไว้ "NIH จะไปสนอะไรเพราะว่าไม่มีคนตายเพราะการ ดมกลิ่นมากจน เกินไป"ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ทำให้เกิดการตื่นตัวในวงการในการวิจัยเกี่ยวกับ กลิ่นที่คนเราได้ รับจะมีผล อะไรกับพฤติกรรมบ้าง
เราได้รับกลิ่นได้อย่างไร?
เมื่อเราสูดอากาศ อากาศจะผ่านเข้ารูจมูก และเข้าไปยังพื้นที่ที่มีขนาดเท่าแสตป์ซึ่งบรรจุไปด้วย เซลส์ตัวรับเป็นล้านๆตัว ซึ่งเรียกว่า olfactory epithelium. ถ้าอากาศที่เราสูดเข้าไปมีโมเลกุล ของน้ำหอมอยู่ด้วย โมเลกุลเหล่านั้นจะไปเกาะอยู่กับของเหลวข้นๆรอบ epithelium ใยของตัวเซลส์รับ (Receptor) จะยืนออกไปจับกับโมเลกุลน้ำหอมที่ว่าผ่านจากตอนล่างของเซลส์ เมื่อใยที่ว่าไป สัมผัสกับโมเลกุลน้ำหอมแล้ว ก็จะเกิดการส่งรหัสและคลื่นไปยังระบบประสาทของเรา และจะ ไปสิ้นสุดที่สมองต่างๆของเราโดยรวมถึง สมองส่วนกลางและเยื่อหุ้มสมองด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกล้วย จนถึงกลิ่นดอกกุหลาบ แต่ละกลิ่นจะทำให้เกิดการส่งรหัสหรือการผ่านคลื่นไปตามแบบของกลิ่นนั้นๆ
ดังนั้นคนเราเองแต่ละคนก็จะมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน น้ำหอมบางกลิ่นอาจจะทำให้คนคนหนึ่งสงบ แต่อาจจะให้ความรู้สึกอีกคนหนึ่งที่ต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการศึกษาอย่างละเอียดมากขึ้นน้ำหอมมีผลกับเรา อย่างไร? หลังจากที่NIH ได้เพิ่มทุนในการวิจัยเกี่ยวกับการดมกลิ่นของคนเรา ทำให้เกิดการวิจัยมากมายที่แสดงว่า น้ำหอมหรือกลิ่นมีผลต่อคนเราโดยตรง โดยอาจจะลดความเครียด จนถึงการเพิ่มความรู้สึก (Mood). และยังพบว่าน้ำหอมจะทำให้การหลับของเรามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และอาจจะปลุกความทรงจำที่เราอาจจะลืมเลื่อนไปได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
Stree Reduction (การลดความเครียด)การ วิจัยพบว่าการใช้น้ำหอมในคนเราสามารถช่วยลดความเครียดได้ นักค้นคว้าที่ Sloan-Kettering Cancer ที่ New York ได้พบว่าน้ำหอมลดอาการเครียดของคนไข้ที่ได้รับอาการจากMegnatic resonance imaging (MRI) จากการทดลองให้คนไข้ได้รับกลิ่นน้ำหอมทำให้ลดอาการที่ว่าไปได้ถึง 63%
Quality of Sleep (การหลับอย่างมีสุข)การ วิจัยโดยDr. Peter Badia จาก Bowling Green State University, Department of Psychology ได้ผลการวิจัยออกมาเป็น 2 หัวข้อใหญ่เพื่อศึกษาว่ากลิ่นมีผลต่อการนอนของคนเราหรือไม่ การศึกษาพบว่าพฤติกรรมและจิตใจเราขณะหลับยังสามารถรับรู้ถึงกลิ่นต่างๆได้ เป็นอย่างดี แล้วในการทดสอบต่อโดยการให้ผู้ทดลองได้รับกลิ่น มะลิ, เปเปอร์มินท์,และไม่ได้รับกลิ่น ผลปรากฎว่าว่า กลิ่นมะลิจะทำให้ผู้ทดสอบติ่นขึ้นมาอย่างสบายตัว เปเปอร์มินท์จะทำให้รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาอย่างผวา ซึ่งจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการได้กลิ่นระหว่างการนอนหลับมีต่อการหลับได้ เป็นอย่างดี
Memory (ความทรงจำ)เป็นการตอบสนองที่น่าทึงที่สุดที่ได้ จากน้ำหอม ทุกคนจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับความรู้สึก ไม่ว่าจะดีหรือร้าย หลังจากได้กลิ่นน้ำหอมต่างๆกัน เช่นกลิ่นของรถคันใหม่เอี่ยมที่คุณพึ่งถอยออกมาจากห้าง ซึ่งประสบการณ ์เหล่าเกิดขึ้นจากการได้กลิ่นเพียงครั้งเดียว
Dr. Trygg Engen, professor of psychology at Brown University, พบว่าความสามารถใน การจำกลิ่นของคนเรามีมากกว่าความสามารถในการจำภาพที่เราเห็น คนเราจะสามารถจำ กลิ่นได้แม่นยำเกือบ 65% ภายในระยะเวลาหนึ่งปี เทียบกับการจำภาพแค่ 50% ในเวลาแค่ 4 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากส่วนประสาทในสมอง "memory bank" ซึ่งการรับกลิ่นของคนเราจะถูกควบคุมโดยLimbic System ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมความรู้สึก (Emotion)และการตอบสนองทางเพศ, ศิลปะและอื่นๆ ซึ่ง Limbic System จะเก็บรวบรวมความรู้สึกต่างๆที่เรามีประสบการณ์ไว้
น้ำหอมทำให้เรา รู้สึกSexy, กระชับกระเชง,แข็งแรง, สะอาด, มีความสุข,อ่อนหวาน, สร้างสรรค์, และ ความรู้สึกอื่นๆอีกมากมาย คนเราจะตอบสนองน้ำหอมกลิ่นต่างๆไปในแบบที่ต่างกัน ความเป็นไปได้ที่น้ำหอมจะมีผลต่อการตอบสนองนั้นไร้ขีดจำกัด กลิ่นต่างๆที่จะสัมผัสได้หรือไม่ได้ได้เข้ามา อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา คนเป็นล้านอาจจะต้องตายไปถ้าไม่สามารถได้กลิ่น ของควันไฟเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ เราใช้ความรู้สึกในการดมเพื่อแยกอาหารที่เสีย
ทีนี้สาวๆก็รู้กันแล้วใช่มั๊ยคะว่าน้ำหอมนั่นสำคัญยังไง นอกจากจะช่วยลดอาการเครียดของเราได้แล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆที่พรมลงบนตัวเราอาจทำให้สะกิดจมูกของชายหนุ่มข้างๆที่ได้กลิ่น จนอยากรู้จักสาวๆขึ้นมาก็ได้นะคะ แบบนี้เราคงต้องไปหามาซักขวดแล้วล่ะค่ะ เผื่อฟลุ๊คกับคนอื่นเค้าบ้าง อิอิ
ที่มา : ไม่ทราบว่าลงได้รึป่าวนะคะ แต่พอดีไปเซิทเจอมาจากอากู๋เลยเอามาพูดคุยให้สาวๆที่ยังไม่รู้ได้ลองอ่านเพื่อเสริมความรู้กัน ^^
มีประโยชน์มากครับ ชอบมากๆ อ่านเพลินจนลืมทำงาน คุคุๆๆ