อึดอัด อัดอั้น มีปัญหากับครอบครัวสามี (แม่สามี)
Noo~A~Zaa16มีปัญหากับครอบครัวสามี (แม่สามี)
คือไม่ใช่เรื่องแบบแม่ผัวลูกสะใภ้อะไรประมาณนั้นนะคะ คือเรื่องเนี่ยเกี่ยวกับลูกชายของเราโดยตรง(ก็หลานชายท่านนั้นแหล่ะค่ะ) คือเราเป็นสะใภ้เค้าแต่เราก็ยังอยู่บ้านเรา(บ้านอยู่กทม.) ลูกเราก็เลี้ยงของเราเอง ส่วนบ้านสามีอยู่ตจว. คือเราเข้าใจท่านนะค่ะว่าท่านรักหลานของท่านมาก(อันนี้มากจริง ๆ) เพราะเป็นหลานคนแรกของทั้งสองบ้าน แถมเป็นผู้ชายด้วยยิ่งแล้วใหญ่เลย ท่านจะมาเยื่ยมหลานชายของท่านทุกเดือน แล้วแต่ว่าจะสะดวกวันไหน ตอนลูกชายเรายังเล็กเลยยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากมายเหมือนปัจจุบัน คือเราขออธิบายก่อนนะคะ คือลูกชายของเราเป็นเด็กไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เกิดแล้ว แพ้นั้นโน่นนี้ โอ้ย!!สาระพัด คือบ้านเราจะมีการออนไลน์ให้ทางบ้านสามีดูหลานชาย(เหมือนดู AF อ่ะคะ) ตอนนั้นก็เคยไปปรึกษาหมอเหมือนกันนะคะเรื่องแสงไฟจากคอมฯ คุณหมอบอกว่าไม่น่าจะมีปัญหา อันนี้ก็จบไป ปัญหาต่อมาคือแม่สามีท่านเลิกงาน กลับบ้านดูหลานชายผ่านโลกออนไลน์ค่อนข้างดึกจะเลิกดูก็ประมาณ 4 ทุ่มบ้าง 5 ทุ่มบ้าง แล้วแต่ว่าท่านจะนอนตอนไหน เราก็ไม่ได้ว่าท่านนะคะเพราะเราตอนนั้นยังไม่ได้ทำงาน(เป็นแม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว)อยู่ดึกได้ พอมาช่วงปลายปีที่ผ่านมาเราได้งานทำ เวลาเราก็ค่อนข้างเปลี่ยนจากที่จะนอนกี่ทุ่มก็ได้ก็ต้องเปลี่ยนให้เป็นเวลาขึ้น ส่วนท่านก็เหมือนจะเข้าใจนะคะว่าเราทำงานมาเหนื่อยกลับบ้านก็ต้องการพักผ่อน ตอนแรก ๆ ท่านก็มาออนไลน์เร็วขึ้นหลัง ๆ ท่านก็เริ่มกลับมาเหมือนเดิม เราอยากให้ลูกชายนอนเร็ว ๆ เพราะกลัวว่าเค้าจะพัฒนาการช้า แต่ก็พูดอะไรไม่ได้มากได้แต่อ้างนั้นโน่นนี้ เช่น ลูกชายง่วงนอนแล้วบ้าง กลับบ้านมาถึงดึกบ้าง(จริง ๆ ก็อยู่บ้านนั้นแหล่ะคะ แต่ไม่ได้ออนไลน์ แล้วพอดูเวลาเห็นสมควรก็โทรบอกเค้าว่า พึ่งกลับถึงบ้าน) แต่ก็ใช้ข้ออ้างพวกนี้ได้ไม่บ่อยนัก ก็ทน ๆ ออนไลน์มาเรื่อย ๆ ดึกบ้างก็ไม่เป็นไร เหนื่อยหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก(เพราะที่ทำงานเราอยู่ค่อนข้างไกลบ้าน ต้องตื่นแต่เช้ากลับถึงบ้านก็ดึก) เอาลูกชายขึ้นนอนหลังจากออนไลน์ให้ท่านดูใช่ว่าลูกชายจะหลับ ขึ้นไปถึงห้องนอนเค้าก็เล่นตามภาษาของเค้าไป ขึ้นนอน 4 ทุ่ม กว่าจะได้นอนก็ 5 ทุ่มเกือบเที่ยงคืน แต่ถ้าวันไหนท่านออนไลน์ดึก ก็จะขึ้นนอน 5 ทุ่ม กว่าจะได้นอนก็เกือบตี 1 แล้วเราต้องตื่นตี 5 ทุกวันเพื่อเตรียมนั้นโน่นนี้ไว้ให้ลูกชาย เป็นอย่างนี้มาเกือบปี เราเริ่มเหนื่อยมาก ล้ามาก บ้างทีเราขับรถหลับในก็มี(เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลย T_T) แต่เราก็พูดอะไรมากไม่ได้เกรงใจท่าน เพราะเรารู้ว่าท่านรักหลานชายของท่านมาก
อันนี้คือปัญหาแรกนะคะ ยังไม่หมดเหมือนที่เราเล่าให้ฟังตอนแรกว่าท่านจะมาเยี่ยมหลานชายของท่านทุกเดือนแล้วทุกครั้งที่ท่านมาท่านจะมานอนค้างที่บ้านเราทุกครั้ง ท่านอยากจะอยู่กับหลานชายท่านนาน ๆ แต่ทุกครั้งที่ท่านมานอนด้วย ท่านจะเล่นกับหลานชายของท่านค่อนข้างดึกถึงดึกมาก ๆ ๆ (ย้ำนะคะว่ามาก) พอเจ้าลูกชายถึงLimit ของเค้า (คือง่วงเต็มที่แต่ไม่ได้นอน) พ่อเจ้าประคูณโวยวาย โยเย งอแง เอานอนไม่ยอมนอน คือเหนื่อยมากแล้วหลับไม่ลงอะไรประมาณนั้นมั้งค่ะ แล้วปกติแล้วลูกชายเราเค้าจะนอนเองไม่ได้จะต้องนอนบนอกเรา (อันนี้เราฝึกเค้าให้เป็นยังงี้ ไม่รู้จะแก้ไขยังไง) บ้างคืนเราเอาเข้านอนที่นอนเค้า(หลังจากเค้าหลับสนิทแล้ว) พอตื่นขึ้นมากลางดึกปีนขึ้นมานอนบนตัวเราตอนไหนก็ไม่รู้ (ตอนแรกนึกว่าโดนผีอ้ำ 555+) คือสรุปง่าย ๆ ไม่ว่ายังไงตอนกลางคืนเราต้องเป็นคนเอาเค้านอนคนเดียวเท่านั้นคนอื่นเค้าไม่ยอมนอน เนี่ยแหล่ะคือปัญหาถ้าเค้านอนดึกเราก็ต้องนอนดึกด้วย กว่าเค้าจะนอนเราก็จะได้นอนดึกกว่า คือบ้างทีที่ท่านมาท่านพยายามจะเอาหลานนอนเองเลยบอกกับเราว่าให้เรานอนไปก่อนเดี๋ยวท่านเอานอนเองได้ เราก็ตกลงไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาคือลูกชายไม่ยอมนอนกะท่าน ร้องไห้ โยเย จนท่านเอามาส่งคืนให้ (เราหลับไปแล้ว zzzZ!!) ตื่นมาเอาลูกนอนตอนตี 1 กว่าจะหลับตี 2 แล้วเราก็ต้องตื่นตี 5 เหมือนเดิม ส่วนท่านก็อยู่ช่วยดูแต่พอถึงเวลาจริง ๆ ท่านคงเหนื่อยบางทีเห็นท่านนั่งหลับก็มี เราเลยให้ท่านไปพักก่อน แล้วเราก็เอาลูกชายนอน ส่วนตอนกลางวันท่านจะพาหลานชายไปนั้นโน่นนี้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ไปห้างฯบ้าง ไปบ้านญาติคนอื่น ๆ บ้าง(แต่ก็ไม่ค่อยอยากให้ไปหรอก) และทุก ๆ ครั้งที่ไปข้างนอกท่านมักจะพาหลานกลับมาบ้านค่อนข้างดึกไม่ต่ำกว่า 2 ทุ่ม เราเริ่มมาสังเกตุว่าลูกชายเราจะไม่สบายทุกครั้งหลังจากที่ท่านกลับไปแล้ว(ปกติท่านจะมา 4 – 5 วันถ้ารวมวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ก็ 7 วัน อาทิตย์นึงพอดีเป๊ะ ทั้งอาทิตย์ลูกเราจะไม่ได้พักเลย เดินสายตลอด) เราสงสารลูกเราไม่อยากให้ลูกไม่สบาย มันมีหลายปัจจัยที่เราเห็นนะคือ ท่านมักจะเปิดแอร์ในรถเย็นมาก ๆ และพอถึงที่ก็ลงมาปะทะกับไอร้อนของแดด (คือเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น) ปกติลูกชายเราไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วด้วย 3 วันดี 4 วันไข้ตลอด (กินยาไม่เคยขาด) อีกหนึ่งปัจจัยคือท่านไม่ค่อยจะให้หลานชายนอนจะชวนเล่นตลอด เราไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ยังไง ล่าสุดลูกเราพึ่งหายไม่สบายได้ไม่ถึงอาทิตย์ท่านก็มาหาหลานตามปกติแต่ที่ไม่ปกติคือท่านพาหลานไปเที่ยว (วันพฤหัสบดีพาไปเที่ยวสวนสัตว์ วันศุกร์พาไปเที่ยวทะเล) ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่กล้าพูดว่าลูกพึ่งหายไข้ ไม่อยากให้ไปเดี๋ยวกลับมาทรุดอีก แล้วเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ลูกเรากลับมาได้ไม่นาน ไม่สบายเลยคะ ตัวร้อน เป็นไข้ อาเจียน เราสงสารลูกเหลือเกิน อึดอัดมากไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง อยากแก้ปัญหานี้แบบถาวรแต่ไม่อยากให้ถึงกับบาดหมางใจกัน เราเคารพและรักท่านมาก อยากได้วิธีแก้ปัญหาแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น ใครเคยเจอเหตุการณ์อย่างเราบ้างมั้ยค่ะ
**ขอโทษทีนะคะที่ยาวไปหน่อย แต่นี้คือความรู้สึกของเราล้วน ๆ ที่พยายามจะเขียนออกมาให้เป็นตัวอักษรให้ได้**
Discussion (16)
น่าเห็นใจจังค่ะ เราก็ลูกเล็ก เข้าใจความยากลำบากใจของจขกท.เลย
ถ้ารู้สึกเกรงใจที่จะคุย เราว่าคุณควรใช้การปฏิบัติตนบางอย่างให้ท่านรู้ คุณเองควรเริ่มแข็งข้อเล็กๆเองได้บ้าง เช่น ท่านเล่นกับลูกจนถึงเวลา คุณต้องเอาลูกไปนอน ก็ต้องยืนยันแบบนิ่มๆและสุภาพว่าจะต้องนอนแล้ว หรือลูกเพิ่งสร่างไข้ยังไม่หายดี คุณต้องไม่ให้ท่านพาลูกไปเที่ยวค่ะ แบบว่าบางทีไม่ต้องพูดแต่ใช้วิธีดื้อเงียบ ไม่ยอม ไม่ได้ก็ต้องใจแข็งกับท่าน ถ้าท่านโกรธคุณก็ถือโอกาสอธิบาย ท่านเป็นผู้ใหญ่ เราเชื่อว่าท่านต้องรับฟังและเข้าใจเหตุผลของคุณค่ะ ที่ผ่านมาคุณไม่เคยพูดหรือเปล่า ท่านเลยอาจจะไม่ทราบ ลองใช้วิธีนี้ดูนะคะ เรามาสายไปหรือเปล่า กระทู้วายแล้ว
เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะค่ะ ท่านคงรักหลานท่านมากเราว่าคุยให้ท่านเข้าใจ ไม่น่าจะมีัปัญหานะค่ะ เราไม่คิดว่าท่านไม่เกรงใจคุณนะค่ะ แต่เพราะคุณไม่เคยบอกท่านว่าคุณเหนื่อย หรือลูกคุณเหนื่อย ลองคุยกันดีกว่านะค่ะ
ยังงัยก็เอาใจช่วยค่ะ
อ่านทั้งเนื้อหากระทู้และคอมเมนท์ ถ้าปรึกษาคุณสามีแล้วเกิดการเข้าใจผิดคิดเป็นอื่นไปว่าเรา
ไม่เคารพพ่อแม่เค้า มันก็แย่นะคะ แม่คุณรักหลานจริงแต่ความรักหลานจนไม่เกรงใจคนรอบข้างเนี่ย
เราว่ามันไม่ถูกต้อง คนที่โตๆมีอายุขนาดเป็นย่าคนแล้วน่าจะคิดเองได้นะคะ
แล้วกับคุณสามี แม่เค้ามาทำเราเดือดร้อน คุณจะไปยอมอดทนเก็บไว้ทำไม
ที่ถูกสามีควรเป็นคนกลางระหว่างแม่ตัวกับภรรยาสิ
ถ้าอธิบายด้วยเหตุผลแล้วไม่ฟัง ก็ให้สามีลองอยู่ดูลูกเองค่ะให้เค้าดูแลลูกแบบที่คุณทำบ้าง
จากที่คุณจขกทเขียนอธิบายไว้ในกระทู้ ดูๆแล้วหน้าที่ดูแลลุกเหมือนจะเป็นของคุณฝ่ายเดียว
ปล.ปัญหานี้เราว่าแก้ได้นะคะ ด้วยการเปิดใจพูดคุยกันทั้ง2ฝ่าย
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นมาก ๆ เลยนะคะ (รู้สึกดีขึ้นมาเยอะเลยอ่ะค่ะ จากที่เครียด ๆ)
คุณ Mink - ขอบคุณนะคะ ใช่อย่างที่คุณบอกเลยคะเราไม่กล้าที่จะตัดสินใจ แต่เราจะพยายามเข้มแข็งเพื่อลูกคะ
คุณ Metamorph - ขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำนะคะ
คุณ mtfnmtfn - เราจะนึกถึงลูกให้มากที่สุดคะ ขอบคุณนะคะ
คุณ unlee - ปัญหาของเราเหมือน คุณ เอื้องจันทร์ เลยคะ ถามว่าเคยเกริ่น ๆ กับสามีมั้ย??? เคยคะ (เกริ่นแบบอ้อม ๆ มาก ๆ เลยนะคะ) ยังค่อนข้างมีปัญหาเลยคะ (คือประมาณว่า ว่าเราไม่เคารพนับถือพ่อแม่เค้าอะไรประมาณเนี่ยอ่ะคะ) ก็เลยไม่อยากให้กลายมาเป็นปัญหาชีวิตคู่อีกอ่ะคะ (ปัญหาเท่าที่เป็นอยู่ก็ถือว่าทำให้ปวดหัวพอควรแล้วอ่ะคะ) แต่เราก็จะพยายามพูดกับเค้าด้วยเหตุด้วยผลให้มาที่สุดเพื่อลูกคะ ตอนนี้ลูกชายเราอายุ 1 ขวบกับอีก 4 เดือนอ่ะคะ กำลังซนเลยคะ (จับปูใส่กระด้ง ชัด ๆ)
คุณ เอื้องจันทร์ - ชีวิตเราคล้าย ๆ กันเลยเนอะ เรากับสามีก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอ่ะคะ เราอยู่กับครอบครัวเรา(ที่กทม.) ส่วนสามีเราอยู่กับครอบครัวเค้า(ที่ตจว.) เค้าจะมาหาลูกเดือนละครั้ง 2 ครั้ง แล้วแต่เค้าคะว่าจะสะดวกตอนไหน ส่วนท่านก็จะมาเดือนละครั้ง แล้วแต่สะดวกเหมือนกัน
คุณ imi - เราจะพยายามหาทางออกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณนะคะที่เป็นกำลังใจให้
ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ (ซึ้งใจจริง ๆ) พอดีลูกชายเราไม่สบายอ่ะคะเลยไม่ได้เข้ามาดูเลย
คุณ schneesturm - ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงเรา ใช่เรายอมรับว่าเราเหนื่อยมาก ๆ เหนื่อยกายไม่ค่อยเท่าไรอ่ะคะ แต่เหนื่อยใจนี้เหนื่อยที่สุดเลย ที่สามีของเราตีความหมายไปอีกนัยนึง แต่เราก็ไม่แคร์แหล่ะ เราเลยไปคุยกะแม่เค้าเองเลยโดยตรง เราลอง ๆ คุยกับท่านแล้วคะ ท่านก็เข้าใจเราอยู่นะคะ (แต่เราพูดแบบอ้อม ๆ เอาบุคคลที่ 3 มาอ้าง **แต่บุคคลที่ 3 เค้ารับทราบและยินดีให้แอบอ้างนะคะ**) เด๋วนี้จากได้นอน 4 ทุ่มกว่า ๆ เปลี่ยนเวลาเป็น 2 ทุ่มกว่าก็ขึ้นนอนแล้วคะ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยนึงหวังว่าเรื่่องจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แย่ลงอีกอ่ะคะ (สาธุ ๆ เพี้ยง ๆ)
คุณ thapoy - ขอบคุณนะคะที่เป็นกำลังใจให้เรา ขอบคุณจริง ๆ @^_^@
คุณ summer sunshine - ถึงจะกระทู้จะวายแล้วก็ไม่เป็นไรคะ เราดีใจจิง ๆ นะคะ ที่มีเพื่อนในที่นี้ได้ให้คำแนะนำต่าง ๆ ถึงเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับความสวยความงามเลยก็ตาม (เราจากเด็กสาววัยรุ่นรักการแต่งหน้าแต่งตัว จนตอนนี้กลายเป็นแม่คนแล้ว เราก็ยังอยู่ด้วยกันเนอะ ๆ) ขอบคุณสำหรับแนะนำนะคะ ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้นแล้วคะ