น้ำมะเขือเทศกับประโยชน์ดีๆ

     สวัสดีค่ะวันนี้รถเมล์ว่างจากการทำงานบ้านเลยมารีวิวน้ำมะเขือเทศเข้มข้นที่ลองทำเอง รสชาติเหมือนที่เคยซื้อกินเลย

 ปกติรถเมล์จะซื้อของดอยคำกิน แต่แถวบ้านรถเมล์หาซื้อยากมาก เลยลองซื้อมะเขือเทศมาลองทำดู เลือกลูกที่สีแดงๆมาทำค่ะ วิธีที่รถเมล์ทำคือนำไปต้มให้สุก ตอนต้มใส่น้ำแค่พอท่วมมะเขือเทศก็พอค่ะ ต้มจนเละ จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเอาเปลือกออก  นำมาปั่นใส่เกลือเล็กน้อย แล้วนำมากรองอากากที่เหลือออกค่ะ ได้อย่างที่เห็นนี่ค่ะ

 

 

 

กินนมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน (lycopene) สูง



          ไลโคปีน (Lycopene)เป็นสารสำคัญที่พบได้ในผลมะเขือเทศ จัดเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งใน 600 ชนิด พบไลโคปีนได้ใน มะเขือเทศ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และมะละกอ เป็นต้นพบไลโคปีนในปริมาณตั้งแต่ 0.9 –9.30 กรัม ใน 100 กรัมของมะเขือเทศสด

          ไลโคปีนเป็นสารประกอบที่ได้รับความสนใจเนื่องจากมีรายงานว่ามีประโยชน์ต่อ สุขภาพ โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ที่ชัดเจนที่สุด คือ มะเร็งต่อมลูกหมาก รองลงมา คือมะเร็งปอด กระเพาะอาหาร นอกจากนี้ก็ยังแสดงให้เห็นประโยชน์ของการได้รับไลโคปีนในการลดความเสี่ยงของ มะเร็งตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ (colon) ทวารหนัก คอหอย ช่องปาก เต้านม ปากเป็นต้น

 ควรรับประทานมะเขือเทศสดหรือมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงอาหารแล้ว

          ความเชื่อที่ว่าของสดดีกว่าของที่ปรุงแล้ว ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป   ในกรณีของมะเขือเทศเป็นหนึ่งในข้อยกเว้น     มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจะทำให้การยึดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของ มะเขือเทศอ่อนตัวลง ทำให้ไลโคปีนถูกร่างกายนำไปใช้ได้ดีกว่า นอกจากนี้ความร้อนและกระบวนการต่างๆในการผลิตผลิตภัณฑ์มะเขือเทศยังทำให้ไล โคปีนเปลี่ยนรูปแบบ (จากไลโคปีนชนิด “ออลทรานส์”(all-trans-isomers)เป็นชนิด “ซิส”   (cis -isomers)) คือ เป็นชนิดที่ละลายได้ดีขึ้น

มะเขือเทศสดและผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ ชนิดใดให้ไลโคปีนสูงกว่ากัน

                โดยทั่วไป ปริมาณไลโคปีนในผลไม้และมะเขือเทศสดจะไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อนำมะเขือเทศสดไปผ่านกระบวนการผลิตให้อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์มะเขือ เทศชนิดต่างๆ พบว่าปริมาณไลโคปีนสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการผ่านกระบวนการทำให้เข้มข้นขึ้น ดังนั้น อาหารอิตาเลียน พวกพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ที่มีการแต่งรสด้วยซอส หรือผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) ที่ผลิตจากมะเขือเทศ จึงเป็นแหล่งให้ไลโคปีนที่ดี

 

 

 

 ซึ่งบางคนอาจเข้าใจว่าการทำให้สุกอาจสูญเสียวิตามิน แต่ถ้าเราทานเพื่อต้องการไลโคปีนเราจำเป็นต้องทำให้สุกก่อนถึงจะนำไลโคปีนมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เป็นการวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิยาลัยมหิดล ข้อมูลได้มาตามลิงค์นี้เลยค่ะ htpp://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=1

 รสชาติเหมือนที่ซื้อทานเลยค่ะ  ครั้งหน้าจะมารีวิววิธีทำนะคะ รอบนี้ไม่ได้ถ่ายรูปตอนทำไว้ ดูรูปตอนทำเสร็จไปก่อนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Discussion (12)

เมื่อก่อนไม่ชอบกินมะเขือเทศเป็นลูกๆเลยค่ะ  แต่กินได้แค่น้ำมันอ่ะ  ชอบกินน้ำมะเขือเทศมากๆ

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ

เราก็ศัตรูกับมะเขือเทศเหมือนกันค่ะ แต่พออ่านที่ทุกคนทั้งในจีบันและพันทิปมารีวิวและคอนเฟิร์มว่ามันดีจริงๆ ถึงแม้กลิ่นและรสชาติจะชวนคลื่นไส้ แต่ถ้าทำได้มันดูคุ้มมากๆ เราเลยตัดสินใจเริ่มลองดู ครั้งแรกจะพุ่งให้ได้ แล้วแบบรสชาติมันค้างติดปาก แหวะๆ แต่ก็อดทน เพื่อความสวย!! ตอนนี้ดื่มมาได้ซักสองอาทิตย์ละค่ะ เริ่มชิน เราว่ากลิ่นนี่มันทำให้จะอ้วกนะ รสชาติเราว่าก็โอเค ตอนนี้เราเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆ อยากลองให้หมด จะได้รู้ว่าอะไรอร่อยและแหวะน้อยที่สุด 555 เราลองของ มาลี ทิปโก้ และก็ดอยคำ ตอนนี้ชอบ ดอยคำมากที่สุดค่ะ หลายคนบอกว่าเค็มมาก แต่เราว่าไม่เห็นจะเค็มเลยนะ  ตอนนี้ซื้อยี่ห้อชบามาตุนไว้แล้วอีกหนึ่ง ยังไม่เห็นของ Brook และ UFC เดี๋ยวกินไปซักเดือนสองเดือน จะมารีวิวน้ำมะเขือเทศดีฝ่าา 555 ใครอยากลองๆเลยนะคะ เพื่อความสวย!!

 

ปล.ตอนนี้ดื่มน้ำมะเขือเทศได้แล้ว แต่ก็ยังไม่กินมะเขือเทศอยู่ดี 55 ก็เค้าไม่ชอบอะไรที่มันมีเม็ด แล้วก็ฉ่ำาๆอ่ะ แตงกวาเราก็ไม่ปลื้ม TT 

ก่อนกินก็เตรียมใจไว้ว่ารสชาติมันต้องสยดสยองมากแน่ๆ แต่พอได้ดื่มจริงๆกลับชอบแฮะ คงเพราะว่าเราชอบกินซอสมะเขือเทศหรือปลากระป๋องด้วยมั้ง 5555 แต่มาคอนเฟิร์มว่าผิวดีขึ้นจริงๆค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องควบคู่ไปกับการดูแลในด้านอื่นด้วยนะ 

อืมมมมม....สำหรับเรานะคะ เราเป็นคนที่เป็นปรปักษ์กับมะเขือเทศมาตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้วอ่ะ

 

แต่ทราบมั้ยคะว่าทำไมเราถึงสามารถเปลี่ยนความคิดแล้วกลับกลายเป็นพันธมิตรกับมะเขือเทศได้ก็เพราะ..........ความอยากผิวสวยเนี่ยแหละค่ะ  และแรงบันดาลใจที่ได้ก็มาจากเว็บจีบันค่ะ

มีเพื่อนๆหลายท่านที่ได้ทำรีวิว เกี่ยวกับน้ำมะเขือเทศ อ่านกี่กระทู้เค้าก็คอนเฟิร์มว่าดีกันทั้งนั้น

แรกๆ ก็ทำใจลำบากอย่างที่หลายท่านกล่าว แต่พอเปิดใจดู คิดวะว่ามันก็เหมือนๆผัก ผลไม้ทั่วไป

ปิดจมูกก็ไม่ได้กลิ่นแล้ว ยิ่งทานตอนเป็นหวัดยิ่งง่ายค่ะ เพราะการรับรู้รสชาติ หรือกลิ่นจะบกพร่อง ก็เลยทานง่าย  โดยส่วนตัวได้ลองทานน้ำมะเขือเทศมาเป็นเวลา 1 เดือน วันละ 2 กล่อง เย็น1กล่อง 

ก่อนนอน 1 กล่อง รู้สึกว่า ผิวพรรณทั้งใบหน้าและร่างกาย ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น สังเกตุจากแขนดูใสขึ้น

รอยสิวบนใบหน้าจางลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีเว่อร์หรอกค่ะ จะทานไปเช่นนี้เรื่อยๆ และหวังว่าสักวันหนึ่ง เมื่อเห็นผลชัดเจน จะมาทำรีวิว ให้เพื่อนๆได้ชม และกลับใจยอมทานมะเขือเทศทั้งสุกทั้งดิบให้ได้ค่ะ

 

ขอบคุณจขกท.นะคะ ที่แบ่งปันความรู้ดีๆค่ะ

แล้วเลือดกรุ๊ฟบีสามารถทานได้ไม๊ค่ะน้ำมะเขือเทศเนี๊ย เคยอ่านเจอเค้าบอกว่ามันไม่ดีกับเลือดของคนที่มีเลือดกรุ๊ฟบีอ่ะค่ะ อยากทานเพราะอยากผิวสวย ไครรู้ช่วยตอบด้วยน่ะค่ะ :)))