Jeban's talk มาสครับผิวให้เนียนสวยกันเถอะ
mamamarie13สาวๆทุกคนคงอยากจะมีผิวที่สวยใสซึ่งตัวช่วยที่ทำให้ผิวดูสวยใสก็มีหลายประการไม่ว่าจะเป็น การบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ (ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล )หรือแม้กระทั้งการเตรียมผิวด้วยเมคอัพต่างๆก็ช่วยพรางริ้วรอย จุดด่างดำ หรือสภาพผิวจริงของเราได้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าอยากให้ผิวสวยใสแบบไร้เมคอัพคือดูผิวสุขภาพดีนั้นยังมีขั้นตอนอีกประการหนึ่งคือ การสครับผิว ซึ่งเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายออกไป นอกจากจะช่วยให้ผิวสะอาดแล้วยังช่วยในเรื่องของการหมุนเวียนเลือดที่อยู่ภาย ในให้หมุนเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวพรรณของคุณดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลอีกด้วย ปกติผิวจะมีการผลัดเซลล์ผิวทุก 2-4 สัปดาห์ แต่เมื่ออายุเกิน 20 ปี การผลัดเซลล์ผิวจะช้าลงทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยและผิวหมองคล้ำ การขัดผิวด้วยฟองน้ำ เกลือขัดผิว แปรง หรือวิธีอื่น ๆ จึงช่วยให้เซลล์ผิวผลัดตัวเร็วขึ้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใส
ทีนี้มาดูกันว่าประโยชน์ของการสครับผิวแต่ละสภาพผิวมีอะไรบ้าง
- ผิวแห้ง การขัดผิวที่เสื่อมสภาพออกจะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวผิวจึงไม่แห้งตึง
- ผิวผสม ลดปัญหาการเกิดสิวช่วยให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ
- ผิวมัน ช่วยให้รูขุมขนสะอาดขึ้นลดการอุดตันและลบเลือนรอยดำจากสิว
- ผิวที่มีริ้วรอย กระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติให้ทำงานดีขึ้น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและความหมองคล้ำ ผิวจึงดูสดใสและอ่อนวัยขึ้น
- ผิวที่ไม่เรียบเนียน ช่วยลบเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยที่เกิดจากสิว
- ผิวแตกลายหรือผิวเปลือกส้ม การขัดผิวด้วยฟองน้ำนุ่ม ๆ หรือใยบวบธรรมชาติที่แช่น้ำจนนิ่ม ในบริเวณที่ผิวแตกลาย เป็นคลื่น เป็นลอน ทุกวัน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและลบเลือนริ้วรอยให้จางลงได้
** การขัดผิวหน้าควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และขัดผิวกายเดือนละ 1-2 ครั้ง โดยวนมือเป็นวงกลมเบา ๆ หลังขัดผิวควรหามอยส์เจอไรเซอร์มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว **
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสครับ
ควรสครับผิวหน้าในช่วงเวลา เย็น-กลาง คืน เพราะหลังจากเราสครับผิวหน้าเสร็จแล้ว ร่างกายของเราจะได้มีการพักผ่อน เซลล์ผิวจะได้รับการซ่อมแซม และฟื้นตัวจากการสูญเสียน้ำมันเพราะเราสครับผิวหน้าไปนั่นเอง
ที่สำคัญผิวที่เป็นสิวควรงดการสครับ เพราะจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ แต่ถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่ดี ก็ยังคงทำได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกรดของ Salicylic Acid ที่ไม่เข้มข้นจนเกินไป (ไม่ควรเกิน 2 เปอร์เซนต์) ซึ่งจากการวิจัยในสถาบันชั้นนำจากต่างประเทศ พบว่าสาร Salicylic Acid สามารถ ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน ขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และมีส่วนช่วยให้การกระตุ้นกระบวนการผลิตโปรตีนคอลลาเจน รวมไปถึงช่วยการชะลอกระบวนสร้างเม็ดสีผิวได้อีกด้วย
เมื่อสครับผิวแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ควรจะมีการบำรุงผิวด้วยครีมบำรุง ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และคอลลาเจน เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้นเอาไว้ด้วย นอกจากนี้หลังจาการสครับจะทำให้เนื้อครีมบำรุงนั้น สามารถซึมซับเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ดียิ่งขึ้นและควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังจากทำการสครับผิว นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการสครับผิวอย่างน้อย 48 ชม. หาก รู้ว่าต้องไปในสถานที่ที่มีแดดจัด เพราะถ้าหากเราทำการสครับผิวแล้ว ผิวจะบาง และไวต่อสิ่งต่างๆ ที่เข้ามากระทบ ยิ่งหากไปเจอกับแดดแรงๆ จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เซลผิวใหม่ที่ผลัดขึ้นมาก็จะดูไม่กระจ่างใสเพราะโดนรังสี UV เล่น งานอีกด้วย และในช่วงที่สภาพอากาศแห้ง ผิวจะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์สครับผิวหน้าที่มีสูตรอ่อนโยน เม็ดบีดละเอียดไม่หยาบคม
ทีนี้มาดูว่า สครับที่จะมานำเสนอวันนี้ได้แก่
มาร์คข้าว ของ สกินฟู้ดนั้นเอง ของเราเป็นขนาดทดลองนะคะ
มาร์คข้าวเป็นมาร์คอันโด่งดังในอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว เนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะสีขาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีเม็ดสครับเหมือนเม็ดข้าวสารแต่ไม่ได้หยาบคม เมื่อลองสครับลงบนผิวหน้าแล้ว ไม่ได้บาดหน้าเลย หลังจากสครับผิวแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวนุ่มมากๆๆ รู้สึกถึงความเรียบเนียนของผิว นอกจากนี้ราคาก็สบายกระเป๋าอีกด้วย ถือว่าเป็นสครับที่ดีและคุ้มค่าตัวหนึ่งเลยหล่ะ
เมื่อหมดแล้วก็คิดว่าคงจะซื้อต่อ เพราะชอบมากๆค่ะ
USER review : http://www.jeban.com/reviews_product.php?review=81388
สครับอีกตัวหนึ่ง คือ Eucerin Demopurifyer
เนื้อจะเป็นสีใสๆมัเม็ดบีทส์สีเขียวผสมอยู่และมีเม็ดสครับเล็กอยู่ในเจลสครับนั้นด้วยค่ะ สำหรับเราเราว่าเนื้อมันไม่หยาบจนเกินนะคะ ใช้เสร็จมามาร์กมาต่อหน้านุ่มเนียนมาก เวิร์คสุดๆ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เขสเคลมมาว่าช่วยรักษาสิวอุดตันด้วย ชอบเลย แต่ช่วยรักษาสิวอุดตันได้ดีไหม เท่าที่ใช้มายังไม่เห็นผล ทราบแต่ว่าหลังสครับแล้วหน้ารู้สึกนิ่มและสะอาดมากค่ะ
ยืมรูปมาจากhttp://www.erk-erk.com/2011/12/review-eucerin-dermopurifyer-set-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%82/
USER REVIEW : ยังไม่มีใน user review ค่ะ
นอกจากนี้เมื่อสครับใบหน้าแล้วบนใบหน้าเรายังมีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ควรสครับเหมือนกันนั้นคือ
การสครับปาก ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สครับก็มีมากมายหลายยี่ห้อ แต่สำหรับที่เราจะเอามารีวิววันนี้คือ เป็นสครับที่เราสามารถทำเองได้ แถมราคาไม่แพงด้วยค่ะ
ส่วนผสมคือ น้ำตาล วาสลีน น้ำผึ้ง เอามาผสมกัน
ผลลัพธ์ที่ได้คือ หลังจากสครับปากนุ่มมากเลย แถมปากที่เคยคล้ำๆก็แดงระเรื่อขึ้นมา ทำให้การทาลิปสติกดูสวยขึ้นเพราะปากไม่ดูแตกเป็นร่องน่าเกลียดค่ะ แล้วอย่าลืมทาลิปบาร์มบำรุงหลังสครับปากด้วยนะจ้ะสาวๆ
USER REVIEW : (vaseline) ไม่มีใน user reviewค่ะ
CR :http://www.dek-d.com/content/boy/28063/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2.php
รูปภาพ by google
Discussion (3)
เอาน้ำตาลมาสครับหน้า
รู้สึกว่าหน้าหนุ่มขึ้น ดูใสๆ ขึ้นด้วยนะค่ะ
เคยลองทำสครับปากทำเสร็จแล้วปากนุ่มเนียนชมพูขึ้นด้วยค่ะ
@justbewty ใช่เลย ชอบปากเวลาหลังสครับเสร็จจังเนอะ
@ToodMook ว้าวน่าลองจัง จะเหมือนมาร์กน้ำตาล สกินฟู้ดป่าวเอ่ย